วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2565

realme GT 2 Pro แฟล็กชิปสุดพรีเมียมจากแบรนด์ realme มาพร้อมสีใหม่ล่าสุด Paper Green กับราคา Early Bird เพียง 22,990 บาท 5-6 พฤษภาคมนี้เท่านั้น บนช่องทางออนไลน์

 


กรุงเทพฯ 29 เมษายน 2565 – realme แบรนด์สมาร์ตโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก หลังจากที่ได้เปิดตัว realme GT Pro สมาร์ตโฟนแฟล็กชิปพรีเมี่ยมรุ่นใหม่ล่าสุดจาก realme ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ กระแสมาแรงสุด ๆ กับยอดขาย 300 เครื่องภายใน ชั่วโมง และยังทุบสถิติยอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในหมวดสมาร์ตโฟนระดับราคา 20,000 บาท บนช่องทางออนไลน์อีกด้วย  โดยล่าสุด realme พร้อมนำเสนอสีใหม่ ‘Paper Green’ เอาใจผู้ที่ชื่นชอบสไตล์ Green Lover โดยมาพร้อมโปรโมชั่น Early Bird เหลือเพียง 22,990 บาท จาก 24,990 บาท เฉพาะวันที่ 5-6 พฤษภาคมนี้ บนช่องทาง Shopee, Lazada และ JD Central เท่านั้น


 

image.png

 

realme GT 2 Pro เป็นสมาร์ตโฟนที่พรีเมียมที่สุดของแบรนด์ มาพร้อมนวัตกรรมใหม่ ๆ ครั้งแรกของโลกในอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟน เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานระดับไฮเอนด์อันน่าประทับใจแก่ผู้ใช้งานในประเทศไทย เริ่มจากขุมพลังใหม่ล่าสุด Snapdragon Gen 1 และจอแสดงผล Super Reality กับความละเอียด 2K AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว และยังโดดเด่นด้วยดีไซน์จากวัสดุไบโอโพลีเมอร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมครั้งแรกของโลก ที่ออกแบบโดยนาโอโตะ ฟุคาซาวา ดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่นชื่อดังแห่งวงการออกแบบสินค้าอุตสาหกรรมระดับโลก พร้อมด้วยเทคโนโลยีการถ่ายภาพขั้นสูงด้วยกล้องมุมกว้าง Ultra-wide 150° พร้อมเลนส์มาโคร 40x

 

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบชาร์จเร็ว 65W SuperDart Charge กับแบตเตอรี่ความจุสะใจ 5000mAh ระบบเสียง Advanced Antenna Matrix System and Dolby Atmos Dual Stereo Speakers โดยทั้งหมดทำงานร่วมกันได้อย่างลื่นไหลด้วย realme UI 3.0 บนระบบปฏิบัติการ Android 12

 

เตรียมเป็นเจ้าของก่อนใครกับ realme GT 2 Pro สมาร์ตโฟนสุดพรีเมี่ยม สำหรับสีใหม่ล่าสุด Paper Green ในวันที่ 5-6 พฤษภาคมนี้ บนช่องทางออนไลน์ ได้แก่ Shopee, Lazada และ JD Central  ในราคา Early bird 22,990 บาท และยังได้เตรียมวางจำหน่ายที่ realme Brand Shop เร็ว ๆ นี้อีกด้วย

 

image.png

สวนกระแสค่าไฟแพง “ต้อง”พึงพาพลังงานทางเลือก

 


   สาเหตุค่าไฟฟ้าแพงเกิดมาจากนโยบายพลังงานที่ล้มเหลว มีการพึ่งพาพลังงานนำเข้ามากเกินไป จนไม่สามารถกำหนดราคาพลังงานในประเทศได้  ถึงเวลาต้องพึ่งพาพลังงานหมุนเวียนในประเทศ ให้ได้โดยเร็ว  นักวิชาการและนักรณรงค์เรียกร้องรัฐบาลต้องลดอุปสรรคการติดตั้งโซลาร์เซลล์ ส่งเสริมพลังงานทางเลือกที่สะท้อนมาจากเวที สภาองค์กรของผู้บริโภค
ความล้มเหลวด้านนโยบายพลังงานอาจสะท้อนให้เห็นได้จากข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของไทยว่า ในขณะที่ปัจจุบันคนไทยเสียค่าไฟฟ้าโดยเฉลี่ยคนละ 10,000 บาทต่อปี แต่ความสามารถในการพึ่งพาตนเองด้านพลังงานของไทยในช่วง 12 ปี   กลับลดลงจาก 46% เหลือแค่ 25% เท่านั้น ผศ.ประสาท มีแต้ม  ประธานอนุกรรมการด้านบริการสาธารณะ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม สภาองค์กรของผู้บริโภค ชี้แจง และกล่าวเสริมว่า “การพึ่งพาตนเองด้านพลังงานของไทยอยู่ในระดับที่น่ากังวลอย่างมาก เพราะไทยต้องนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ โดยในปีที่ผ่านมาเราใช้ก๊าซธรรมชาติเพื่อผลิตไฟฟ้ารวมมูลค่าสูงถึง 3.2 แสนล้านบาท ในขณะที่สหรัฐอเมริกาส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG)  มากที่สุดในโลก แต่กลับใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าเพียง 38% เท่านั้น สลับกับไทยที่ต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติ  แต่กลับใช้ก๊าซธรรมชาติผลิตไฟฟ้าสูงถึง 64%   เรียกว่าของที่เราไม่มี นำเข้า เราใช้เยอะ แต่ของที่เรามีแต่เราไม่ใช้”
            จะเห็นได้ว่า ประเทศเยอรมนีถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าศึกษาด้านนโยบายการพึ่งพาตนเองด้านพลังงาน เพราะใช้พลังงานจากโซล่าร์เซลล์ ชีวมวล พลังงานลม และพลังงานน้ำเพื่อผลิตไฟฟ้า ส่วนรัฐบาลอินเดีย ได้ส่งเสริมโดยการให้เงินสนับสนุนประชาชนเพื่อติดตั้งโซล่าร์เซลล์ถึง 40% และรับซื้อไฟที่เหลือแบบ net-metering  และที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา  มีการวางแผน 14 ปีต้องติดตั้งโซลาร์เซลล์ 1 ล้านหลังคาเรือนให้สำเร็จโดยปัจจุบันสามารถติดตั้งได้ถึง 1.4 ล้านหลังคาเรือน  นี่คือความต่อเนื่องทางด้านนโยบายและการเอาจริงเอาจัง ดังนั้น การพึ่งตนเองด้านพลังงาน ก็คือปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่ทำให้ประเทศมีภูมิคุ้มกัน

