วันอังคารที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2566

บริดจสโตนได้รับการรับรองตามแนวทางการกำหนดเป้าหมายทางวิทยาศาสตร์ (Science Based Target: SBT) ด้วยเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

 


  • บริดจสโตนได้รับการรับรองตามแนวทางการกำหนดเป้าหมายทางวิทยาศาสตร์ (Science Based Target: SBTภายใต้โครงการกำหนดเป้าหมายโดยอิงหลักทางวิทยาศาสตร์ (Science Based Targets initiative: SBTi) ด้วยเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ภายในปี พ.2573
  • บริดจสโตนกำลังมุ่งสู่การบรรลุกรอบการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ซึ่งเชื่อมโยงระหว่างกิจกรรม ด้านความยั่งยืนและธุรกิจ เพื่อสนับสนุนความเป็นกลางทางคาร์บอนและเศรษฐกิจหมุนเวียนตลอดทั่วทั้งห่วงโซ่คุณค่
  • ความมุ่งมั่นดังกล่าวสอดคล้องกับ “Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน)” ซึ่งสนับสนุนให้บริดจสโตนก้าวไปสู่การเป็นองค์กรผู้ส่งมอบโซลูชั่นอย่างยั่งยื

[โตเกียว] (24 มีนาคม 2566) – บริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น ได้รับการรับรองจากโครงการกำหนดเป้าหมายโดยอิงหลักทางวิทยาศาสตร์ (SBTi) *1 ด้วยเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ภายในปี พ.. 2573 ซึ่งกำหนดโดยกลุ่มบริษัทในเครือบริดจสโตนทั่วโลก (บริดจสโตน*2 


SBTi ให้การรับรองแก่บริษัทที่กำหนดป้าหมายทางวิทยาศาสตร์ (Science Based Target: SBT) ด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวครอบคลุมระยะเวลา 5 – 10 ปี และเป็นไปตามระดับที่กำหนดโดยความตกลงปารีส (Paris Agreement) *3         

ความมุ่งมั่นของบริดจสโตนในครั้งนี้สอดคล้องกับคุณค่า ด้าน Energy (พลังงานด้วยการตระหนักถึงสังคมแห่งการเดินทาง ตั้งเป้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน”, “ด้าน Ecology (สิ่งแวดล้อม) ด้วยการตอบโจทย์ความยั่งยืนอย่างแท้จริงเพื่อสิ่งแวดล้อม” และ ด้าน Economy (เศรษฐกิจด้วยการดำเนินธุรกิจควบคู่กับการสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจให้ทะยานไปได้สุด ซึ่งอยู่ใน “Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน)” *4        


image.png


บริดจสโตนได้รับการรับรองตามแนวทาง SBT ด้วยเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ระยะกลางภายในปี .. 2573 (ขอบเขตที่ 1, 2 และ 3) ซึ่งเรากำลังดำเนินการตามเป้าหมายด้วยการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนควบคู่กับลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยเน้นที่ความสำคัญของการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างเร่งด่วนและจริงจัง ด้วยเหตุนี้ บริดจสโตนจึงปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานของกิจกรรมการผลิตอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียน ในขณะเดียวกัน เรามุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดทั่วทั้งห่วงโซ่คุณค่าและวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบไปจนถึงการจัดจำหน่าย รวมถึงการใช้ การใช้ซ้ำ ตลอดจนการรีไซเคิล บริดจสโตนยังคงรักษาระดับ A- หรือสูงกว่าจาก CDP *5 ในช่วงเจ็ดปีที่ผ่านมา ซึ่งบ่งชี้ว่า บริดจสโตนได้แสดงความมุ่งมั่นอย่างจริงจังในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ


บริดจสโตนกำหนดให้ความยั่งยืนเป็นแกนหลักในการบริหารงานและดำเนินธุรกิจ ทั้งยังมุ่งมั่นที่จะบรรลุวิสัยทัศน์ “สู่ปี พ.. 2593 บริดจสโตนยังคงส่งมอบคุณค่าให้สังคมและลูกค้าในฐานะองค์กรผู้ส่งมอบโซลูชั่นอย่างยั่งยืน” เรากำลังมุ่งสู่การบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนและใช้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อรุดหน้าสู่กรอบการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยเชื่อมโยงระหว่างกิจกรรมด้านความยั่งยืนและธุรกิจเข้าไว้ด้วยกันตลอดทั่วทั้งห่วงโซ่คุณค่าใน การผลิตไปจนถึงการจัดจำหน่าย” “การใช้” และ การหมุนเวียน บนพื้นฐานของความเป็นผู้นำในด้านผลิตภัณฑ์ (Dan-Totsu Products)


ด้วย 
“Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน)” ซึ่งเป็นแกนหลักในการบริหารงานเพื่อยกระดับองค์กร บริดจสโตนจะมุ่งสู่การสร้างสรรค์สังคมที่ยั่งยืนด้วยการสร้างคุณค่าร่วมกับพนักงาน สังคม พันธมิตรทางธุรกิจ และลูกค้า เพื่อความยั่งยืนและการเติบโตทางธุกิจ


