วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ครั้งแรกของโลก! มาสเตอร์การ์ดบุกตลาดเพลงออนไลน์ เปิดตัวอัลบั้มแรก Priceless สตรีมผ่านแฟลตฟอร์มพันธมิตร Spotify มาสเตอร์การ์ด ผนึกกำลัง Beatclub เปิดตัวอัลบั้มแรกบนแพลตฟอร์มสุดฮิต Spotify พร้อมแรงหนุนจากกลุ่มศิลปินหน้าใหม่และผู้หลงใหลในเสียงเพลงทั่วโลก

 


กรุงเทพฯ (30 มิถุนายน 2565) มาสเตอร์การ์ด ประกาศเปิดตัวอัลบั้มเพลงชุดแรก Priceless® ในเทศกาลครั้งสำคัญของแวดงวงโฆษณาระดับโลก Cannes Lions Festival of Creativity โดยกำหนดสตรีมครั้งแรกผ่านแพลตฟอร์มเพลงชั้นนำอย่าง Spotify (ตาม Track list เพลงด้านล่าง) หลังจากนั้นจะทยอยสตรีมผ่านแพลตฟอร์มอื่น ๆ โดยอัลบั้มจะประกอบด้วย 10 เพลงเด่นโดยศิลปินคุณภาพจากทั่วโลก ซึ่งทุกเพลงจะมีการนำดนตรีอันเป็นเอกลักษณ์ที่ทุกคนรู้จักกันดีของแบรนด์มาสเตอร์การ์ดมาเรียบเรียงเป็นองค์ประกอบในเพลงไว้อย่างกลมกลืน

 

ด้วยความร่วมมือกับ Beatclub ของ Timbaland ครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนเหล่าศิลปินและอุตสาหกรรมเพลงทั่วโลก ผ่านพลังแห่งเสียงดนตรีและการดูแลอย่างต่อเนื่อง ผ่านการจัดหาแพลตฟอร์ม เครื่องมือ และเครือข่ายให้แก่กลุ่มผู้สร้างสรรค์ผลงานให้สามารถเดินตามความฝันและเปิดประตูแห่งโอกาสแก่ศิลปินอีกมากมายให้สามารถเข้าสู่อุตสาหกรรมเพลงที่น้อยคนจะเข้าถึงได้มากยิ่งขึ้น สำหรับการเปิดตัวอัลบั้มแรกนี้ถือเป็นการปูแนวทางครั้งสำคัญในการเชื่อมโยงสู่ผู้คนทั่วโลกด้วยวัฒนธรรมดนตรีที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์และความสนุกสนานจากเสียงเพลง

 

จุดเด่นของอัลบั้มนี้คือการรวบรวมเอกลักษณ์ของศิลปินแต่ละรายซึ่งมีความโดดเด่นหลากหลายทั้งในด้านวัฒนธรรม ภาษา และแนวเพลง ศิลปินทุกรายได้รับโจทย์ในการนำดนตรีของแบรนด์มาผสานในงานเพลงให้มีความไพเราะกลมกลืนเพื่อเป็นการส่งเสริมแบรนด์บนแนวทางใหม่ ๆ ผ่านความงดงามของบทเพลง อัลบั้มเต็มจะนำเสนอเพลงจากศิลปินดาวรุ่งหน้าใหม่ระดับคุณภาพ ทั้ง Michael Rice (สหราชอาณาจักร), Shiraz (เลบานอน), Good Harvest (สวีเดน), Alma Lake (โคลัมเบีย/สหรัฐฯ), Raees (แอลจีเรีย), Tejas (อินเดีย), Nadine Randle (สหราชอาณาจักร/สวีเดน), Tania Doko (ออสเตรเลีย), Elle B. (สหรัฐอเมริกาและ Amaya (สโลวีเนีย)

 

อัลบั้ม Priceless® จะเผยแพร่ให้ทุกคนได้สัมผัสกันเป็นครั้งแรกในงานเลี้ยงเปิดตัวผ่าน Spotify แพลตฟอร์มพันธมิตรชั้นนำระดับเอ็กซ์คลูซีฟของมาสเตอร์การ์ด ซึ่งมีผู้ใช้งานกว่า 422 ล้านรายและครอบคลุมตลาดเพลงกว่า 183 แห่งทั่วโลก 

finfit with ttb เผย 7 เคล็ดลับการออกแบบชีวิต เพื่อพิชิตเป้าหมาย กับ ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล

 


เคยเป็นกันไหมวางแผนชีวิตไว้อย่างไรก็ไม่สำเร็จตามเป้าหมายสักที… เรื่องนี้มีคำตอบจาก finfit with ttb ชุมชนออนไลน์บน Facebook Closed Group สำหรับผู้ที่ต้องการมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น โดยทำหน้าที่เสมือนคอมมูนิตี้แห่งการแบ่งปันเรื่องราว แลกเปลี่ยนแนวคิด และประสบการณ์เกี่ยวกับการบริหารการเงิน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนแปลงตัวเองให้บรรลุเป้าหมายในชีวิต ล่าสุด ได้จัดกิจกรรม finfit with ttb LIVE Talk ครั้งที่ ภายใต้แนวคิด “ออกแบบชีวิต... พิชิตเป้าหมาย” โดยมี “ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล” ซุปตาร์คนดัง ได้มาเปิดใจครั้งแรกกับการบริหารชีวิต เพื่อบรรลุเป้าหมายทั้งการทำงาน และการเงินได้สำเร็จ ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน ทุกคนสามารถทำได้อย่างแน่นอน

 