            แม้รัฐบาลยังไม่มีการส่งเสริมการพึ่งตนเองอย่างเป็นรูปธรรม ก็ได้มีความพยายามที่จะหาทางเลือกด้านพลังงานในกลุ่มประชาชน อย่างเช่นพระปัญญาวชิรโมลี   เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรมและผู้ก่อตั้งโรงเรียนศรีแสงธรรม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ที่ได้มีการนำพลังงานจากโซล่าร์เซลล์มาตั้งแต่ปี 2548  ทำให้ค่าไฟของโรงเรียนศรีแสงธรรมเหลือแค่ 40 บาทต่อเดือน พระปัญญาวขิรโมลีเล่าว่า    “ปัจจุบันวัดมีการถ่ายทอดสดตลอด 24 ชั่วโมง ใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น รวมถึงโรงเรียนมีหอพัก มีเครื่องปรับอากาศ ค่าไฟก็อยู่ที่หลักพันกว่าบาท ถือว่าช่วยประหยัดไปได้มาก สามารถพึ่งพาตนเองได้ อีกทั้งยังขยายความรู้ ฝึกอบรมการติดตั้งระบบโซล่าร์เซลล์ไปยังชาวบ้านในพื้นที่ต่างๆ ด้วย”  พร้อมประกาศตั้งเป้าเดินหน้าติดตั้งโซล่าร์เซลล์ในโรงพยาบาลให้ครบ 77 จังหวัดในอนาคต  พร้อมนำเสนอมุมมองเพิ่มเติมว่าหากประเทศไทยมีการติดโซล่าร์เซลล์เพิ่มขึ้นจนทำให้มีพลังงานไฟฟ้าเกินความต้องการ ก็ควรมีโรงไฟฟ้าแบตเตอรี่กระจายไปทุกท้องที่ เหมือนที่โรงเรียนศรีแสงธรรมได้ทำโครงการโซล่าร์แชร์ริ่งเพื่อขยายโอกาสการเข้าถึงไฟฟ้าในพื้นที่ที่ขาดแคลน
           ขณะที่นายภาคิน เพชรสง ผู้มีประสบการณ์ในการพึ่งพาตนเองด้านพลังงาน จากจังหวัดพัทลุง  ในอดีตประสบปัญหาค่าไฟแพงจากธุรกิจขายพิซซ่าที่ต้องใช้เตาอบและจ่ายค่าไฟไม่ต่ำกว่าเดือนละ 4,500 บาท  แม้จะปรับเปลี่ยนหลอดไฟ ก็ลดค่าไฟฟ้าได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงได้เริ่มเข้าไปศึกษาอบรมการติดตั้งโซล่าร์เซลล์  “วันนี้ที่บ้านเสียค่าไฟฟ้าเพียงแค่ 198 บาทต่อเดือน หลังจากติดตั้งโซล่าร์เซลล์ประมาณ 30 แผงแบบคละระบบ หากระบบใดระบบหนึ่งล่ม ของเราจะไม่ล่ม ระบบโซล่าร์เซลล์ส่วนใหญ่จุดที่ต้องระวังคือแบตเตอรี่ แต่ปัจจุบันพัฒนาไปมาก ได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นแบตเตอรี่ลิเธียม ทำให้อายุการใช้งานนานมากขึ้น
            ส่วนนายนที สิทธิประศาสน์   ผู้แทนกลุ่มอุตสาหกรรม พลังงานหมุนเวียน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวถึงทางออกของประเทศไทยด้านพลังงานว่า ต้องเปลี่ยนผ่านอย่างจริงจัง จากการใช้พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิล ไปเป็นพลังงานหมุนเวียนให้ได้  ซึ่งแผนพลังงานชาติของกระทรวงพลังงาน ภาครัฐตระหนักดี กำหนดชัดเจน  พลังงานหมุนเวียนในระบบไฟฟ้าจะต้องมีไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง  “ปัจจุบันประเทศไทยไม่สามารถคุมราคาพลังงานโลกได้  การผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) อย่างเดียว ส่งผลให้ค่าไฟมีราคาสูงถึง 6-7 บาทต่อหน่วย แต่ราคาค่าไฟเฉลี่ยของไทยอยู่ที่4 บาทเพราะมาจากหลายแหล่ง ทั้งจากก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน พลังงานน้ำ ฟอสซิล  ทั้งหมดสะท้อนให้เห็นว่าไทยไม่มีโอกาสควบคุมต้นทุนราคาพลังงานโลกเลย ดังนั้นการพึ่งพาตนเองระดับประเทศจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เราต้องหาศักยภาพในประเทศให้เจอเพราะต่อไปอีก 30 ปีข้างหน้า พลังงานแสงอาทิตย์จะต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญ แม้ราคาแผงโซล่าร์เซลล์จะถูกลงแล้ว แต่ก็ติดปัญหาที่การกักเก็บ ทำอย่างไรให้ตัวแบตเตอรี่ถูกลงเหมือนโทรศัพท์มือถือ ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น” นายนทีกล่าวพร้อมกับคาดการณ์ว่าไม่เกิน 5-8 ปี จะเป็นจุดเปลี่ยนผ่าน การผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติจะลดลง ไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์จะมากขึ้นและราคาแบตเตอรี่จะถูกลง
            การที่ไทยยังนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ  ดร.นิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ ผู้ช่วยผู้ว่าการยุทธศาสตร์องค์การ  การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า  ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาราคาพลังงานได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่า สะท้อนภาพใหญ่ของประเทศว่าเราเริ่มไม่มีความมั่นคงด้านพลังงานแล้ว ส่งผลให้หลายประเทศเริ่มกลับมาพึ่งพาตนเองให้มากที่สุด “ระบบการกักเก็บพลังงานแม้ปัจจุบันจะมีราคาสูง แต่มั่นใจว่าช่วงเปลี่ยนผ่านในอีก 3-5 ปีข้างหน้า น่าจะมีความเป็นไปได้ว่าเราจะสามารถลดการนำเข้าพลังงานได้ ยิ่งเราพึ่งพาตนเองได้มากเท่าไร ค่าไฟก็จะลดลงมากเท่านั้น แต่สิ่งที่เราต้องดำเนินการต่อไปคือการนำระบบพลังงานหมุนเวียนหลายๆ ชนิดเข้ามาในระบบไฟฟ้าของประเทศไทย”
           รศ.ชาลี เจริญลาภนพรัตน์    สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงต้นเหตุค่าไฟแพงว่า หลายคนอาจคิดเรื่องราคาเชื้อเพลิงอย่างเดียว แต่นั่นแค่ยอดของภูเขาน้ำแข็ง ต้นเหตุยังมาจากโรงไฟฟ้าสำรองไฟฟ้ามากเกินจำเป็น การพยากรณ์การใช้ไฟฟ้าสูงเกินไป และการวางแผน PDP ไม่ดีพอ ไม่สามารถทำนายอนาคตได้ดีพอ ปัญหาการสร้างโรงไฟฟ้าที่ล้นเกินจำเป็นนั้นพบว่ากว่าครึ่งหนึ่งของโรงไฟฟ้าเอกชน IPP (Independent Power Producer)  ไม่ได้เดินเครื่องเลยตลอดทั้งปี บางแห่งก็เดินเครื่องน้อยมาก ทำให้เรามีปัญหาโรงไฟฟ้าสำรองที่มากเกินไปจริงๆ ในปัจจุบัน “ประเทศไทยมีโรงไฟฟ้ามาก หมายความว่าเราต้องจ่ายค่าความพร้อมจ่ายที่มากตามไปด้วยเช่นกัน ที่สำคัญค่าเสื่อมของโรงไฟฟ้าก็ยังถูกนำเข้าไปอยู่ในค่าไฟฟ้าตลอดเวลา นอกจากนี้ ปัญหาของการวางแผนพลังงานไฟฟ้าของไทย เรามักพยากรณ์ไฟฟ้าที่มากเกินความจริง ไม่สอดคล้องกับทิศทางของโลก ซึ่งการวางแผนพลังงาน ก็เน้นไปที่ก๊าซ และพลังงานฟอสซิล เพราะเชื่อว่าพลังงานฟอสซิลเป็นพลังงานที่มั่นคงอย่างเดียว แต่ทุกวันนี้ด้วยเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียน ได้เปลี่ยนความคิดนั้นไปแล้ว ดังนั้น การออกจากวงจรนี้ คือการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนให้มากยิ่งขึ้น เป็นการพึ่งพาตนเอง ลดความผันผวนด้านพลังงานนำเข้าจากต่างประเทศ
           นางสาวบุญยืน ศิริธรรม ประธานสภาองค์กรของผู้บริโภค แสดงความคิดเห็นว่าปัญหาราคาค่าไฟฟ้าแพงที่วันนี้ต้องร่วมกันหาทางออก ประชาชนต้องพึ่งตนเองด้านพลังงานให้มากขึ้น แต่เน้นย้ำว่านโยบายพลังงานที่ดี ต้องไม่ใช่การโยนภาระทั้งหมดไปที่ผู้บริโภค
          โดยสรุปสุดท้ายของการเสวนาหลายฝ่ายได้ให้ข้อเสนอแนะว่าภาครัฐต้องปรับกระบวนการวางแผนกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่ ให้สอดคล้องกับแนวโน้มใหม่ของโลก  ลดการใช้ฟอสซิล เพื่อลดความผันผวนของราคาเชื้อเพลิง ด้วยการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนภายในประเทศ และลดอุปสรรคการผลิตไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์บนหลังคา โดยเริ่มนำร่องจากหน่วยงานภาครัฐ และตามต่อด้วยการส่งเสริมให้ภาคประชาชนและภาคธุรกิจดำเนินการตาม เพื่อประหยัดพลังงาน ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และต้องการให้พิจารณาการผลิตไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์บนหลังคาเป็นสำคัญ

