บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) สร้างโอกาสทางการศึกษาแก่เด็กด้อยโอกาสในพื้นที่ห่างไกล มอบเงินสนับสนุน จำนวน 1 ล้านบาท ก่อสร้าง “ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนปูนอินทรี-มูลนิธิกรุงศรี” อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เฟส 2 ในโครงการ “โรงเรียนสีเขียว” ปีที่ 15 ยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานของการพึ่งพาตัวเองได้ ภายใต้วิสัยทัศน์ “การพัฒนาอย่างยั่งยืน ปี 2573”
นายมนตรี นิธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจปูนซีเมนต์ของประเทศไทย ภายใต้ บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปูนซีเมนต์นครหลวงมีความมุ่งมั่นส่งเสริมให้เด็กไทยได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมและมีประสิทธิภาพ โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้สนับสนุนงบประมาณและองค์ความรู้ในการก่อสร้างและปรับปรุงอาคารศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ภายใต้โครงการ “โรงเรียนสีเขียว” เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็ก ๆ ที่ด้อยโอกาสในพื้นที่ห่างไกลมาแล้วกว่า 33 แห่ง อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 15 รวมมูลค่ากว่า 60 ล้านบาท โดยมีเด็กนักเรียนและชุมชนใกล้เคียงกว่า 60,000 คน ได้รับโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ปี 2573” ที่มุ่งสร้างคุณค่าการยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย ควบคู่การสร้างความผูกพันกับชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน
โดยปีนี้ ปูนซีเมนต์นครหลวง มอบเงินสนับสนุนการก่อสร้าง “ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนปูนอินทรี-มูลนิธิกรุงศรี” อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เฟส 2 ภายใต้โครงการ “โรงเรียนสีเขียว” ปีที่ 15 จำนวน 1 ล้านบาท และ มูลนิธิกรุงศรี ยังได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนงบประมาณก่อสร้างด้วยการมอบเงินจำนวนอีก 1 ล้านบาท รวมงบประมาณการก่อสร้างศูนย์การเรียนฯ แห่งนี้ ทั้งสองเฟสกว่า 6 ล้านบาท เพื่อการพัฒนาการศึกษาแก่เด็กด้อยโอกาสในพื้นที่ห่างไกล
ทั้งนี้ การพัฒนาคุณภาพชีวิตผ่านการศึกษานั้น เป็นปัจจัยที่สำคัญเป็นอย่างมากต่อกลยุทธ์การพัฒนาชาติบ้านเมือง เพราะการได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่แข็งแกร่ง จะสร้างนักเรียนไทยให้สามารถต่อยอดความรู้ที่ได้รับจากห้องเรียน ให้กลายเป็นทักษะชีวิตที่กว้างไกลมากยิ่งขึ้น ปูนซีเมนต์นครหลวง ขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนและส่งเสริมให้เยาวชนไทย โดยการสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียนที่ขาดแคลนโอกาส ได้นำความรู้มาพัฒนาตนเอง ชุมชนและประเทศไทยต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น