ตัวอย่างกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นรูปธรรมของบริดจสโตน มีดังนี้

ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

Ø  การส่งเสริมโรงงานสีเขียวและโรงงานอัจฉริยะ (Green and Smart Factories)
ความมุ่งมั่นเชิงกลยุทธ์ระยะยาวของบริดจสโตนภายในปี 
.. 2573 *6 ซึ่งได้ถูกประกาศไว้เมื่อเดือนสิงหาคม พ.. 2565 ถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมโรงงานสีเขียวและโรงงานอัจฉริยะ (Green and Smart Factories) โดยบริดจสโตนมุ่งมั่นจัดหาแหล่งพลังงาน (ไฟฟ้า) ซึ่งมาจากพลังงานหมุนเวียนให้ได้มากกว่า 50% ภายในปี พ.. 2566 และจัดหาพลังงานหมุนเวียน (ไฟฟ้า) ให้ได้ 100% ภายในปี .. 2573 *7 บริดจสโตนได้เปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียนสำหรับการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดที่ Bridgestone EMIA ในยุโรป รวมถึงโรงงานสี่แห่งในประเทศญี่ปุ่น (เมืองฮิโกเนะ เมืองชิโมโนเซกิ เมืองโทสุ และเมืองคิตะคิวชู) และโรงงานสองแห่งในประเทศจีน (เมืองเทียนจินและเมืองอู๋ซี) นอกจากนี้บริดจสโตนยังได้เริ่มใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการผลิตไฟฟ้าที่โรงงานในประเทศไทย ประเทศสหรัฐอเมริกา และในยุโรปอีกด้วย

ยกระดับการส่งเสริมการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

Ø พัฒนายางสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ด้วยเทคโนโลยี “ENLITEN®”   
บริดจสโตนกำลังมุ่งมั่นพัฒนายางด้วยเทคโนโลยี ENLITEN *8  ซึ่งออกแบบมาเพื่อส่งมอบความพรีเมียมใหม่สำหรับยุคของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) และเพื่อส่งมอบความเหนือระดับ ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและสมรรถนะการขับขี่ เทคโนโลยีดังกล่าวช่วยเพิ่มระยะทางการขับขี่และประสิทธิภาพการใช้ไฟฟ้าของรถ EV โดยช่วยลดแรงต้านการหมุนของยาง ในขณะเดียวกันยางที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยี ENLITEN ยังออกแบบให้เหมาะกับสมรรถนะของรถ EV ด้วย เช่น เทคโนโลยี ENLITEN ช่วยให้ยางมีน้ำหนักเบา หรือช่วยให้ยางมีอายุการใช้งานได้มากยิ่งขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยี ENLITEN บริดจสโตนมุ่งมั่นสนับสนุนความปลอดภัยและความอุ่นใจในการเดินทาง ในขณะเดียวกันยังมีส่วนร่วมเป็นอย่างยิ่งในด้านความยั่งยืนด้วยการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร  

 

Ø ต่อยอดโซลูชั่นเพื่อการเดินทาง

บริดจสโตนส่งมอบโซลูชั่นเพื่อการเดินทางซึ่งยืดอายุการใช้งานของยานพาหนะให้ยาวนานยิ่งขึ้น โดยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อประเมินประสิทธิภาพของยานพาหนะและการสึกหรอของยาง ในขณะเดียวกันยังให้การบริการเปลี่ยนยางและการดูแลรักษายางอย่างมีประสิทธิภาพแก่ลูกค้าหลากหลายกลุ่มด้วยกัน นอกจากนี้ยังมุ่งมั่นสนับสนุนความปลอดภัยและความอุ่นใจในการเดินทางให้กับลูกค้า บริดจสโตนกำลังพัฒนาและต่อยอดโซลูชั่นเพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านการใช้งานยางของลูกค้า โดยการช่วยเพิ่มประโยชน์และมูลค่าทางเศรษฐกิจ

 

Ø ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมกับคู่ค้าเพิ่มมากขึ้น   
ในปี 
.. 2564 บริดจสโตนได้ปรับปรุงบางส่วนของนโยบายการจัดซื้ออย่างยั่งยืนที่ใช้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงการปรับเปลี่ยนเพื่อกำหนดรูปแบบความคิดริเริ่มที่ดียิ่งขึ้นเพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน นอกจากนี้บริดจสโตนยังจัดการอภิปรายเกี่ยวกับนโยบายดังกล่าวสำหรับคู่ค้าในภูมิภาคต่างๆ ที่บริดจสโตนดำเนินธุรกิจ เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาเข้าใจนโยบายและกิจกรรมของบริดจสโตนอย่างแท้จริง ตามนโยบายดังกล่าวนี้ บริดจสโตนจะร่วมมือกับคู่ค้าเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตั้งแต่ต้นน้ำของห่วงโซ่อุปทาน         

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาอ้างอิงจาก บริดจสโตน 3.0 (รายงานเชิงบูรณาการประจำปี พ.. 2565) และรายละเอียดด้านความยั่งยืนบนเว็บไซต์บริดจสโตน *9