แควนตัสกระตุ้นตลาดเสนอตั๋วโดยสารราคาพิเศษไปออสเตรเลีย

 


เพื่อส่งเสริมการเดินทางทั้งเพื่อติดต่อธุรกิจหรือเดินทางเพื่อท่องเที่ยว ขณะนี้สายการบินแควนตัสเสนอตั๋วโดยสารราคาพิเศษไป-กลับชั้นประหยัด และชั้นธุรกิจ โปรโมชั่น “Summer Deal“  เส้นทางออสเตรเลีย จองและซื้อภายใน 22 พฤษภาคม 2565

 

ตั๋วโดยสารชั้นประหยัดไป-กลับ กรุงเทพฯ-ซิดนีย์-กรุงเทพฯ เริ่มต้น 19,995 บาท กรุงเทพฯ-บริสเบน (ผ่านซิดนีย์)-กรุงเทพฯ เริ่มต้น 21,220 บาท กรุงเทพฯ-เมลเบิร์น (ผ่านซิดนีย์)-กรุงเทพฯ เริ่มต้น 20,910  บาท กรุงเทพฯ-อะดิเลด (ผ่านซิดนีย์)-กรุงเทพฯ เริ่มต้น 21,120 บาท และกรุงเทพฯ-เพิร์ท (ผ่านสิงคโปร์)-กรุงเทพฯ เริ่มต้น 16,145 บาท โดยผู้โดยสารสามารถเดินทางได้ระหว่าง พฤษภาคม- 29 มิถุนายน 15 สิงหาคม-21 กันยายน และ 24 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2565 และได้รับอนุญาตน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระ 30 กิโลกรัมต่อคน โดยไม่จำกัดจำนวนว่ามีกี่ชิ้น

 

ตั๋วโดยสารชั้นธุรกิจกรุงเทพฯ-ซิดนีย์-กรุงเทพฯ เริ่มต้น 89,495 บาท กรุงเทพฯ-บริสเบน (ผ่านซิดนีย์)-กรุงเทพฯ เริ่มต้น 90,720 บาท กรุงเทพฯ-เมลเบิร์น (ผ่านซิดนีย์)-กรุงเทพฯ เริ่มต้น 90,410 บาท กรุงเทพฯ-อะดิเลด (ผ่านซิดนีย์)-กรุงเทพฯ เริ่มต้น 90,620 บาท และกรุงเทพฯ-เพิร์ท (ผ่านสิงคโปร์)-กรุงเทพฯ เริ่มต้น 71,745 บาท ผู้โดยสารสามารถเดินทางได้ตั้งแต่ พฤษภาคม-31 ธันวาคม 2565 พร้อมน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระ 40 กิโลกรัมต่อคน โดยไม่จำกัดจำนวนว่ามีกี่ชิ้น

 

ราคาตั๋วโดยสารข้างต้นรวมอัตราภาษีสนามบิน ค่าบริการ ภาษีน้ำมัน ประกัน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตั๋วโดยสารมีอายุ 1 ปี นับจากวันออกเดินทาง ผู้โดยสารสามารถติดต่อซื้อตั๋วโดยสารได้ที่สำนักงานสายการบินแควนตัส ชั้น 21 อาคารชาญอิสสระ ทาวเวอร์ 1 โทรศัพท์ 02 632 6611 เอเย่นต์ท่องเที่ยวใกล้บ้าน หรือเว็บไซต์ qantas.com

 

ปัจจุบันสายการบินแควนตัสให้บริการเที่ยวบินตรงเส้นทางกรุงเทพฯ-ซิดนีย์-กรุงเทพฯ ด้วยเครื่องบินแอร์บัส A330 จำนวน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ และอาทิตย์ โดยออกเดินทางเวลา 18.10 น. ถึงซิดนีย์เวลา 06.30 น. วันรุ่งขึ้น จากนั้นผู้โดยสารสามารถต่อเครื่องเพื่อเดินทางไปทุกเครือรัฐภายในประเทศออสเตรเลีย หรือต่อเที่ยวบินไปประเทศนิวซีแลนด์หรือเส้นทางอื่น ๆ ทั่วโลก ส่วนเส้นทางขากลับจากซิดนีย์ออกเดินทางเวลา 09.50 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 16.40 น. วันเดียวกัน

 

สำหรับที่นั่งภายในห้องโดยสารชั้นประหยัดเรคาโร (Recaro) ที่มีรางวัลเป็นเครื่องยืนยัน มีการจัดที่นั่งแบบ 2-4-2 ทุกที่นั่งเพียบพร้อมด้วยระบบความบันเทิงพานาโซนิก eX3 (Panasonic eX3) พร้อมจอสกรีนที่ใหญ่ขึ้น เปิดโอกาสให้ผู้โดยสารได้เพลิดเพลินตลอดการเดินทาง ส่วนที่ชั้นธุรกิจบิสสิเนท สวีท (Business Suites) สายการบินแควนตัส รูปแบบที่นั่ง 1-2-1 ดีไซน์โดย มร.มาร์ค นิวสัน และผลิตโดยบริษัททอมสัน แอโร่ ซีทติ้ง จำกัด (Thompso Aero Seating) ที่นั่งสามารถปรับราบเป็นเตียงนอนได้ นับตั้งแต่เครื่องออกจนถึงเครื่องจอดที่จุดหมายปลายทาง เพิ่มโอกาสในการพักผ่อนและนอนหลับแบบสบาย ๆ สอดคล้องกับความต้องการและประสบการณ์ภายในห้องโดยสารที่เน้นความสบาย มีความเป็นส่วนตัว และมีสไตล์