หากมาทำความรู้จักเบื้องหลังชีวิตของ “ก๊อต ก่อนก้าวขึ้นสู่การเป็นพระเอกสุดฮอตนั้น ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ โดย “ก๊อต” ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 21 ปี แต่การใช้ชีวิตที่ผ่านมามักมีกรอบความคิดของคนที่อยู่รอบ ๆ จึงต้องใช้ชีวิตตามแบบคนอื่นเสมอ ซึ่งเมื่ออายุ 25 ปี ก็ถึงจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่เนื่องจากประสบปัญหาทั้งเรื่องรายได้ที่ทำงานไปเท่าใดก็ไม่มีเงินเก็บ มีรายได้แบบเดือนชนเดือน จึงอยากหาทางแก้ปัญหาในจุดนี้

 

“ก๊อต” ได้เริ่มต้นหาทางออกให้ชีวิต ด้วยการอ่านหนังสือ พร้อมสร้างนิสัยอ่านหนังสือทุกวันในเวลา 22:00-02:00 น. และจดบันทึกในทุกวัน เพื่อทำความเข้าใจ และพูดคุยกับตัวเอง โดยมีหนังสือที่อ่านเกี่ยวกับการเงินมากกว่า 10 เล่ม ตัวอย่างชื่อหนังสือที่ชื่นชอบ อาทิ The Law of Success by Napoleon Hill และ The Secret of Millionaire Mine by T. Harv Eker ซึ่งหนังสือเล่มนี้ระบุว่า เราทุกคนบริหารเงินตลอดเวลา แต่อยู่ที่ว่าเมื่อบริหารแล้วได้ผลลัพธ์แบบไหน มีหนี้เพิ่มขึ้น หรือมีกำไรเพิ่มขึ้น หรือบริหารเงินแล้วสุขสบายหรือลำบาก ทุกคนเป็นนักบริหารเงิน และต้องฝึกฝนบริหารเงินให้ดีที่สุด ขณะเดียวกัน เขาก็ปรับเปลี่ยนตัวเองสู่คนใหม่ ทั้งวางแผนชีวิตและมีเป้าหมายที่จะทำ มีการจดบันทึกสิ่งที่ไม่อยากเป็นและสิ่งที่อยากเป็นในอนาคต จนมาถึงวันนี้สามารถทำได้สำเร็จแล้ว ตลอดจนสร้างชีวิตทางการเงินใหม่ ซึ่ง “ก๊อต” ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า “เมื่อได้วางแผนชีวิตจะทำให้ได้ชีวิตกลับมา และสามารถออกแบบชีวิตเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้อย่างแน่นอน”

 

โดยแนวคิดการดำเนินชีวิตในแบบฉบับ “ก๊อต-จิรายุ” ที่จะเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จคือ

1.     การตั้งเป้าหมายในชีวิต

ปรับตัวเองสู่คนใหม่ด้วยการทำลิสต์สิ่งที่อยากเป็น ซึ่งทุกคนสามารถเริ่มต้นด้วยการวางเป้าหมายความสำเร็จในระยะสั้น และสะสมไปเรื่อย ๆ หรือ การเริ่มต้นคิดจากเล็กไปใหญ่ เช่น วางแผนเก็บเงินล้านแรกในชีวิตและหาทางไปสู่เป้าหมาย ก่อนขยายไปสู่เงินเก็บ 10 ล้านบาทแรกให้สำเร็จ

 

2.     การวางแผนทางการเงินให้คล่องตัว

การวางแผนการเงินด้วยการจัดทำบัญชีต่าง ๆ ให้ชัดเจน โดยจัดทำเป็น 6 บัญชี ได้แก่ 1. บัญชีค่าใช้จ่ายที่จำเป็น 2. บัญชีเงินลงทุน กฎคือจะไม่มีการถอนเงินจากบัญชีจนกว่าจะได้กำไรจากการลงทุนและต้องมีความรู้ธุรกิจที่จะลงทุน 3. บัญชีใช้ส่วนตัว สำหรับเที่ยว ทานอาหาร ซื้อสิ่งที่ต้องการ 4. บัญชีออมระยะยาว  ซึ่งรวมทั้งการทำประกันชีวิตและการตรวจสุขภาพ ทั้งตัวเองและครอบครัวด้วย 5. บัญชีการศึกษา สำหรับลงทุนการศึกษา ด้วยความตั้งใจที่จะไม่หยุดเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ทั้งเรียนภาษาอังกฤษ ภาษาจีน เล่นกีตาร์ เปียโนออนไลน์ และ 6. บัญชีทำบุญ ให้กับมูลนิธิต่าง ๆ แต่สำหรับคนที่ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน การวางแผนการเงินมีความสำคัญอย่างมาก อยากให้คิดทุกครั้งว่า “ทุกคนต้องทำงานตลอดเดือนเพื่อรับเงินเดือน ดังนั้นเมื่อจะใช้จ่ายก็ต้องวางแผนการเงินให้รอบคอบที่สุด”

 

3.     ควรมุ่งมั่นเรียนรู้สิ่งใหม่ตลอดเวลา

การเรียนรู้สิ่งใหม่เพื่อพัฒนาตัวเอง ด้วยการเลือกอ่านหนังสือที่มีประโยชน์อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการพัฒนาจิตใจตัวเองด้วยสมาธิ และหมั่นสร้างสุขภาพให้แข็งแรงด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ กิจกรรมเหล่านี้เป็นก้าวแรกสู่ประตูความสำเร็จ

 

