7 มีนาคม 2566, กรุงเทพฯ ประเทศไทย: สายการบินเอมิเรตส์ได้นำพลาสติกและแก้วจากขวดที่ถูกทิ้งบนเครื่องในตลอดช่วงปี 2565 มารีไซเคิลและแปรรูปเพื่อใช้ใหม่ ซึ่งจำนวนพลาสติกและแก้วนั้นมีน้ำหนักมากกว่า 500,000 กิโลกรัม หรือเกือบเทียบเท่ากับน้ำหนักเครื่องบิน A380 ของสายการบินเอมิเรตส์ที่บรรทุกเต็มลำ
ในทุกเที่ยวบินที่ลงจอดในดูไบ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของสายการบินเอมิเรตส์จะคัดแยกขวดแก้วและขวดพลาสติกเพื่อนำส่งไปยังโรงงานรีไซเคิลในดูไบ โดยแก้วจะถูกแยกตามสีและบดให้แตก จากนั้น 'เศษแก้ว' หรือแก้วรีไซเคิลที่พร้อมจะนำไปหลอมใหม่จะถูกส่งไปยังผู้ผลิตแก้วในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพื่อรวมไว้ในการผสมเป็นชุดสำหรับขวดใหม่ ในขณะที่ขวดพลาสติกจะถูกทำความสะอาด สับเป็นเกล็ด หลอมเป็นเม็ด และส่งไปยังผู้ผลิตเพื่อทำผลิตภัณฑ์พลาสติกอื่น ๆ ดังนั้นสายการบินเอมิเรตส์ และ Emirates Flight Catering จึงสามารถแปรสภาพแก้วและพลาสติกหลายพันกิโลกรัมที่ใช้แล้วให้กลับมาใช้ได้ใหม่ในแต่ละปี
โครงการริเริ่มการรีไซเคิลแก้วและพลาสติกบนเครื่องมาจากข้อเสนอแนะของลูกเรือจากสายการบินเอมิเรตส์ที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมในปี 2562 จากการสัมมนาผ่านเว็บและงานอีเวนต์ ที่เปิดพื้นที่ให้ลูกเรือทุกคนแสดงความคิดเห็นและกระตุ้นให้แบ่งปันแนวคิดอันสร้างสรรค์ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ต่อไป ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามและเริ่มดำเนินการอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ สายการบินเอมิเรตส์มีความคิดริเริ่มอื่น ๆ อีกมากมายซึ่งมุ่งเน้นไปที่การนำพลาสติกกลับมาใช้ใหม่หรือการใช้วัสดุอย่างยั่งยืน ดังนี้:
ผ้าห่มของเอมิเรตส์ที่ทำจากพลาสติกรีไซเคิล
ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา สายการบินเอมิเรตส์ได้นำเสนอผ้าห่มแสนสบายที่ทำจากขวดพลาสติกรีไซเคิลแก่ผู้โดยสารชั้นประหยัดบนเที่ยวบินระยะไกล ซึ่งผ้าห่มนุ่มและอุ่นนี้ทำจากขวดพลาสติกรีไซเคิล 28 ขวด ที่พลาสติกจะถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจนกลายเป็นเส้นด้ายและเกิดเป็นวัสดุเส้นใยแบบขนแกะ ก่อนที่เส้นด้ายละเอียดนั้นจะถูกทอเป็นผ้าห่มนุ่ม ๆ อย่างที่ทุกคนได้สัมผัส โดยกว่า 6 ปีนับตั้งแต่มีการริเริ่มดังกล่าว ผ้าห่มของสายการบินเอมิเรตส์ได้ช่วยรีไซเคิล เพื่อไม่ให้ขวดพลาสติกมากกว่า 95 ล้านขวดถูกปล่อยทิ้งฝังกลบอย่างไร้ประโยชน์ นอกจากนี้ในฐานะที่เป็นโครงการที่ครอบคลุมอย่างยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมการบิน กระบวนการผลิตที่ใช้โพลีเอทิลีนเทเรฟทาเลตรีไซเคิล (rPET) ยังช่วยลดการปล่อยพลังงานได้ประมาณ 70% อีกด้วย
