บรรยายใต้ภาพ : (นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมจับมือ นางสุวรรณี สิงห์ฤาเดช (ที่ 2 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซีเมนส์ ประเทศไทย)
“ถิรไทย” ร่วมมือทางธุรกิจกับ ซีเมนส์ เพิ่มไลน์ธุรกิจต่อเนื่องของหม้อแปลงไฟฟ้าเตรียมลุยตลาด “สวิทช์เกียร์” หัวใจสำคัญหลักในการกระจายกระแสไฟฟ้าซึ่งเป็นอุปกรณ์ป้องกันและอุปกรณ์ ตัดต่อกระแสไฟฟ้าระบบแรงดันปานกลาง ใต้ดินเพื่อเตรียมรองรับตลาดการขยายเมือง และการนำสายไฟฟ้าลงดินในกลุ่มลูกค้าหน่วยงานรัฐและเอกชน ด้าน “สัมพันธ์ วงษ์ปาน” ผู้บริหารถิรไทย ชี้ปีนี้ภาพรวมบริษัทยังเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจของโลกที่มีความผันผวน แต่ไม่น่ากังวล เพราะตุน Backlog ทั้งกลุ่มไว้แล้วกว่า 1,441 ล้านบาท พร้อมเตรียมเข้าบิด (ประมูล) งานอีกกว่า 14,295 ล้านบาท คาดสามารถคว้างานได้ 20-25%
นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT ผู้นำตลาดหม้อแปลงไฟฟ้าและอุตสาหกรรมด้านเกี่ยวกับพลังงานรายใหญ่ของประเทศ เพื่อผลิตสินค้าตามคำสั่งซื้อของลูกค้า (made to order) เพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯได้แตกไลน์ โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับหม้อแปลงไฟฟ้า ซึ่งล่าสุดได้ร่วมมือทางธุรกิจกับซีเมนส์ ในการทำตลาด “สวิทช์เกียร์” ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งกับระบบจำหน่าย ไฟฟ้า โดยเป็นการต่อยอดลิขสิทธิ์ของซีเมนส์ให้เหมาะกับการทำตลาดในประเทศไทย
ซึ่ง “สวิทช์เกียร์” เป็นอุปกรณ์ป้องกัน และอุปกรณ์ตัดต่อกระแสไฟฟ้าระบบแรงดันปานกลางใต้ดิน ใช้สำหรับสถานีไฟฟ้า และเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้ระบบไฟฟ้ามีความมั่นคงมากขึ้น ประกอบกับมีขนาดเล็ก ประหยัดพื้นที่ ติดตั้งใช้งานได้รวดเร็ว และเป็นอุปกรณ์ที่ทันสมัยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อมารองรับการขยายตัวของเมืองในหัวเมืองใหญ่ๆ ทั้งระบบรถไฟฟ้า และการนำสายไฟลงดินอีกด้วย
“ในอนาคตบริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะร่วมมือกับซีเมนส์ในการพัฒนาตลาด “สวิทช์เกียร์” เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย” นายสัมพันธ์กล่าว
“ปี 2565 นี้ ภาพรวมของบริษัทฯ ก็ยังเป็นไปตามความผันผวนของสถานการณ์เศรษฐกิจของโลก รวมถึงราคาวัตถุดิบ แต่ถึงอย่างไร บริษัทฯยังคงสามารถรักษามาตรฐานในการผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าที่มีคุณภาพ ด้วยฝีมือคนไทยได้อย่างมั่นคง โดยในครึ่งปี 65 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มี Backlog ทั้งกลุ่มไว้แล้วอยู่ที่ 1,441 ล้านบาท และยังคงเข้าร่วมประมูลงานจากภาครัฐ เอกชน และตลาดในต่างประเทศอีกมูลค่ากว่า 14,295 ล้านบาท บริษัทฯ คาดว่าสามารถได้งานไม่น้อยกว่า 20-25% อีกด้วย” นายสัมพันธ์กล่าวปิดท้าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น