4.     การหารายได้จากหลากหลายช่องทาง

หากคนที่กำลังทำงานเป็นพนักงานในองค์กรต่าง ๆ ไม่ควรมีรายรับอย่างเดียวจากเงินเดือน แต่ควรหารายได้เสริมอื่น ๆ 2-3 ทาง เพื่อสร้างรายได้เติบโตสำหรับอนาคต เช่น ใช้ช่องทางออนไลน์ให้เกิดประโยชน์สร้างรายได้

 

5.     ก่อนลงทุนต้องศึกษาข้อมูลให้ชัดเจน

ควรเลือกศึกษาข้อมูลทุกธุรกิจให้ชัดเจนก่อนลงทุน ไม่ควรเลือกลงทุนธุรกิจที่ไม่รู้จัก และไม่มีความรู้อย่างลึกซึ้ง เพราะจะมีความเสี่ยงตามมาได้

 

6.     ทุกคนสามารถออกแบบชีวิตเพื่อพิชิตเป้าหมายที่ต้องการได้

ทุกคนสามารถออกแบบชีวิตเพื่อบรรลุความสำเร็จได้ โดยเริ่มจากการจดบันทึก เรียนรู้ และลงมือทำ สร้างความมั่นใจและเกิดคุณค่าในตัวเอง พร้อมต้องมีความอดทนและความพยายามจะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ โดย เมื่อ“ก๊อต” ได้วางแผนชีวิต ในช่วงเวลาของปีนี้ หยุดรับงานแสดงเพื่อวางแผนการทำโครงสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ใหม่ทั้ง Instagram  ในบทบาทการเป็น Influencer เพื่อกระจายแพลตฟอร์มให้ไปสู่ออนไลน์มากขึ้น และเชื่อมต่อสู่ Facebook  เพื่อวางแผนในการหารายได้ช่องทางนี้

 

7.        การสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีของคนรุ่นใหม่

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรามีชีวิตอยู่ในสังคมแบบทุนนิยม เมื่อหันไปทางไหนก็ใช้เงิน สิ่งสำคัญคือต้องลงทุนศึกษาไปตลอดชีวิต และหากไม่มีความรู้หรือรู้สึกว่ามีจุดด้อยด้านใดก็ควรไปศึกษาตรงนั้น เพราะโลกเต็มไปด้วยความรู้เพื่อเสริมทักษะให้รอบด้าน เพิ่มความเชี่ยวชาญ พร้อมกับวางแผนใช้เงินและการลงทุนให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด

 

เป็นข้อคิดดี ๆ ที่ทุกคนสามารถนำไปออกแบบชีวิตเพื่อสร้างชีวิตให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ เพราะเมื่อเริ่มวางแผน ลงมือทำ เรียนรู้ ฝึกฝนพัฒนา ความสำเร็จจะอยู่ไม่ไกลอย่างแน่นอน

 

สามารถติดตามกิจกรรมและแนวคิดดี ๆ กับ finfit with ttb ชุมชนออนไลน์สำหรับผู้ที่ต้องการมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นทั้งวันนี้และอนาคต  เพื่อร่วมพิชิตเป้าหมายในชีวิตและแบ่งปันประสบการณ์ทางการเงินสำหรับทุกคนไปพร้อมกันที่ https://www.facebook.com/groups/512649280082706

หรือติดตามเคล็ดลับการเงินอื่น ๆ ได้ที่ https://www.ttbbank.com/th/fin-tips

 


* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

#finfitwithttb

#ให้ชีวิตการเงินดีทั้งวันนี้และอนาคต #เปลี่ยนเพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น

#ttb #MakeREALChange

“เบิร์ดกะฮาร์ท” ชวนแฟนเพลงเปิดประสบการณ์ใหม่ กับ “Byrd & Heart Sunday Night Live”

 


ดื่มด่ำบทเพลงแสนไพเราะกับการแสดงสด พร้อมแขกรับเชิญสุดพิเศษ

ทุกเย็นวันอาทิตย์ตลอดเดือนกรกฎาคม 2565 ณ ฟลาเมนโก กรุงเทพ ดิ เอ็มควอเทียร์

 

หลังจากการสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 เริ่มคลี่คลายลง ล่าสุด คู่หูดูโอ้ในตำนาน “เบิร์ดกะฮาร์ท” โดย เบิร์ด - กุลพงศ์ บุนนาค และ ฮาร์ท - สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล เจ้าของบทเพลงรักแสนอบอุ่น เตรียมปรับโฉมกิจกรรม Byrd & Heart Sunday Night Liveใหม่อีกครั้ง กับการชวนแฟนเพลงสัมผัสและซึมซับกับบทเพลงที่คุณชื่นชอบได้แบบใกล้ชิด พร้อมสนุกสนานไปกับเหล่าศิลปินรับเชิญ  ชื่อดังที่จะสลับกันมาร่วมขับกล่อมบทเพลงให้ผู้ฟังแบบสุดประทับใจ โดยจะจัดขึ้นทุกๆ วันอาทิตย์       ตลอดเดือนกรกฎาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 19.00 . เป็นต้นไป ณ ฟลาเมนโก กรุงเทพ ชั้น 9 ตึกเอ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์

 

สำหรับรายละเอียดของศิลปินรับเชิญตลอดเดือนกรกฎาคม 2565 มีดังนี้

วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม 2565 ปั่น ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว

วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม 2565 ฟอร์ด สบชัย ไกรยูรเสน

วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม 2565 อู๋ ธรรพ์ณธร ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา

วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม 2565 ปิง-ชมพู ฟรุ๊ตตี้

วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม 2565 ปั่น ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว และ อุ้ย รวิวรรณ จินดา

 