ผลิตเพื่อการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ
การบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบถือเป็นประเด็นสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับสายการบินเอมิเรตส์ ซึ่งได้บัญญัติข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมไว้ในจรรยาบรรณของซัพพลายเออร์ทุกภาคส่วน และพิจารณากระบวนการทั้งหมดของผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ เช่น ไม้คนชาและกาแฟ หลอดกระดาษ และถุงขายปลีกบนเครื่องบิน จะต้องผลิตขึ้นโดยใช้ไม้และกระดาษจากป่าที่มีการจัดการอย่างมีความรับผิดชอบ เป็นต้น
ของเล่นเด็กของเอมิเรตส์ทำจากวัสดุที่มาจากแหล่งที่ยั่งยืน
สำหรับเหล่าลูกค้าตัวน้อยสายการบินเอมิเรตส์ กระเป๋าของเล่น ชุดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับเด็ก และของเล่นตุ๊กตาที่ให้บริการฟรีของสายการบินยังทำมาจากขวดพลาสติกรีไซเคิลและวัสดุที่ยั่งยืนอื่น ๆ นอกจากนี้กระเป๋าคาดเอว กระเป๋าถือ และเป้สะพายหลัง ยังได้รับการออกแบบที่คำนึงถึงกลุ่มอายุโดยเฉพาะ และสร้างจากเส้นด้ายที่ทำจากขวดพลาสติกรีไซเคิล 100% โดยกระเป๋าเป้สำหรับเด็กของเอมิเรตส์แต่ละใบทำจากขวดพลาสติกรีไซเคิล 5.5 ขวด และกระเป๋าถือแต่ละใบทำจาก 7 ขวด การผลิตกระเป๋าสำหรับเด็กของสายการบินเอมิเรตส์ช่วยประหยัดขวดพลาสติกได้ 8 ล้านขวดจากการถูกปล่อยทิ้งฝังกลบอย่างไร้ประโยชน์ ยิ่งไปกว่านั้นตัวแท็กสวิงยังทำจากการ์ดรีไซเคิล และแม้แต่กล่องด้านนอกที่จัดส่งผลิตภัณฑ์ก็ทำจากการ์ดรีไซเคิลที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้อีกครั้งอีกด้วย
ชุดสิ่งอำนวยความสะดวกบนเครื่องของเอมิเรตส์ที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้
ชุดสิ่งอำนวยความสะดวกในชั้นประหยัดพรีเมียมและชั้นประหยัดของสายการบินเอมิเรตส์เป็นบริการฟรีสำหรับลูกค้าที่เดินทางในเที่ยวบินระยะไกล ชุดสิ่งอำนวยความสะดวกได้รับการออกแบบตามองค์ประกอบสำคัญทั้งสี่ของธรรมชาติ ได้แก่ ไฟ น้ำ ดิน และอากาศ โดยตัวกระเป๋าทำจากกระดาษคราฟท์ที่ล้างทำความสะอาดได้ และใช้น้ำหมึกที่ผลิตจากถั่วปลอดสารพิษในการพิมพ์ลวดลายของตัวกระเป๋าอย่างงดงาม ภายในชุดสิ่งอำนวยความสะดวกบรรจุอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเดินทาง เช่น แปรงสีฟันทำมาจากฟางข้าวสาลีผสมพลาสติก ถุงเท้าและที่ปิดตาทำจากพลาสติกรีไซเคิล rPET (โพลีเอทิลีนเทเรฟทาเลตรีไซเคิล) บรรจุภัณฑ์ที่ใช้สำหรับชุดทันตกรรม ถุงเท้า และที่ปิดตาทำจากกระดาษข้าว 90% เป็นต้น ซึ่งถือว่าอุปกรณ์ในชุดสิ่งอำนวยความสะดวกรวมถึงตัวประเป๋าล้วนทำจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสามารถรีไซเคิลได้ทั้งสิ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น