 

ปัจจุบันผู้ที่เดินทางเข้าประเทศออสเตรเลียไม่ต้องตรวจโควิดก่อนการเดินทาง แต่นักเดินทางต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศออสเตรเลียจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ตามข้อกำหนดของสายการบินแควนตัสโดยรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมสามารถคลิกได้ที่

https://www.qantas.com/th/en/coronavirus/international-travel/australia-flights.html

ถาวร เบิ้ลแชมป์ สวิง ไทย ซีเนียร์ พานอราม่าฯ จบลบ11 รับ 1.2 แสน

 


โปรเล็ก ถาวร วิรัตน์จันทร์  เล่นวันสุดท้ายฟอร์มยังดุ หวดอีก 4 อันเดอร์พาร์ 68  รวมสกอร์สามวัน 11 อันเดอร์พาร์ 205 คว้าแชมป์เป็นรายการที่2 ติดต่อกัน ในศึกกอล์ฟอาชีพ ไทย ซีเนียร์ ทัวร์ รายการ "เอ็นเอฟดีเอฟ-ไทย ซีเนียร์ พานอราม่า โอเพ่น" คว้าโทรฟพร้อมเงินรางวัล 120,000บาท รายการนี้ชิงเงินรางวัลรวม 1 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 27-29 เมษายนสนามพานอราม่า กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ จ.นครราชสีมา  โดยมี ประหยัด มากแสง จากหัวหิน คว้าอันดับ 2 ที่สกอร์รวม 10 อันเดอร์พาร์ 206 รับเงินรางวัล 80,000 บาท  (เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เม.ย. 65)

 

กอล์ฟอาชีพอาวุโส ไทย ซีเนียร์ ทัวร์ 2022 จัดโดย สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพอาวุโสไทย และได้รับการสนับสนุนจาก การกีฬาแห่งประเทศไทยกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัดบริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)บีไซด์ สปอร์ต (Besides Sports) ศูนย์ฝึกซ้อมกีฬาในร่ม, วาบีล่า (VABILA), ขวัญเรือน (KWANRUEN) และสนามพานอราม่า กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ รายการนี้เป็นสนามที่ 2 ของฤดูกาลปี 2565 เล่นสโตรดเพลย์สามวัน  54 หลุม ระหว่างวันที่ 27-29 เม.ย. 2565 ชิงเงินรางวัลรวม 1 ล้านบาท โดยได้รับเกียรติจาก น.ส.ธีรารัตน์ ร่มรื่น ผู้อำนวยการ การกีฬาแห่งประเทศไทย สำนักงานนครราชสีมา มอบถ้วยรางวัลให้กับแชมป์ ขณะที่ คุณสุทิน ดรุณโยธิน นายกสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพอาวุโส มอบเช็ครางวัล พร้อมด้วย คุณสุนทร ฉลาดกิจศิริกุล ผู้จัดการทั่วไปสนาม พานอราม่าฯ และ คุณสุพจน์ อนุพันธ์ ที่ปรึกษาสมาคมฯ ร่วมเป็นประธานในพิธีมอบรางวัล

 

การเล่นรอบสุดท้ายเมื่อวันศุกร์ ที่ 29 เม.ย. เกมส์ไม่พลิกเมื่อผู้นำจากสองวันแรก โปรเล็ก ถาวร วิรัตน์จันทร์ คุมเกมส์ไว้ได้หมดด้วยการทำเพิ่มเข้ามาอีก 4 อันเดอร์พาร์ 68 จากผลงาน 5 เบอร์ดี้ 1โบกี้ เบอร์ดี้ของโปรเล็กเกิดจากหลุม 1 ที่พัตต์จากระยะ 2 ฟุต หลุม 4 พาร์ 5 ที่ชอตสองมาอยู่หน้ากรีน ก่อนชิพเข้ามาออน 2 ฟุต หลุม 7 พาร์ 5 ขึ้นชอตสามจากระยะ 85 หลา เข้าไปกิ๊พ และจากหลุม 13 ที่พัตต์เบอร์ดี้จากระยะ 3 ฟุต และหลุม 14 ดีเข้าไปกิ๊พอีกหลุม ส่วนโบกี้เดียวในรอบนี้เกิดที่หลุม 10 ที่ไดร์ฟไม่อยู่และมาเสียดร็อป คว้าแชมป์รายการนี้ด้วยสกอร์รวม 11 อันเดอร์พาร์ 205รับถ้วยพร้อมเงินรางวัล 120,000 บาท และเป็นการคว้าแชมป์ 2 สนามติดต่อจากแมตช์เปิดสนามที่ อัลไพน์ กอล์ฟฯ เชียงใหม่ เมื่อเดือน มี.ค.ผ่านมา

 

โปรเล็กวัย 55 ปี กล่าวหลังจบเกมว่า "ดีใจมากที่คว้าแชมป์เป็นรายการที่ 2 ติดต่อกัน วันนี้เล่นแบบไม่มีความกดดันอะไร รายการนี้เซตสนามได้ดีมาก แค่กรีนจะโหดกับนักกอล์ฟรุ่นอาวุโสไปหน่อยเท่านั้น แต่ยอมรับว่าเล่นได้สนุกตื่นเต้น และเคยคว้าแชมป์ ทีซีที (ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ ทัวร์) ในสนามนี้เมื่อ 4 ปีที่แล้วด้วย"

 

ด้าน โปรหมาย ประหยัด มากแสง สวิงรุ่นพี่วัย 57 ปี ปิดเกมรอบนี้ด้วยผลงาน 4 อันเดอร์พาร์ 68จากผลงาน 2 เบอร์ดี้กับอีก 1 อีเกิ้ลที่หลุม 17 ทำสกอร์รวม 10 อันเดอร์พาร์ 206 คว้าอันดับ 2 รับเงินรางวัล 80,000 บาท โดยมี ไมตรี อริยสัจกุล คว้าอันดับ 3 ด้วยสกอร์รวม 2 โอเวอร์พาร์ 218และ อุดร ดวงเดชาสมชาย สายวงค์ และ มนัส แสงสุย คว้าอันดับ 4 ร่วมจากผลงานรวม 4โอเวอร์พาร์ 220

 

พร้อมกันนั้นทางสมาคมกีฬกอล์ฟอาชีพอาวุโสไทย ยังมอบเงินทุนอีก 20,000 บาทให้กับ โรงเรียนบ้านหนองห่าน (ประชาสามัคคี) เพื่อสร้างห้องสมุด ที่ต่างเป็นลูกหลานของเหล่าบรรดาพนักงาน และแคดดี้ของสนาม โดยมี น.ส.สุพัตรา นามขาว ผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นผู้รับมอบเงิน จากคุณสุทิน ดรุณโยธิน นายกสมาคม และ น.ส.ธีรารัตน์ ร่มรื่น ผอ.กกท.สำนักงานนครราชสีมา เป็นตัวแทนมอบในนามสมาคม