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าชมกิจกรรมการแสดงสด Byrd & Heart Sunday Night Liveค่าเข้าชมท่านละ 1,000 บาท ได้รับเครื่องดื่ม 1 แก้ว สามารถสำรองที่นั่งได้ทาง Line OA : @byrdandheart 


ลิ้มลองรสชาติสดใหม่ของฟยอร์ดเทราต์ส่งตรงจากท้องทะเลนอร์เวย์ ที่ห้องอาหารโกจิ คิทเช่น + บาร์

 


กรุงเทพฯ 30 มิถุนายน 2565 - ห้องอาหารโกจิ คิทเช่น + บาร์ แหล่งรวมอาหารนานาชาติ ที่โรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค ขอเชิญชวนแขกทุกท่านมาลิ้มลองรสชาติสดใหม่ของฟยอร์ดเทราต์ส่งตรงจากน้ำที่เย็นและใสสะอาดของฟยอร์ดในนอร์เวย์ ผ่านการรังสรรค์เมนูของเชฟคริสเตียน อองเดร เพตเตอเซน ตัวแทนประเทศนอร์เวย์ในการแข่งขัน Bocuse d’Or Europe ที่นับได้ว่าเป็นเวทีโอลิมปิกแห่งวงการอาหาร

 

โดยเชฟคริสเตียนจะเสิร์ฟเมนูเด่น จาน ได้แก่ Norwegian Sea Trout Aurora Borealis (ฟยอร์ดเทราต์รมควันอบกับหน่อไม้ฝรั่งตุ๋น ถั่วงอก แฮมและซาบายอนเนยสีน้ำตาล) East Meets West (เซวิเช่ฟยอร์ดเทราต์กับแตงกวาดอง แตง สลัดสาหร่าย และซอสมะเขือเทศและแอปเปิ้ลเขียวปรุงรสด้วยยูซุ) และ Heritage of Lofoten (ฟยอร์ดเทราต์รมควันกับมันฝรั่งลวก ถั่วงอก ซอสครีมเปรี้ยวกับคาเวียร์และกุยช่าย และข้าวไรย์กรอบแบบนอร์ดิก) พิเศษเฉพาะช่วงมื้อเย็นของวันพฤหัสบดี - วันอาทิตย์ มื้อกลางวันวันเสาร์ และมื้อสายวันอาทิตย์ ที่โซนไลฟ์สเตชั่น ในห้องอาหารโกจิ คิทเช่น + บาร์ ช่วงวันที่ 14-17 กรกฎาคม 2565 เท่านั้น

 

ฟยอร์ดเทราต์ จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกอาหารของบุฟเฟ่ต์ที่ห้องอาหารโกจิ คิทเช่น + บาร์ จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2565 แขกทุกท่านจะได้ลิ้มลองความสดใหม่ของ “อัญมณีแห่งฟยอร์ดนอร์เวย์” ที่ส่งตรงมาจากท้องทะเล อาทิเช่น ฟยอร์ดเทราต์อบเกลือ ฟยอร์ดเทราต์เวลลิงตัน ชุดเมนูปลาแล่ ฟยอร์ดเทราต์อบซอสเนยมะนาว พายฟยอร์ดเทราต์รมควัน กราแตงฟยอร์ดเทราต์ พิซซ่าแป้งบางกรอบหน้าฟยอร์ดเทราต์รมควัน ซุปฟยอร์ดเทราต์รมควัน ซุปทะเลและฟยอร์ดเทราต์ และสตูว์ฟยอร์ดเทราต์พร้อมแครอทและมันฝรั่ง

 

เชฟชาวเอเชียมากประสบการณ์ของห้องอาหารโกจิ คิทเช่น + บาร์ จะรังสรรค์ซูชิ ซาซิมิ นิกิริ มากิโรลฟยอร์ดเทราต์สด สลัดฟยอร์ดเทราต์และมะม่วง แก้มฟยอร์ดเทราต์ย่างกับซอสซีฟู้ด สลัดหนังฟยอร์ดเทราต์กับขึ้นฉ่าย และฟยอร์ดเทราต์ทันดูริ รวมไปถึงเมนูอาหารสไตล์คลาสสิกสแกนดิเนเวียน เช่น ฟยอร์ดเทราต์รมควันกับผักชีลาว ฟยอร์ดเทราต์กราฟลักซ์ ฟยอร์ดเทราต์บีทรูท ฟยอร์ดเทราต์รมควันอ้อยพร้อมตัวเลือกซอสต่าง ๆ และแซนวิชฟยอร์ดเทราต์แบบเปิดหน้า ครูโด โครสตินี และอื่นๆ อีกมากมาย

 

ไลฟ์สเตชั่นของเชฟคริสเตียนและอาหารจานเด่น จานจะเสิร์ฟที่ห้องอาหารโกจิ คิทเช่น + บาร์ ระหว่างวันที่ 14-17 กรกฎาคม 2565 โดยเป็นส่วนหนึ่งของบุฟเฟ่ต์นานาชาติดังต่อไปนี้:

 

    • มื้อเย็นวันจันทร์ – วันพฤหัสบดี | 17.30 – 22.00 น. | 1,698 ++ บาทต่อท่าน
    • มื้อเย็นวันศุกร์ – วันอาทิตย์ | 17.30 – 22.00 น. | 2,199 ++ บาทต่อท่าน
    • มื้อกลางวันวันเสาร์ | 12.00 – 14.30 น. | 2,199 ++ บาทต่อท่าน
    • มื้อสายวันอาทิตย์ | 12.00 – 14.30 น. | 2,500 ++ บาทต่อท่าน

 

