วันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

“โฮมโปร” โชว์รายได้ 9 เดือน โกยรายได้ 54,645.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,723.57 ล้านบาท กำไรสุทธิ 4,764.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 199.77 ล้านบาท หรือ 4.38%

 


“โฮมโปร” หรือ HMPRO เผยรายได้รวม เดือน 54,645.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,723.57 ล้านบาท หรือ 7.31% โดยมีกำไรสุทธิเท่ากับ 4,764.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 199.77 ล้านบาท หรือ 4.38% รายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ทั้งยอดขายในกลุ่มสินค้าทำความเย็นในช่วงไตรมาส 2 ซึ่งตรงกับฤดูร้อน รวมถึงการจัดแคมเปญ ‘เก่ามีค่า นำมาแลกใหม่’ หรือ ‘Trade in’ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ทั้งช่องทางสาขาและออนไลน์ รวมถึงกิจกรรม HomePro Expo 2023 ในช่วงไตรมาส 1 HomePro Super Expo ในช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 และกิจกรรม Double Day ในทุกเดือน

 

 

 

นายวีรพันธ์ อังสุมาลี กรรมการผู้จัดการบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ โฮมโปร เปิดเผยถึงการดำเนินงานงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 54,645.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,723.57 ล้านบาท หรือ 7.31% ซึ่งประกอบไปด้วย รายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า ซึ่งประกอบไปด้วยรายได้จากการขายสินค้า และรายได้จากการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมจำนวน 51,402.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,426.42 ล้านบาท หรือ 7.14%

 

โดยการปรับตัวเพิ่มขึ้นดังกล่าว เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย การออกมาตรการช้อปดีมีคืนจากภาครัฐ เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในช่วงไตรมาส 1 การเติบโตของยอดขายในกลุ่มสินค้าทำความเย็นในช่วงไตรมาส 2 ซึ่งตรงกับฤดูร้อน รวมถึงการจัดแคมเปญ ‘เก่ามีค่า นำมาแลกใหม่’ หรือ ‘Trade in’ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆทั้งช่องทางสาขาและออนไลน์ เพื่อกระตุ้นยอดขาย ได้แก่ กิจกรรม HomePro Expo 2023 ในช่วงไตรมาส 1 HomePro Super Expo ในช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 และกิจกรรม Double Day ในทุกเดือน นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดสาขาใหม่ของโฮมโปรและเมกาโฮม ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ปี 2565 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน

 

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีรายได้ค่าเช่า 1,374.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 118.48 ล้านบาท หรือ 9.43% จากปีก่อน เป็นผลมาจากการจัดเก็บรายได้ค่าเช่าพื้นที่เช่าในสาขาของโฮมโปรและศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจได้มากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยว เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และยังมีรายได้อื่นๆ อีก 1,867.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 178.67 ล้านบาท หรือ 10.58% โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้าทั้งในช่องทางสาขาและช่องทางออนไลน์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

 

นายวีรพันธ์ กล่าวอีกว่า ในช่วงไตรมาส 3 นั้น ตรงกับฤดูฝนของประเทศไทย โดยมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ ส่งผลต่อการเดินทางมาใช้บริการที่สาขาของลูกค้า ทำให้เกิดการชะลอตัวของการบริโภคและการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ เพื่อผลักดันยอดขายสินค้าและบริการ อาทิ กิจกรรม HomePro Super Expo ในวันที่ 27 กรกฎาคม ถึง 1 สิงหาคม 2566 ที่โฮมโปรทุกสาขาทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์ รวมถึงการจัดกิจกรรม Double Day และกิจกรรมส่งเสริมการขายอื่นๆ ที่สาขาและช่องทางออนไลน์อย่างสม่ำเสมอ

 

“สำหรับการขยายสาขาในไตรมาสที่ 3 นี้ บริษัทฯ มีการเปิดสาขาโฮมโปรใหม่ จำนวน 1 สาขา ได้แก่ สาขา ซีคอน บางแค และมีการเปิดสาขาเมกาโฮมใหม่ จำนวน 1 สาขา ได้แก่ สาขา ปลวกแดง จังหวัดระยอง ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 บริษัทฯ มีโฮมโปร 87 สาขา โฮมโปรเอส 5 สาขา เมกาโฮม 25 สาขา และ   โฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย 7 สาขา” นายวีรพันธ์ กล่าวปิดท้าย

 

#HomeProPR  #HomeProthailand  #เรื่องบ้านโฮมโปรคือคำตอบ  #ผลประกอบการโฮมโปร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ที ลีสซิ่ง จับมือ ศรีประจันต์วัฒนยนต์ จัดอบรม "ขับขี่ปลอดภัย ร่วมใจลดมลพิษ" โรงเรียนสงวนหญิง จ.สุพรรณบุรี

  บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด  ผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้ อรถจักรยานยนต์  ในเครือ เอ็ม บี เค  เล็งเห็นความสำคัญของการขับขี่ รถบนท้องถนนอย่างปลอ...