เดลล์ เผยโฉม Precision 5470 เวิร์กสเตชัน 14 นิ้วที่ทรงพลังอย่างไร้คู่เทียบ

 

แนวคิดที่ยิ่งใหญ่มักเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ด้วยแรงบันดาลใจ หรือบางสิ่งที่จุดประกายขึ้นมาอย่างกะทันหัน ช่วงเวลาที่จุดประกายในแบบทันควันนั้นเองที่สามารถเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมและสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ได้

นั่นคือสิ่งที่เรามุ่งเป้าในการพัฒนาโมบายเวิร์กสเตชัน Precision 5470 ซึ่งได้ประกาศเปิดตัวในวันนี้ โดยเป็นเวิร์กสเตชันขนาดเล็กสำหรับการรังสรรค์แนวคิดที่ยิ่งใหญ่


นับเป็นช่วงเวลาที่พิเศษของการเฉลิมฉลอง Precision ที่ครบรอบปีที่ 25 ในปีนี้ และยังเป็น 25 ปีแห่งการคิดค้นนวัตกรรมที่ล้ำหน้า รวมถึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลแห่งการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไปข้างหน้า และ Precision 5470 ก็ได้พิสูจน์ว่าเราจะเดินหน้าพัฒนาต่อไปอย่างไม่มีหยุดยั้ง

พบกับเวิร์กสเตชันขนาด 14 นิ้วที่ทรงพลัง

ถ้าอยากได้เวิร์กสเตชันสักตัว ควรต้องพิจารณา Precision 5470 ที่มอบประสิทธิภาพเทียบเท่าเวิร์กสเตชันรุ่นใหญ่ ขุมพลังที่อัดแน่นแบบนี้หาไม่ได้อีกแล้วในสินค้าคู่เทียบขนาด 14 นิ้ว กับน้ำหนักเริ่มต้นที่ 3.26 ปอนด์ ทำให้ Precision 5470 เป็นแล็ปท็อปตัวแรกของโลกที่ใช้โปรเซสเซอร์ 12th Gen Intel® Core™ H-series ซึ่งได้รับการพิสูจน์ยืนยันแล้วว่าตรงตามข้อกำหนดของแพลตฟอร์ม Intel® Evo™ และอยู่บนแพลตฟอร์ม Intel vPro®  ที่มาพร้อมหน่วยความจำ DDR5 สูงสุด 64GB สตอเรจมีความจุได้สูงสุดถึง 4TB และกราฟิกการ์ด NVIDIA RTX A1000

การใช้พลังงานมากขึ้น หมายถึงความร้อนที่เพิ่มขึ้นไปด้วย การพัฒนาระบบความเย็นมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพของ Precision 5470 ที่มีต่อการออกแบบรูปโฉมที่เพรียวบาง ทีมวิศวกรของเดลล์ได้พัฒนานวัตกรรมด้านระบบบริหารจัดการการระบายความร้อนแบบใหม่ภายใต้เครื่องที่มีขนาดบางเบา โดยที่ไม่กระทบต่อขนาดของหน่วยความจำหรือพอร์ต Thunderbolt™ ที่มีอยู่ โดยเราใส่เทคโนโลยีพัดลม Dual Opposite Outlet ที่เป็นสิทธิบัตรของเดลล์ เพื่อช่วยให้ระบบทำงานด้วยความเร็วสูงซึ่งจำเป็นสำหรับเวิร์กโฟลว์ที่ซับซ้อน และเรายังได้พัฒนาสถาปัตยกรรมบานพับแบบใหม่เพื่อปรับปรุงช่องระบายลมร้อน และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบงานได้อย่างเหมาะสม

Precision 5470 สร้างขึ้นพร้อมจอแสดงภาพแบบไร้ขอบ Infinity Edge ขนาด 14 นิ้วที่ให้ความดื่มด่ำสมจริงจรดขอบจอ ช่วยให้คุณเห็นไอเดียบรรเจิดได้อย่างคมชัดในอุปกรณ์ขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับครีเอเตอร์ผู้สร้างสรรค์ วิศวกร และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน พกพาไปได้ทุกที่ในการดินทาง จอแสดงภาพมาพร้อม ComfortView Plus ที่ได้มาตรฐาน TUV โดยเป็นฮาร์ดแวร์ที่ช่วยกรองแสงสีฟ้า ทั้งยังไม่กินทรัพยากร หรือไม่ส่งผลกระทบต่อค่าสีจริงบนหน้าจอ ที่เหมาะอย่างยิ่งในการรังสรรค์ชิ้นงาน

Precision 5470 ให้การเชื่อมต่อด้วยความเร็วสูงผ่าน Wi-Fi 6E และ Dell Optimizer สำหรับ Precision ที่ช่วยให้ทำงานได้ฉลาดยิ่งขึ้น โดยมีซอฟต์แวร์ที่ใช้ AI เพื่อเรียนรู้สไตล์การทำงานและตอบสนองความต้องการได้เป็นอย่างดี ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานได้โดยอัตโนมัติ ทั้งเรื่องแบตเตอรี่ การตั้งค่าระบบเสียง และความเป็นส่วนตัว โดยมีสองคุณสมบัติใหม่ที่ให้ความชาญฉลาดเหนือชั้นไปอีกระดับ

·      คุณสมบัติใหม่ที่ให้ความเป็นส่วนตัวได้อย่างฉลาด โดยการลดความสว่างของหน้าจอและช่วยป้องกันไม่ให้ใครเห็นโครงการและข้อมูลสำคัญบนหน้าจอภาพ เมื่อคุณละสายตาจากหน้าจอ หรือ เมื่อตรวจจับได้ว่ามีคนมองอยู่

·      หัวใจหลักของ Precision 5470 คือเรื่องของความคล่องตัว เป็นครั้งแรกของโลกที่เราสามารถเชื่อมต่อแบบหลายเครือข่ายได้พร้อมกัน ทำให้การดาวน์โหลดข้อมูลและวิดีโอได้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ครีเอเตอร์ต้องการ!

Precision 5470 ไม่ใช่แค่ฉลาด แต่ยังให้ทั้งรูปลักษณ์และความรู้สึกที่ดีเช่นกัน คลิกแพดขนาดใหญ่ช่วยให้ใช้งานได้อย่างสะดวก และยังมีคีย์บอร์ดแบบ Pro พร้อมเซ็นเซอร์ตัวอ่านลายนิ้วมือที่เป็นทางเลือกเพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าใช้งานได้ง่าย ทางเลือกจอดิสเพลย์แบบสัมผัสและใช้งานร่วมกับปากกาได้ ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้โลดแล่นสมจริง ด้วยรูปลักษณ์และสัมผัสที่ดูพรีเมียมของ Precision 5470 จนถึงตัวโครงสร้างของอุปกรณ์ ที่ทำจากอลูมิเนียมทางวิศวกรรมและเคลือบพื้นผิวเพื่อเพิ่มสัมผัสและการยึดเกาะที่ดี

เหล่านี้คือการสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของเดลล์ที่เน้นการออกแบบที่ยั่งยืน (sustainable) ซึ่งเราภูมิใจที่จะบอกว่า Precision 5470 นี้ ใช้บรรจุภัณฑ์เป็นวัสดุหมุนเวียนหรือรีไซเคิลได้แบบ 100%