โปรโมชั่นฟยอร์ดเทราต์จะมีถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2565 และเป็นส่วนหนึ่งของบุฟเฟ่ต์มื้อสาย กลางวัน และเย็น ในช่วงวันธรรมดาและสุดสัปดาห์ ที่ ห้องอาหารโกจิ คิทเช่น + บาร์ โดยแคมเปญพิเศษนี้เป็นความร่วมมือระหว่างสภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ (NSC) ธรรมชาติซีฟู้ด และ ห้องอาหารโกจิ คิทเช่น + บาร์ โรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค ฟยอร์ดเทราต์ที่นำเข้ามาได้ผ่านการตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มงวดจากทางธรรมชาติซีฟู้ด เพื่อให้แน่ใจว่าได้ตามมาตรฐานคุณภาพสูงสุด และสังเกตได้จากสัญลักษณ์ Seafood from Norway ที่บ่งบอกถึงแหล่งที่มาของอาหารทะเลจากนอร์เวย์

 

สมาชิกแมริออท บอนวอย และ คลับ แมริออท สามารถใช้ส่วนลดในโปรโมชั่นนี้ได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและการสำรองที่นั่ง โทร. 02 059 5999 อีเมล์ restaurant-reservations.bkkqp@marriotthotels.com

 

หรือสามารถติดต่อผ่านช่องทางเหล่านี้

เว็บไซต์                                         https://th.bangkokmarriottmarquis.com/

เฟซบุ๊ก                                https://www.facebook.com/GojiKitchenAndBar/ 

หรือเพิ่มเป็นเพื่อนในไลน์                    @gojikitchenbar

“สภาองค์กรของผู้บริโภค” ก้าวสำคัญของอาเซียน พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตทุกคน

 


นับเป็นก้าวสำคัญของภูมิภาคอาเซียนในการที่ประเทศไทยมี สภาองค์กรของผู้บริโภค (Thailand Consumers Council -TCC) ที่ดำเนินการคุ้มครองผู้บริโภคในทุกด้าน ขยายฐานองค์กรสมาชิกในแต่ละภูมิภาคได้มากถึง 273 องค์กร และผลักดันการแก้ไขอุปสรรคของผู้บริโภคจากรากหญ้าสู่ทำเนียบรัฐบาล

เพื่อเป้าหมายสูงสุดร่วมกัน คือ คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้บริโภค

ก้าวแรกในการทำงานปีแรก สภาองค์กรของผู้บริโภคจะนำตัวแทนของผู้บริโภคกว่า 300 คน จากองค์กรของผู้บริโภคที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกกว่า 273 องค์กรทั่วประเทศ มาพบกันในงาน “รู้จัก รู้จริง รู้ใจ งานประชุมใหญ่สมาชิก” ที่จัดขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้มุ่งสู่อนาคตและสร้างพื้นฐานคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค ในวันที่ 28 - 29 มิถุนายน 2565 ณ โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร เพื่อร่วมมือกันวางแผนช่วยเหลือผู้บริโภคอย่างทั่วถึง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพภายใต้แนวคิดที่ว่า “ทุกคนคือผู้บริโภคที่ต้องได้รับการคุ้มครองและยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น”

โดยนางสาวบุญยืน ศิริธรรม ประธานสภาองค์กรของผู้บริโภค ได้ย้ำถึงความล้ำหน้าของกฎหมายไทยที่เห็นความสำคัญของการคุ้มครองผู้บริโภค ให้มีการจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค ที่เกิดขึ้นจากเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ต่อมาเป็นองค์กรตามพระราชบัญญัติการจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค พ.ศ. 2562 ทำให้ประเทศไทยยืนอยู่แถวหน้าของการคุ้มครองผู้บริโภคของอาเซียนที่ยังไม่มีประเทศใดมีการจัดตั้งสภาฯ ในลักษณะเดียวกันนี้มาก่อน พร้อมทั้งให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เสนอต่อคณะรัฐมนตรีจัดสรรเงินอุดหนุนเป็นรายปี เพื่อทำให้การดำเนินการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นไปอย่างครบถ้วน มีประสิทธิภาพ 
 
การยืนอยู่ในแนวหน้าของการคุ้มครองผู้บริโภคในภาวะที่เกิดกระบวนการหลอกลวงข้ามชาติด้วยกลวิธีต่าง ๆ ทั้งการค้าขายออนไลน์ และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของมิจฉาชีพข้ามพรมแดนต่าง ๆ ในขณะเดียวกัน ปัญหาการละเมิดสิทธิผู้บริโภค การค้าที่ไม่เป็นธรรม การบริการที่ไม่ได้มาตรฐานในประเทศ ล้วนเป็นความท้าทายของสภาองค์กรของผู้บริโภค

ดังนั้น โครงสร้างของสภาฯ จึงมีการกำหนดไว้ให้มีการแก้ไขปัญหาผู้บริโภคใน 8 ด้าน ซึ่งภายในหนึ่งปีที่ผ่านมา คณะทำงานทั้งแปดด้านนี้ได้แก้ไขปัญหาผู้บริโภค พร้อมทั้งข้อเสนอ และวิสัยทัศน์ใหม่ ๆ ต่อการแก้ปัญหาทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค

ด้านนางสุภาพร ถิ่นวัฒนากูล รองเลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า สภาฯ มีหน้าที่ “เพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาให้ผู้บริโภค” โดยปัจจุบันสภาฯ มีสมาชิก 273 องค์กรกระจายอยู่ทั่วประเทศ และยังมีหน่วยงานประจำจังหวัด 13 จังหวัดที่คอยทำหน้าที่คุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภคช่วยรักษาประโยชน์ผู้บริโภคทั่วประเทศ ทั้งในระดับพื้นที่ ชุมชน รวมทั้งกลุ่มคนเปราะบาง

