อาบู ดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ – 30 พฤษภาคม 2566 – สถาบัน Finschia Foundation องค์กรไม่แสวงหากำไรที่ก่อตั้งขึ้นในกรุงอาบู ดาบี เพื่อเป็นองค์กรอิสระที่รับช่วงต่อในการดำเนินงานด้านเครือข่ายบล็อกเชน Mainnet และสินทรัพย์ดิจิทัลของ LINE Blockchain ได้เสร็จสิ้นการรวมเครือข่ายบล็อกเชน Mainnet รุ่นที่ 2 เข้ากับ “Finschia” เครือข่ายบล็อกเชน Mainnet แบบสาธารณะรุ่นที่ 3 พร้อมเปลี่ยนชื่อสินทรัพย์คริปโต LINK (LN) เดิมไปเป็น FINSCHIA (FNSA) เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา
สถาบัน Finschia Foundation (“สถาบัน”) ก่อตั้งขึ้นในเดือนมีนาคมโดย LINE Tech Plus ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านบล็อกเชนของ LINE เพื่อขยายธุรกิจ Web3 และพัฒนาโมเดลโทเคนที่ยั่งยืนสำหรับผู้ใช้งาน Web3 ทั่วโลก
การอัปเกรด Mainnet ซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม จะสร้างโครงสร้างแบบคอนซอร์เทียมที่บริษัทชั้นนำในหลากหลายอุตสาหกรรมสามารถมีส่วนร่วมในฐานะสมาชิก และตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายที่สำคัญสำหรับระบบนิเวศ Finschia ได้โดยตรง โดยโครงสร้างใหม่นี้ หรือ Finschia Governance 2.0 จะเปิดตัวภายหลังในปีนี้ และสถาบันจะถ่ายโอนอำนาจในการตัดสินใจให้แก่สมาชิกเพื่อสร้างเศรษฐกิจโทเคนที่เป็นธรรมและโปร่งใส
เครือข่ายบล็อกเชน Mainnet หลังการรวมเครือข่ายจะให้บริการบริหารจัดการและออกสินทรัพย์คริปโต FINSCHIA (FNSA) และ FT/NFT (Fungible/Non-Fungible Tokens) รวมถึงได้เปิดตัวเทคโนโลยีการสื่อสารระหว่างบล็อกเชน (Inter-Blockchain Communication: IBC) ซึ่งจะทำให้เกิดการส่งข้อมูลระหว่างระบบนิเวศบล็อกเชนที่ต่างกัน เพื่อให้นักพัฒนาภายนอกสามารถร่วมทำงานระบบนิเวศ Finschia ได้อย่างปลอดภัย
ข้อมูลจาก Daphne เครือข่ายบล็อกเชน Mainnet รุ่นที่ 2 ได้ถูกรวมเข้ากับ Finschia โดยข้อมูลจำนวนสินทรัพย์คริปโตและประวัติการฝากและถือครองโทเคน (staking history) จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ผู้ใช้งานจะได้รับรางวัลตอบแทนที่ยุติธรรมและโปร่งใสสำหรับการมีส่วนร่วมในระบบนิเวศ Finschia ตามนโยบาย Token Economy 2.0
สถาบัน Finschia Foundation ยังได้เปลี่ยนชื่อสินทรัพย์คริปโต LINK (LN) เป็น FINSCHIA (FNSA) ไปพร้อมกับการรวมเครือข่ายด้วยเช่นกัน ซึ่งจากการเปลี่ยนชื่อทั้งเครือข่าย Mainnet และสินทรัพย์คริปโต ทางสถาบันมีแผนที่จะสร้างแพลตฟอร์มบล็อกเชนแบบสาธารณะที่ทั้งพันธมิตรและผู้ใช้งานในหลากหลายสาขาไม่เฉพาะกับ LINE เท่านั้นสามารถใช้งานได้โดยง่าย
ยงซู โก ประธานสภาคณะกรรมการ Finschia Foundation กล่าวว่า "เครือข่ายบล็อกเชน Mainnet ใหม่นี้จะให้บริการแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่เสถียรและโปร่งใสมากขึ้น และเรายังมุ่งมั่นที่จะขยายไปสู่ระบบนิเวศที่มุ่งเน้นการทำให้ Web3 เป็นที่นิยมภายใต้ชื่อใหม่ว่า Finschia"
สถาบัน Finschia Foundation ยังได้ประกาศนโยบายการให้รางวัลตอบแทนในการมีส่วนร่วมในการให้บริการ (service contribution) สำหรับผู้ใช้งานที่เพิ่มมูลค่าของระบบนิเวศ Finschia ในเดือนเมษายน และเปิดตัว DOSI แพลตฟอร์ม NFT ระดับโลก ในฐานะผู้ร่วมให้บริการรายแรก (first service contributor) เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ผู้ใช้งานรายใดที่มีส่วนร่วมกับ Finschia ผ่านการชำระเงินและทำธุรกรรมกับ FINSCHIA (FNSA) สามารถลงทะเบียนเป็นผู้มีส่วนร่วมได้ที่ contact@finschia.org เพื่อรับรางวัลตอบแทนตามการมีส่วนร่วมของแต่ละราย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น