Precision เวิร์กสเตชันของเราให้นวัตกรรมเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนขุมพลังให้กับแอปพลิเคชันที่เน้นกราฟิกและข้อมูลมากที่สุดตลอด 25 ปีที่ผ่านมา สายผลิตภัณฑ์ Precision โมบายเวิร์กสเตชัน ยังคงยกระดับประสิทธิภาพต่อไปด้วย Precision 5570 และ 5770 ใหม่ (ซึ่งเป็นโมบายเวิร์กสเตชั่นขนาด 15” และ 17” ที่เล็กที่สุดและบางที่สุดของเดลล์) รวมถึง Precision 3570 series ทั้งหมดให้ขุมพลังเพิ่มขึ้นด้วยโปรเซสเซอร์ 12th Gen Intel® Core™ ซึ่ง Precision 3570 ใหม่นี้ นับว่าเป็นเวิร์กสเตชันในระดับเริ่มต้นที่สมบูรณ์ โดยในส่วนของฝาปิดจอ LCD ทำจากวัสดุชีวภาพ 21% สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของเดลล์

การเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี ไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าการข้ามขีดจำกัดที่เคยทำมา เกาะติดการอัพเดตใหม่ๆ ของ Precision ได้ในปีนี้

กู๊ด ด็อกเตอร์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จับมือ สปสช. ให้บริการความช่วยเหลือทางการแพทย์แก่ผู้ติดเชื้อโควิด -19 แบบผู้ป่วยนอก (OPD) ผ่านแอป SPRING UP ของ SCB


 

กรุงเทพฯ เมษายน 2565 - กู๊ด ด็อกเตอร์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) หรือ GDTT บริษัทในเครือของ กู๊ด ด็อกเตอร์ เทคโนโลยี (GDT) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านสุขภาพระดับภูมิภาคที่มีวิสัยทัศน์ในการมุ่งให้บริการหนึ่งแพทย์ต่อหนึ่งครอบครัวทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA)’ ได้ประกาศการเริ่มต้นความร่วมมือในโครงการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 แบบผู้ป่วยนอก สำหรับผู้ป่วยที่มีผลตรวจ ATK 2 ขีด และผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการหรือแสดงอาการเล็กน้อย ให้สามารถเข้ารับการรักษากับ GDTT ได้ ตามแนวทางใหม่ของกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการรักษาผู้ป่วยนอกแบบ Self-Isolation หรือที่เรียกว่าเจอ แจก จบ [1]

ผู้ป่วยในโครงการเจอ แจก จบแตกต่างจากผู้ป่วยภายใต้โครงการ Home Isolation (HI) ที่ต้องลงทะเบียนผ่านสายด่วน 1330 และรอรับการจัดสรรไปยังหน่วยพยาบาลต่าง ๆ ที่กำหนดโดยสปสช. ผู้ป่วยภายใต้ OPD หรือ ผู้ป่วยที่รับการรักษาแบบไม่ต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล สามารถลงทะเบียนได้ทันทีผ่านคลินิกที่ได้รับการรับรองจาก สปสช. แบบไม่ต้องมีเอกสารอ้างอิงและสามารถดูแลตัวเองได้ด้วยยาที่จะถูกจัดส่งให้ผู้ป่วยถึงบ้าน นอกจากนี้ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อติดเชื้อโควิด-19 สามารถนำผล ATK ที่แสดงผลบวก มาติดต่อเข้ารับการรักษาจาก GDTT หนึ่งในพันธมิตรของ สปสช. เพื่อรับบริการความช่วยเหลือทางการแพทย์แบบผู้ป่วยนอก (OPD) ผ่านการให้บริการผ่านทางแอปพลิเคชัน SCB Spring Up พร้อมเข้ารับการรักษาได้โดยตรงจากบริการการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคโควิด-19 ของ GDTT และเตรียมรับยารักษาที่บ้าน

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)  กล่าวว่า หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขได้ปรับระบบการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มสีเขียวมาเป็นการดูแลแบบผู้ป่วยนอก หรือ "เจอ แจก จบ" ผู้ป่วยใส่หน้ากากอนามัยไปพบแพทย์แล้วกลับบ้านได้เหมือนผู้ป่วยนอกทั่วไป สปสช.จึงสร้างทางเลือกใหม่ๆเพื่ออำนวยความสะดวก เช่น การร่วมมือกับสภาเภสัชกรรม ดึงร้านยากว่า 700 แห่งทั่วประเทศมาเป็นเครือข่ายให้ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวไปรับยาที่ร้านยาได้ รวมทั้งมองหาช่องทางอื่นๆ และทราบว่าธนาคารไทยพาณิชย์มีแอปพลิเคชัน SPRING UP ซึ่งเป็นแอปฯ เกี่ยวกับสุขภาพและมีบริการพบแพทย์ออนไลน์ที่ให้บริการโดยบริษัท กู๊ดด็อกเตอร์เทคโนโลยี (ประเทศไทย) อยู่ในนั้น จึงได้ชักชวนให้เข้ามาร่วมมือกันดูแลผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียวด้วย

"กระทรวงสาธารณสุขคาดการณ์ฉากทัศน์หลังเทศกาลสงกรานต์ไว้ 3 แบบคือมีจำนวนผู้ติดเชื้อน้อย ปานกลาง และติดเชื้อจำนวนมาก การเตรียมพร้อมเราก็จะมอง worst case scenario ไว้ก่อน จึงต้องเตรียมช่องทางการให้บริการไว้เยอะๆ ถ้าเป็นกลุ่มอาการหนักหรือปานกลาง กลุ่มนี้ต้องไปโรงพยาบาลอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นกลุ่มสีเขียวที่ไม่มีโรคประจำตัว ไม่เป็นผู้สูงอายุ จะมีทางเลือกหลายช่องทาง ไปโรงพยาบาลใกล้ก็ได้ ไปรับยาที่ร้านยาใกล้บ้านก็ได้ พบแพทย์แบบ Tele-Health ผ่านแอปฯ SPRING UP ก็ได้ หรือที่บ้านอยู่หลายคนก็เข้า Home Isolation ก็ได้ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละบุคคล" ทพ.อรรถพร กล่าว

ดร. สุทธิชัย โชคกิจชัย หัวหน้าฝ่ายการแพทย์ บริษัท กู๊ด ด็อกเตอร์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) กล่าวว่า เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสสนับสนุน สปสช. ในการเปิดตัวโครงการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19  แบบผู้ป่วยนอก (OPD care initiative) ด้วยประสบการณ์ของเราในการให้คำปรึกษาและดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19 กว่า 15,000 ครั้ง ภายใต้โครงการ Home Isolation (HI) ของ สปสช. เราจะยังคงใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีแยะยกระดับการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ทำให้พวกเขาสะดวกต่อการปรึกษากับแพทย์ทางออนไลน์ของเรา และจัดส่งยาไปที่บ้านของผู้ป่วย ซึ่งนี่ถือเป็นแนวทางในการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 แบบผู้ป่วยนอก (OPD) ที่เรากำลังร่วมมือกับ สปสช.