สภาองค์กรของผู้บริโภคยังมีหน้าที่ช่วย “ลดปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้บริโภคซ้ำซาก” โดยการทำข้อเสนอนโยบายหรือมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคต่อคณะรัฐมนตรี หน่วยงานต่าง ๆ เพื่อแก้ปัญหาซ้ำซาก และสร้างความเท่าทันให้กับผู้บริโภคเพื่อป้องกันปัญหา อีกทั้งสภาฯ ยังทำหน้าที่ได้อย่างเป็นอิสระ ซึ่งหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภค อาจมีข้อจำกัดหากเป็นหน่วยงานรัฐด้วยกันเอง นอกจากนี้สภาฯ ยังมีหน้าที่ “รายงานประชาชน” ซึ่ง พ.ร.บ.การจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค พ.ศ. 2562 กำหนดให้สภาองค์กรของผู้บริโภครายงานปัญหาการคุ้มครองผู้บริโภค ไปยังหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานอื่นที่รับผิดชอบและเผยแพร่ให้ประชาชนทราบได้ ซึ่งหน่วยงานของรัฐด้วยกันเองอาจตรวจสอบกันเองได้อย่างจำกัด

“สภาองค์กรของผู้บริโภคไม่มีอำนาจโดยตรงในการจัดการกับผู้ประกอบการที่กระทำความผิดเหมือนหน่วยงานรัฐ เพียงแต่เราสามารถฟ้องคดีเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้ ดังนั้น สิ่งที่สภาฯ และองค์กรสมาชิกทำคือการกระตุ้นและส่งเสริมให้ผู้บริโภคลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิของตัวเอง เปรียบเหมือนซอฟต์พาวเวอร์ ที่ร่วมกันขับเคลื่อนเพื่อนำไปสู่การยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภคในประเทศไทย” นางสาวสุภาพร กล่าว

สอดคล้องกับความเห็นจากหัวหน้าหน่วยงานประจำจังหวัดลำปาง นายสมศักดิ์ ชมภูบุตร 
โดยชี้ให้เห็นบทบาทของหน่วยงานเขตพื้นที่ว่า หน่วยงานประจำจังหวัดเป็นกลไกที่เกิดขึ้นตามกฎหมาย และก่อเกิดขึ้นพร้อมกับ “สภาองค์กรของผู้บริโภค” เป็นโครงสร้างสำคัญและเป็นนวัตกรรมของระบบการคุ้มครองผู้บริโภคที่มีหน่วยงานประจำจังหวัดกระจายอยู่ทั่วภูมิภาค เพื่อเป็นตัวแทนของผู้บริโภคทุกด้าน สามารถดำเนินงานคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว เท่าทันสถานการณ์และความต้องการของผู้บริโภค เช่นเดียวกับนางสาวชยาพร สะบู่ม่วง หัวหน้าหน่วยงานประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ได้ตอกย้ำกลไกการประสานความร่วมมือที่ประสบความสำเร็จของสภาองค์กรของผู้บริโภค โดยในฐานะของคนรุ่นใหม่ที่ก้าวเข้ามาทำงานเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค มีความมุ่งหวังที่จะพัฒนางานคุ้มครองผู้บริโภคให้ขยายการรับรู้ไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยย้ำว่า “เจนแซด” (Gen Z) หรือ “คนรุ่นใหม่” เป็นผู้นำในการกำหนดบรรทัดฐานตัวบุคคล แนวทางในการประสานความร่วมมือให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่เหล่านี้จึงควรเปิดกว้าง เพื่อปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่มีความแตกต่างหลากหลาย

ปิดท้ายด้วยแนวทางการขับเคลื่อนงานคุ้มครองผู้บริโภคอย่างเป็นรูปธรรม โดยการแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากนางสาวกชนุช แสงแถลง ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และหัวหน้าหน่วยงานประจำจังหวัดกรุงเทพมหานคร ย้ำความมั่นใจภายใต้การทำงานของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ซึ่งเป็นองค์กรผู้บริโภคที่สามารถฟ้องคดีแทนผู้บริโภคได้ ตามมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 และยังเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนสาธารณประโยชน์ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ทำงานมาอย่างยาวนาน เรามั่นใจว่า เมื่อมีสภาองค์กรของผู้บริโภคแล้ว มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และองค์กรอื่น ๆ ที่ทำหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภค สามารถทำหน้าที่ได้มากขึ้น มีประสิทธิภาพขึ้นภายใต้การสนับสนุนของสภาองค์กรของผู้บริโภค

Zipmex ฉีกทุกกฎการสื่อสาร ส่งแคมเปญ Crypto Revolution ดึงสุดยอดไอดอลวงการบันเทิงไทย เจาะตลาด คริปโตฯ ให้กับคนรุ่นใหม่ พร้อมตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงในประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียนแบบไร้ขีดจำกัด

 


ภายในครึ่งปีหลังของปี 2022 นับเป็นอีกปีที่เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังส่งผลกระทบต่อผู้คนและเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ไปจนถึงความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน และวิกฤตราคาพลังงาน ที่สั่นคลอนความมั่นคงด้านอาหารของโลก และสร้างความตกตะลึงให้แก่ตลาด สิ่งเหล่านี้ถือเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อทั้งประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างชัดเจน ในทางกลับกัน การเติบโตของเทคโนโลยีดิจิทัล Metaverse และ Web3 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และรุกหน้าเติบโตอย่างแข็งขัน ซึ่งธุรกิจต่างต้องเรียนรู้เพื่อปรับตัวให้เท่าทันกับความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ในเมื่อแนวทางการดำเนินงานแบบเก่าเริ่มแปรผันเป็นสิ่งที่ไม่ยั่งยืน แต่โอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ที่อยู่ในโลกเสมือน (Virtual World) และในโลกแห่งความเป็นจริง (Physical World) กำลังจะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

