กรุงเทพฯ, ประเทศไทย (7 มี.ค. 2566) – เมื่อเร็ว ๆ นี้ พรีเมียร์ลีกได้จัดงานฉลองครบรอบ 30 ปี โดยร่วมกับทรูวิชั่นส์ ผู้ถือครองลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกอย่างเป็นทางการในประเทศไทยและสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย
ภายในงานมีการจัดแสดงถ้วยรางวัลของพรีเมียร์ลีก โดยได้รับเกียรติจาก นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายเดฟ โทมัส รองหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูต สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย นายองอาจ ประภากมล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านมีเดีย บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ตัวแทนจากพรีเมียร์ลีก และแขกผู้เกียรติจากวงการกีฬา ธุรกิจและบันเทิง รวมไปถึงนายพงษ์พิสุทธิ์ ผิวอ่อน อดีตนักฟุตบอลชาวไทยระดับตำนาน
นอกจากนี้ นายเดฟ โทมัส รองหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูต สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทยกล่าวแสดงความยินดว่า “พรีเมียร์ลีกเป็นรายการการแข่งขันฟุตบอลที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลกและเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทย พวกเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้จัดงานฉลองครบรอบ 30 ปีพรีเมียร์ลีกขึ้นในประเทศไทย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหราชอาณาจักร ภายใต้แคมเปญ GREAT Britain”
งานฉลองครบรอบ 30 ปี พรีเมียร์ลีกจัดขึ้นหลังจากที่มีการเปิดตัวแคมเปญ ‘Boot Out Piracy’ (ต่อต้านสตรีมมิ่งละเมิดลิขสิทธิ์) ในประเทศไทยเพื่อเน้นย้ำถึงความอันตรายจากการรับชมฟุตบอลผ่านช่องทางผิดกฎหมายและยังลดอรรถรสในการรับชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกจากผู้ให้บริการผิดกฎหมายอีกด้วย
แคมเปญ ‘Boot Out Piracy’ (ต่อต้านสตรีมมิ่งละเมิดลิขสิทธิ์) ถือเป็นแคมเปญแรกในประเทศไทยที่มีเหล่านักฟุตบอลชื่อดังเข้าร่วม อาทิ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กองหลังจากลิเวอร์พูล, อิลคาย กุนโดกัน จากแมนเชสเตอร์ ซิตี้, เจมี วาร์ดี กองหน้าจากเลสเตอร์ ซิตี้ และแจ็ค แฮร์ริสัน จากลีดส์ ยูไนเต็ด พวกเขาจะปรากฎในวีดีโอที่ช่วยสร้างความตระหนักรู้ถึงความเสี่ยงของการรับชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกผ่านเว็บไซต์และอุปกรณ์ผิดกฎหมายและการสูญเสียอรรถรสในการรับชมจากสตรีมมิ่งแบบผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมาพรีเมียร์ลีกร่วมกับทรูวิชั่นส์ จัดเวิร์กชอปเกี่ยวกับการต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์ ร่วมกับทรูวิชั่นส์ เพื่อแสดงถึงความสำเร็จล่าสุดในการปราบปรามสตรีมมิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทยและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นหลังจากการระงับเว็บไซต์ผิดกฎหมายในภูมิภาคฯ รวมไปถึงการแชร์แนวทางปฏิบัติในการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างพรีเมียร์ลีกและรัฐบาลไทยในการจัดการสตรีมมิ่งผิดกฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