ขั้นตอนการลงทะเบียนนั้นง่ายมาก ผู้ป่วยเพียงแค่แนบรูปถ่ายของ ATK ที่เป็นบวก กรอกแบบสอบถามสั้น ๆ เกี่ยวกับอาการ และข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อนามสกุล ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ของเราจะทำการตรวจสอบเบื้องต้นเพื่อดูว่าผู้ป่วยมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ OPD หรือไม่ หากทุกอย่างเรียบร้อยดี เราจะติดต่อกลับไปหาผู้ป่วยเพื่อยืนยันตัวตน พร้อมให้คำปรึกษาและวินิฉัย หลังจากยืนยันอาการแล้ว แพทย์จะสั่งยาจากร้านขายยาพันธมิตรให้ทันที  โดยเราทำงานร่วมกับร้านยาพันธมิตรกว่า 450 แห่ง เรามุ่งมั่นให้ Grab นำยาไปส่งยังหน้าบ้านของผู้ป่วยภายในหนึ่งชั่วโมง และหลังจากผ่านไป 48 ชั่วโมง แพทย์จะติดต่อกลับไปหาผู้ป่วยอีกครั้งเพื่อติดตามอาการ”  ดร. สุทธิชัย โชคกิจชัย กล่าวเสริม

ขอขอบคุณ สปสช. ที่เล็งเห็นคุณค่าของการให้บริการดูแลสุขภาพผ่านระบบดิจิทัลและนำมาใช้ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ในวงกว้าง สำหรับระยะแรกนั้น GDTT ได้มุ่งมั่นในการสนับสนุนการแพทย์ทางไกลแก่ผู้ป่วยที่ต้องการการรักษาพยาบาลอย่างรวดเร็ว เราได้ช่วยเหลือผู้ป่วยประมาณ 5,000 รายจนถึงปัจจุบัน และมีอัตราการรักษาผู้ป่วยรายวันสูงสุดกว่า 700 ราย เราส่งมอบอาหารกว่า 25,000 มื้อ พร้อม ยา และอุปกรณ์ทางการแพทย์เมลวิน หวู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารระดับภูมิภาคของ กู๊ด ด็อกเตอร์ เทคโนโลยี กล่าว 

ผู้ป่วยของเราจำนวน 95% ให้คะแนนความพึงพอใจระดับ 5 ดาว ทำให้เรามีความมั่นใจในเทคโนโลยีของเรา และความเป็นมืออาชีพของทีมแพทย์ของเรา รวมถึงแนวทางในการดูแลผู้ป่วยนอกฉบับล่าสุดของ สปสช. เรามุ่งหน้าที่จะนำการแพทย์ทางไกลมาใช้อย่างรวดเร็วและให้บริการที่ครอบคลุมทั้งประเทศในการจัดการด้านการดูแลสุขภาพในระยะยาวเมลวิน หวู กล่าวเสริม

GDTT ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพรูปแบบดิจิทัลภายใต้โครงการ Home Isolation (HI) ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา โดยตั้งแต่การได้รับการแต่งตั้ง GDTT ได้ส่งมอบการให้บริการด้านการดูแลสุขภาพขั้นต้นที่สำคัญได้อย่างรวดเร็วและยังคงรับมือกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอนอย่างต่อเนื่อง GDTT ยังคงให้การสนับสนุนและให้บริการแก่ผู้ป่วยในโครงการ Home Isolation (HI) ผ่านแอปพลิเคชัน Good Doctor นอกจากนี้ยังให้การสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์แก่ผู้ป่วยนอก (OPD) บนแอปพลิเคชัน SPRING UP ของ SCB อีกด้วย




ร่วมรับชมไลฟ์สดงานเปิดตัว vivo T Series Get. Set.Turbo Exclusive Launch วันที่ 3 พฤษภาคมนี้ เวลา 14.00 น.

 


กรุงเทพฯ 29 เมษายน 2565 – เป็นไปตามคาด vivo ประกาศจัดงานเปิดตัว สมาร์ตโฟน T Series สมาร์ตโฟนเกมมิ่งครั้งแรกของประเทศไทย โดยมีสโลแกน “Get.Set.Turbo แรงชัดจัดเต็มทุกฟีล

 

สัปดาห์ที่ผ่านมา vivo ได้ส่งจดหมายเชิญสื่อมวลชน สำหรับงาน เอ็กซ์คลูซีฟ ลอนช์ ที่จะมีในวันอังคารที่ พ.ค. นี้ ที่ vivo Flagship Store ณ ชั้น ศูนย์การค้าสยามพารากอน ในงานจะมีการเปิดตัวสมาร์ตโฟนตระกูล T series ถึง รุ่นด้วยกัน คือ T1 5G และ T1 x โดยจะมีการไลฟ์สดการเปิดตัวผ่านทาง vivo Official Facebook และผู้เข้าชมทางออนไลน์ยังสามารถร่วมลุ้นรับรางวัล ผ่านกิจกรรมแจกของรางวัลที่รับรองว่าวีโว่จัดเต็มแน่นอน ใครที่อยากทราบฟีเจอร์ สเป็ก ราคาแม้กระทั่งดีไซน์ของตระกูล T Series ทั้งสองรุ่น อย่าพลาดการรับชมถ่ายทอดสดในวันที่ พฤษภาคม 2565 เวลา 14.00 - 15.00 น. รับรองว่าจะได้พบความแรง ชัด จัดเต็มทุกฟีล เล่นเกมขั้นสุด ไม่มีสะดุดกับ vivo T Series  

สยามพิวรรธน์ นำทัพศูนย์ประชุมมาตรฐานระดับโลก “รอยัล พารากอน ฮอลล์” และ “ทรู ไอคอน ฮอลล์” รับมอบตราสัญลักษณ์ มาตรฐานสถานที่จัดงานระดับอาเซียนและประเทศไทย (ASEAN and Thailand MICE Venue Standard) จากสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) ภายในงาน MICE Standards Day 2022

 


กรุงเทพ (29 เมษายน 2565)– สยามพิวรรธน์ นำทัพศูนย์ประชุมมาตรฐานระดับโลก “รอยัล พารากอน ฮอลล์” และ “ทรู ไอคอน ฮอลล์” รับมอบตราสัญลักษณ์ มาตรฐานสถานที่จัดงานระดับอาเซียนและประเทศไทย (ASEAN and Thailand MICE Venue Standard) จากสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) ในงาน MICE Standards Day 2022 เมื่อเร็วๆ นี้ ตอกย้ำความเป็นผู้นำศูนย์การประชุมและศูนย์การแสดงนิทรรศการระดับโลก  สร้างความมั่นใจในการจัดงานได้อย่างปลอดภัย ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน รองรับตลาดไมซ์ในอนาคต โดยมีคุณพันธกมล อมาตยกุล และคุณกฤษณา จรรยาสกุลวงศ์ ซึ่งเป็นผู้บริหาร รอยัล พารากอน ฮออล์ บนชั้น 5 สยามพารากอน และ ทรู ไอคอน ฮออล์ บนชั้น 7 ไอคอนสยาม เข้ารับมอบตราสัญลักษณ์มาตรฐานฯ จาก ดร.อรรชกา สีบุญเรือง ประธานกรรมการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ประธานในพิธี