 

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Zipmex แพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฉีกทุกกฎแห่งการสื่อสารแบบเดิม ๆ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ จัดเต็มแคมเปญ Crypto Revolution เพื่อส่งมอบโฆษณาสุดสร้างสรรค์ ภายใต้แนวคิดที่ต้องการเปิดประสบการณ์อิสระทางการเงินให้แก่ทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร หรือยืนหยัดเพื่อสิ่งใด ผ่านการร่วมมือกับผู้นำทางความคิด หรือ KOLs ในหลากลายรูปแบบ เพื่อส่งมอบความคิดเห็นที่แท้จริง 

 

คุณพราว ลิ่มพงศ์พันธุ์ Chief Marketing Officer Zipmex Group กล่าวว่า วิถีชีวิตของผู้คนกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว สิ่งหนึ่งที่หลอมรวมเราเป็นหนึ่งเดียว คือโอกาสที่จะสร้างชีวิตอย่างมั่นคง โดยไร้ขีดจำกัดทางด้านการเงิน ผู้คนต่างมองหาเครื่องมือและวิธีการใหม่ ๆ เพื่อช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงินและเสรีภาพของตนเอง นั่นเป็นเหตุผลที่ Zipmex มองว่า เราเป็นส่วนหนึ่งของคลื่นลูกใหม่ ที่เป็นตัวช่วยสนับสนุนด้านการเงินส่วนบุคคล เรามีการปรับเปลี่ยนและพัฒนาโซลูชันต่าง ๆ เพื่อให้ตรงกับความต้องการและแนวโน้มของผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอการสื่อสารเชิงนวัตกรรม ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น แคมเปญ Crypto Revolution หรือการส่งมอบประสบการณ์และนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้กับผู้ใช้งาน ซึ่งแคมเปญ Crypto Revolution ที่เกิดขึ้น เราต้องการส่งข้อความของเราให้แก่ผู้รับสารทั่วโลก ถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมต่าง ๆ  ทั้งยังมีการ localize ในทุก ๆ ประเทศ เพื่อให้ผู้รับสารเกิดความเข้าใจและรับรู้ได้มากที่สุด 

 

ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายของ Zipmex ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพศหญิงหรือเพศชายในวัย 30 - 45 ปี เท่านั้น แต่เรามองว่า ไม่ว่าคุณจะมีรูปลักษณ์ภายนอกเป็นอย่างไร ประกอบอาชีพอะไร หรือ อายุเท่าไหร่ หากคุณเชื่อว่าคุณสมควรได้รับโอกาสทางการเงินใหม่ ๆ ข้อความของเราที่ต้องการสื่อสารออกไปนั้นมีไว้สำหรับคุณ ทุกคนควรได้รับโอกาสในการเข้าถึงการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความแตกต่างและหลากหลายได้ เพียงแค่คุณต้องลองเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เรียนรู้และเข้าใจไปกับสิ่งนี้ โดยอุปสรรคในการเข้าลงทุนนั้นต่ำกว่าการลงทุนแบบดั้งเดิมเป็นอย่างมาก 'Crypto Revolution' ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีใหม่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ที่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้ได้ คุณพราว เสริม 


ทั้งนี้ แคมเปญโฆษณา Crypto Revolution ของ Zipmex เป็นการทำแคมเปญที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโลกคริปโตฯ โดยเป็นการถ่ายภาพแนวแฟชั่นสุดชิค ที่ถ่ายทอดออกมาโดยเหล่าเซเลบสุดฮอต ที่รวมทัพกันมาทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นศิลปิน นักร้อง นักแสดง นักเคลื่อนไหวทางสังคม หรือแดร็กควีนชื่อดังของประเทศ 

 

เช่น แอน ทองประสม นักแสดงตัวแม่แห่งวงการบันเทิง ที่เปลี่ยนโฉมมาในลุค Trinity นางเอกหนังระดับตำนานจากเรื่อง The Matrix เรียกได้ว่า นี่คือการปฏิวัติลุคใหม่ที่แอนไม่เคยทำให้งานไหนมาก่อนฮิวโก้-จุลจักร ตัวพ่อวงการดนตรีที่มีประสบการณ์ระดับอินเตอร์ไพร่า ศิลปินหญิงไทยที่ได้รางวัลจากเวทีนานาชาติปิงปอง-ธงชัย บัณฑิต นักแสดงอารมณ์ดีที่ช่วยขับเคลื่อนวงการบันเทิงไทยในการถ่ายทอดเรื่องราว LGBTQ, ปันปัน นาคประเสริฐ ผู้ฟื้นคืนวงการ Drag Queen ให้กลับมาจัดจ้านมีสีสัน และ ซูซี่-ณัฐวดี ไวกาโล ดาว TikTok ที่กล้าพูดเรื่องความเท่าเทียม พร้อมผลักดันความเข้าใจเรื่องสีผิว เพื่อช่วยยกระดับสังคมให้ยอมรับความหลากหลายของผู้คน โดยผู้คนเหล่านี้ ถือเป็นผู้ที่ได้มาร่วมสร้างความสดใหม่ให้กับวงการคริปโตเคอร์เรนซี และวงการบันเทิงเป็นอย่างมาก 