พรีเมียร์ลีกมีโครงการต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์ที่ครอบคลุมมากที่สุดในโลกและทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และ ทรูวิชั่นส์ เพื่อปราบปรามการสตรีมมิ่งแบบผิดกฎหมาย ซึ่งได้มีการตั้งการสอบสวนและดำเนินคดีแก่ผู้กระทำผิด พร้อมทั้งปกป้องแฟนฟุตบอลจากความเสี่ยงของการรับชมสตรีมมิ่งผิดกฎหมายอีกด้วย
นายแอรอน เฮอร์ปส์ ผู้อำนวยการฝ่ายคุ้มครองด้านเนื้อหา ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค พรีเมียร์ลีก กล่าวว่า “เรามีแฟนบอลไทยมากมายที่หลงใหลที่ให้การสนับสนุนและติดตามพรีเมียร์ลีกมาโดยตลอด และถือเป็นโอกาสอันดีที่เราได้ร่วมเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 30 ปีของพรีเมียร์ลีกร่วมกับแฟนบอลชาวไทย อีกทั้งยังเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราการนำเสนอรายการแข่งขันฟุตบอลที่มีคุณภาพให้แก่แฟนบอลชาวไทยของเราต่อไป ซึ่งจะเกิดขึ้นไม่ได้หากปราศจากความร่วมมือกับ ทรูวิชั่นส์ ดำเนินการด้วยดีมาโดยตลอด และยังถือเป็นโอกาสสำคัญของเราในการยกระดับความสัมพันธ์กับหน่วงงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายในประเทศไทยและขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันต่อสู้กับสตีมมิ่งผิดกฎหมายในระยะยาว”
นายองอาจ ประภากมล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านมีเดีย บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ทางทรูวิชั่นส์ ต้องขอแสดงความยินดีด้วยเป็นอย่างยิ่ง เนื่องในโอกาสที่ พรีเมียร์ลีก ครบรอบ 30 ปี และต้องขอขอบคุณที่ได้สนับสนุนทางทรูวิชั่นส์ ให้ได้นำเข้าลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับโลกอย่างฟุตบอลพรีมียร์ลีก อังกฤษ มาโดยตลอด สำหรับฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นคอนเทนท์ที่แฟนกีฬาฟุตบอลชาวไทยต่างให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก และทางเราก็ให้ความสำคัญกับเรื่องของลิขสิทธิ์ ซึ่งเป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่ต้องได้รับความคุ้มครองมาโดยตลอด นอกจากนั้น ทางทรูวิชั่นส์ยังให้บริการการสตรีมมิ่งแบบถูกกฎหมาย เพื่อเพิ่มช่องทางเอาใจหลากหลายไลฟ์สไตล์แฟนบอลชาวไทย ซึ่งเราเชื่อว่าการรับชมกีฬาประเภทนี้แบบสด อีกทั้งการมีพากย์ไทยจากนักพากย์ชั้นนำของทรูวิชั่นส์ จะได้ความสนุกสนานกันเป็นอย่างมาก โดย ทรูวิชั่นส์ ได้นำเสนอแพ็กเกจต่าง ๆ หลายรูปแบบเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกกลุ่ม และทุกไลฟ์สไตล์ของแฟนบอล ที่มีทั้งชมที่บ้าน ชมผ่านมือถือ หรือไปเชียร์กับเพื่อนตามร้านอาหาร ผับ บาร์ ซึ่งก็มีแพ็กเกจแบบคุ้มค่าเพื่อรองรับผู้ประกอบการร้านเค้าหล่านี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งทรูวิชั่นส์ ต้องขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้การสนับสนุนเลือกการดูคอนเทนท์อย่างถูกต้องถูกลิขสิทธิ์ และที่สำคัญในวันนี้เป็นโอกาสที่ดี ของแฟนบอลชาวไทยทุกคน เพราะทางพรีเมียร์ลีก ได้นำเอา “Premier League Trophy” ซึ่งส่งตรงมาจากประเทศอังกฤษ มาให้คนไทยได้ชื่นชม และในวันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม นี้ ทางทรูวิชั่นส์ ก็ได้จัดงาน "RED WAR" การยิงสดการแข่งขันฟุตบอลคู่หยุดโลกระหว่าง “ลิเวอร์พูล” และ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ผ่านจอยักษ์ และภายในงานก็มีการนำ “Premier League Trophy” มาให้ทุกคนได้เข้าชมอีกด้วย”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น