ในปีนี้ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ได้รับตราสัญลักษณ์ ASEAN MICE Venue Standard พร้อมกับ Thailand MICE Venue Standard ประเภทสถานที่จัดงานประชุม (Meeting Room) โดยก่อนหน้านี้ รอยัล พารากอน ฮอลล์ เคยได้รับตราสัญลักษณ์ Thailand MICE Venue Standard มาอย่างต่อเนื่องทุกปีและครบทุกประเภท รวมถึงเคยได้รับ ASEAN MICE Venue Standard ในประเภทสถานที่จัดแสดงนิทรรศการ (Exhibition Hall) ขณะที่ ทรู ไอคอน ฮอลล์ ก็ได้รับตราสัญลักษณ์ Thailand MICE Venue Standard ประเภทสถานที่จัดงานประชุม (Meeting Room) เช่นกัน จากที่เคยได้รับในประเภทสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษ (Special Event) มาแล้วในช่วงปีที่ผ่านมา

กลุ่มสยามพิวรรธน์ ในฐานะผู้นำความคิดสร้างสรรค์ The Visionary Icon มีความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ด้วยความพร้อมในการดำเนินธุรกิจบริหารจัดการศูนย์การประชุมและศูนย์แสดงนิทรรศการอย่างเต็มประสิทธิภาพ และให้บริการด้วยมาตรฐานระดับสากลในทุกมิติเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าและผู้ใช้บริการทุกคนเกิดความพึงพอใจสูงสุด 



Chocolate Peanut Butter CaramelCrisp™ รสชาติสุดโปรดของแฟนๆ จาก Garrett Popcorn Shops®

 


กรุงเทพฯ – 29 เมษายน 2565 ส่งมอบความรักให้กับครอบครัวและเพื่อนๆของคุณด้วย Chocolate Peanut Butter CaramelCrisp สูตรลิมิเต็ด ที่พร้อมมอบความอร่อยตั้งแต่วันนี้ถึง 19 มิถุนายนนี้เท่านั้น มีวางจำหน่ายแล้วที่การ์เร็ต ป๊อปคอร์น ทุกสาขา 
 
สูตรลับความอร่อยของครอบครัว ถูกรังสรรค์ขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญด้านส่วนผสมของการ์เร็ต ป๊อปคอร์น ที่ภูมิใจนำเสนอรสชาติของเนยถั่ว ที่เข้ากันได้อย่างลงตัวกับกลิ่นหอมอ่อนๆของช็อกโกแลต เราใช้ส่วนผสมที่มีคุณภาพดีที่สุดในการปรุง เราใส่ใจในข้าวโพดทุกเมล็ดที่ถูกนำมาคั่วในหม้อทองแดงแบบโบราณ เพื่อให้ได้สูตรครีมบรูเล่ที่กรอบ หอม อร่อย ได้รสชาติของ Chocolate Peanut Butter CaramelCrisp จนเป็นขนม ที่อร่อยไม่เหมือนใคร™” ที่แฟนๆ สามารถดื่มด่ำได้ทุกวัน

 

รสชาติของ Chocolate Peanut Butter CaramelCrisp มาในกระป๋องจิ๋วลวดลายลิมิเต็ด ดีไซน์สวยรับซัมเมอร์ “Summer Love” เหมาะเป็นของขวัญแสนหวานจากใจ ที่มาในดีไซน์พื้นหลังลายทางซิกเนเจอร์สีน้ำเงินและสีชมพูพาสเทล ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก ฤดูร้อนริมชายหาดซึ่งถือเป็นจุดเด่นของฤดูกาลนี้

เมื่อนึกถึงฤดูร้อน เราจะนึกถึงการปิกนิกและการทำกิจกรรมสนุกๆในสวนสาธารณะ ยิ่งถ้ามีการ์เร็ต   ป๊อปคอร์น ติดไปด้วย จะช่วยสร้างความประทับใจให้กับเพื่อนและครอบครัวได้อย่างแน่นอน เราหวังว่า การ์เร็ตสูตรซิกเนเจอร์ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นตามฤดูกาลในกระป๋องและกระเป๋าดีไซน์สวย จะช่วยนำความสุขสนุกสนานมาให้แฟนๆ ในการพบปะสังสรรค์ในฤดูร้อนนี้อย่างแน่นอน มาร่วมแบ่งปันความสนุกและลิ้มลองรสชาติแสนอร่อยในช่วงซัมเมอร์นี้ไปกับการ์เร็ต ป๊อปคอร์น โพธิพงษ์ ผุดวารี และนันทิดา หินอ่อน พนักงานของร้านกล่าวถึงการเร็ต ป๊อปคอร์น รสชาติใหม่

อย่าลืมว่า รสชาติแสนอร่อย ส่วนผสมดี ๆ และกระป๋องดีไซน์สวย มีวางจำหน่ายแล้ววันนี้  รีบซื้อก่อนของจะหมด!

ปัจจุบันร้าน Garrett Popcorn เปิดให้บริการที่

  • ร้าน Garrett Popcorn สาขาสยามพารากอน ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้น กรุงเทพฯ 10330 โทร. 02-610-7766
  • ร้าน Garrett Popcorn สาขาลาดพร้าว ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ชั้น เลขที่ 1693 ถนนพหลโยธิน ลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทร. 02-937-1211
  • ร้าน Garrett Popcorn สาขาท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง เทอร์มินอล 2 ชั้น 3 (Landside) เลขที่ 222 ถนนวิภาวดีรังสิต สนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ 10210 โทร. 02-504-3704
  • ร้าน Garrett Popcorn สาขาท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง เทอร์มินอล ชั้น 3 (Airside Domestic) เลขที่ 222 ถนนวิภาวดีรังสิต สนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ 10210 โทร. 02-504-3704
  • ร้าน Garrett Popcorn สาขา ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ ชั้น โซน take home เลขที่ 689,693,695 ถนน สุขุมวิท เขต วัฒนา กรุงเทพมหานคร โทร. 063-671-2341
  • ร้าน Garrett Popcorn สาขา ศูนย์การค้าสีลม คอมเพล็กซ์ ชั้น ห้อง 112 เลขที่ 191 ถนน สีลม เขต บางรัก กรุงเทพ 10550 โทร. 096-940-5531
  • ร้าน Garrett Popcorn สาขา ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 3 ห้อง K312/2 เลขที่ 999/9 ถนน พระราม 1 ปทุมวัน กรุงเทพ 10330 โทร. 02-003-3959

 

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://garrettpopcornshops.co.th/ หรือเยี่ยมชมโซเชียลมีเดียของการ์เร็ต ป๊อปคอร์น ประเทศไทย ได้ที่ Facebook: Garrett Popcorn Shops - Thailand ร้านการ์เร็ต ป๊อปคอร์น (ประเทศไทย) และ

Instagram: garrettpopcornthailand


บีโอไออนุมัติ Chery ค่ายรถยนต์รายใหญ่จีน ตั้งฐานผลิต EV ในไทย

            บีโอไอ เผยผลสำเร็จการดึง Chery บริษัทรถยนต์ชั้นนำระดับโลกจากประเทศจีน เข้ามาลงทุนในไทยเป็นรายล่าสุด หลังจากหารือกันกว่า 2 ปี โดย...