*1                    โครงการกำหนดเป้าหมายโดยอิงหลักทางวิทยาศาสตร์ (Science Based Targets initiative: SBTi)

SBTi เป็นโครงการระดับโลกที่ช่วยให้ธุรกิจกำหนดเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยอ้างอิงหลักทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของความตกลงปารีส (Paris Agreement) โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือกันระหว่างองค์กร Carbon Disclosure Project (CDP) เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระหว่างประเทศซึ่งสนับสนุนการเปิดเผยข้อมูลสิ่งแวดล้อม ได้แก่ องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (World Wide Fund for Nature Inc.), สถาบันทรัพยากรโลก (World Resources Institute) และข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) 

 

*2                    เป้าหมายระยะสั้นที่ได้รับการรับรองโดย SBTi      
https://www.bridgestone.com/responsibilities/environment/reduce_co2/operations/

*3                    ความตกลงปารีส (Paris Agreement) เป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่มีผลผูกพันทางกฎหมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้วยเป้าหมายคือ ควบคุมอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม และพยายามควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับระดับอุณหภูมิก่อนยุคอุตสาหกรรม 

*4                    กลุ่มบริษัทในเครือบริดจสโตนได้กำหนด “Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน)" เพื่อช่วยให้บรรลุวิสัยทัศน์: "สู่ปี พ.. 2593 บริดจสโตนยังคงส่งมอบคุณค่า ให้สังคมและลูกค้าในฐานะองค์กรผู้ส่งมอบโซลูชั่นอย่างยั่งยืน" ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนการบริหารควบคู่ไปกับการสร้างความไว้วางใจและน่าเชื่อถือให้กับคนรุ่นต่อไปในอนาคต “Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน)" ประกอบด้วยคุณค่า ด้านของ
บริดจสโตนที่เริ่มต้นด้วยตัวอักษร "E" (ด้าน Energy (พลังงาน), ด้าน Ecology (สิ่งแวดล้อม), ด้าน Efficiency (ประสิทธิภาพ), ด้าน Extension (การเติบโต), ด้าน Economy (เศรษฐกิจ), ด้าน Emotion (ความรู้สึก), ด้าน Ease (ความสะดวกสบายและด้าน Empowerment (พลังทาง  สังคม) ซึ่งกลุ่มบริษัทในเครือบริดจสโตนจะมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผ่านเจตจำนงและกระบวนการทำงานร่วมกับพนักงาน สังคม พันธมิตร และลูกค้า เพื่อสังคมที่ยั่งยืน       
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bridgestone.com/corporate/news/pdf/2022030101.pdf

*5                    Carbon Disclosure Project (CDP) เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระหว่างประเทศซึ่งรวบรวมและเปิดเผยข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับองค์กร หรือเมืองต่างๆ ทั่วโลก จากความต้องการของนักลงทุนสถาบั, บริษัท และองค์กรต่างๆ นั้น CDP จึงสนับสนุนให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก การจัดการน้ำ และความใส่ใจสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ทั้งยังตรวจสอบและประเมินองค์กรดังกล่าวด้วย

*6                ความมุ่งมั่นเชิงกลยุทธ์ระยะยาวสู่ปี พ.. 2573 – รายงานเชิงบูรณาการ Bridgestone 3.0 Journey– แผนกลยุทธ์ของบริดจสโตนสู่การเป็นองค์กรที่ยืดหยุ่นและประสบความสำเร็จ

*7                 บริดจสโตนมุ่งมั่นจัดหาแหล่งพลังงาน (ไฟฟ้า) ซึ่งมาจากพลังงานหมุนเวียนให้ได้มากกว่า 50% ภายในปี พ.. 2566 และจัดหาพลังงานหมุนเวียน (ไฟฟ้า) ให้ได้ 100% ภายในปี .. 2573  สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 2030 Long Term Strategic Aspiration - Bridgestone 3.0 Journey  (หน้า 34)

*8                    บริดจสโตนกำลังมุ่งมั่นพัฒนายางด้วยเทคโนโลยี ENLITEN สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bridgestone.co.th/th/why-bridgestone/innovation/enliten

*9                    สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาอ้างอิงจากรายงานเชิงบูรณาการ Bridgestone 3.0 Journey (รายงานเชิงบูรณาการประจำปี พ.. 2565) และรายละเอียดด้านความยั่งยืนบนเว็บไซต์ของบริดจสโตน

https://www.bridgestone.com/ir/library/integrated_report/index.html

https://www.bridgestone.com/responsibilities/index.html


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ที ลีสซิ่ง จับมือ ศรีประจันต์วัฒนยนต์ จัดอบรม "ขับขี่ปลอดภัย ร่วมใจลดมลพิษ" โรงเรียนสงวนหญิง จ.สุพรรณบุรี

  บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด  ผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้ อรถจักรยานยนต์  ในเครือ เอ็ม บี เค  เล็งเห็นความสำคัญของการขับขี่ รถบนท้องถนนอย่างปลอ...