 

เสียงของศิลปิน ตลอดจน KOLs และผู้นำทางความคิดเหล่านี้ ช่วยให้ Zipmex สามารถสร้างสารแห่งการปฏิวัติ เพื่อเชิญทุกคนเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโลกใหม่แห่งโอกาสทางการเงินได้ โดย Zipmex แพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าในฐานะศูนย์กลางการเรียนรู้และหนทางใหม่แห่งการเข้าสู่โลกแห่งโลกคริปโตฯ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่นำไปสู่การลงทุนและโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจในปี 2566 

 

สามารถเข้าชมแคมเปญ Crypto Revolution ของ Zipmex ได้ที่ https://revolution.zipmex.com/ YouTube : https://www.youtube.com/hashtag/jointhecryptorevolution 

 

#Zipmex #ZipmexThailand #CryptoRevolution 

โซเด็กซ์โซ่ ประเทศไทย จัดกิจกรรม “STOP HUNGER” ครั้งที่ 10 ณ โรงเรียนมีชัยพัฒนา จ.บุรีรัมย์

 


โซเด็กซ์โซ่ บริษัทผู้นำระดับโลกด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยการบริการบริหารอาคารแบบครบวงจรจากประเทศฝรั่งเศส ได้จัดกิจกรรม "STOP HUNGER" โครงการเพื่อสังคมที่ โซเด็กซ์โซ่ ทั่วโลกจัดขึ้นต่อเนื่องในช่วงเดียวกันของทุกปี  มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยขจัดความหิวโหยและลดภาวะขาดสารอาหารของผู้ด้อยโอกาสทั่วโลก และครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 10 ที่จัดขึ้นในประเทศไทย ณ โรงเรียนมีชัยพัฒนา อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์

 

มร.อาร์โนด์ เบียเลคกิ ประธานบริหาร โซเด็กซ์โซ่ ประเทศไทย กล่าวว่ากิจกรรม STOP HUNGER ครั้งนี้ได้เริ่มจัดขึ้นอีกครั้งหลังจากสถานการณ์โควิด-19 เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยได้รับความร่วมมือจากพนักงานจิตอาสามาร่วมทำกิจกรรม “Cooking Class” เพื่อให้ความรู้กับนักเรียนตั้งแต่การเริ่มเตรียมวัตถุดิบตลอดจนการปรุงอาหารตามขั้นตอนให้ถูกสุขอนามัย รวมทั้ง “Knowledge Sharing” กิจกรรมที่ให้ความรู้ในการกำจัดขยะอาหารอย่างมีประสิทธิภาพให้กับนักเรียน ไปจนถึงการจัดการขยะอาหารอย่างยั่งยืน นับเป็นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ที่น้องๆ นักเรียนเหล่านั้นสามารถนำความรู้ที่ได้ไปถ่ายทอดให้กับครอบครัวและชุมชนรอบๆ โรงเรียนได้เป็นอย่างดี

 

นอกจากนี้ เรายังได้นำอาหารไปมอบให้กับน้องๆ และผู้สูงอายุในชุมชนรวมกว่า 250 ชุด พร้อมมอบเงินสดและอุปกรณ์ที่จำเป็นมูลค่ารวมกว่า 200,000 บาท เพื่อสนับสนุนการศึกษาและกิจกรรมสำหรับนักเรียน

 

ด้าน ผอ. สำนาน ไชยโคตร รักษาการณ์ผู้อำนวยการ โรงเรียนมีชัยพัฒนา กล่าวว่าโรงเรียนมีชัยพัฒนา เป็นโรงเรียนเอกชนที่ไม่แสวงหาผลกำไร มีนักเรียนจากทั่วประเทศมาเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนแห่งนี้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าเทอมแต่ผู้ปกครองและนักเรียนต้องทำความดี 800 ชั่วโมง และปลูกต้นไม้ 800 ต้น เป็นการทดแทน เพื่อเป็นการมุ่งเน้นให้นักเรียนเป็นคนดี มีวินัย มีจิตสาธารณะ นอกจากนี้ เรายังมีการจัดหลักสูตรที่เน้นการเสริมสร้างศักยภาพของตัวนักเรียน ฝึกทักษะการเป็นผู้ประกอบการเพื่อสังคม ให้สามารถคิดนอกกรอบและค้นคว้าหาคำตอบ รวมไปถึงการทำงานร่วมกับชุมชนโดยรอบเพื่อส่งเสริมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  ซึ่งตรงกับพันธกิจของ โซเด็กซ์โซ่ ที่เน้นการให้บริการด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต และทางโรงเรียนฯ มีความรู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสต้อนรับผู้บริหารและพนักงาน โซเด็กซ์โซ่ ประเทศไทย ที่มาให้ความรู้ พร้อมทั้งมอบเงินสมทบทุนและของใช้ที่จำเป็นต่างๆ มากมาย ซึ่งทางโรงเรียนสัญญาว่าจะนำความรู้ที่ได้ในวันนี้นำไปฝึกฝนให้ชำนาญและนำไปถ่ายทอดให้กับชุมชนใกล้เคียง


ที ลีสซิ่ง จับมือ ศรีประจันต์วัฒนยนต์ จัดอบรม "ขับขี่ปลอดภัย ร่วมใจลดมลพิษ" โรงเรียนสงวนหญิง จ.สุพรรณบุรี

  บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด  ผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้ อรถจักรยานยนต์  ในเครือ เอ็ม บี เค  เล็งเห็นความสำคัญของการขับขี่ รถบนท้องถนนอย่างปลอ...