กรุงเทพฯ - คณะกรรมการบริหารบริษัทเฮงเค็ล ร่วมกันนำเสนอผลการดำเนินงานตามวาระการเติบโตอย่างมีเป้าหมายในวันตลาดทุนของเฮงเค็ลที่ผ่านมา โดยเน้นย้ำถึงอัตราการเติบโตของธุรกิจและศักยภาพในการสร้างรายได้ของ 2 หน่วยธุรกิจ ได้แก่ หน่วยธุรกิจเทคโนโลยีกาว และอนาคตของธุรกิจแบรนด์ผู้บริโภค
ในการปรับมาใช้โครงสร้างองค์กรใหม่นั้น เฮงเค็ลสามารถทำได้สำเร็จก่อนช่วงเวลาที่ได้ประกาศไว้ ทั้งยังได้เพิ่มแนวทางของยอดขายตลอดปี 2565 สำหรับกลุ่มบริษัทเฮงเค็ลทั้งหมดและหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีกาว ซึ่งในไตรมาสสามที่ผ่านมา ยอดขายแบบออร์แกนิคยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
จุดที่เน้นย้ำในวันตลาดทุน คือ สองหน่วยธุรกิจ ได้แก่ธุรกิจเทคโนโลยีกาวและธุรกิจแบรนด์ผู้บริโภค ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีทิศทางเชิงกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง มีความได้เปรียบทางเทคโนโลยีและเป็นธุรกิจที่น่าสนใจด้วยแบรนด์ชั้นนำระดับโลก นอกจากนี้ การให้ความสำคัญด้านความยั่งยืนในทุกมิตินั้นได้รับการยืนยันอีกครั้งว่า เป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จในการดำเนินการตามวาระการเติบโตอย่างมีเป้าหมายของบริษัท ทั้งสำหรับหน่วยธุรกิจและในระดับกลุ่มบริษัท
แนวโน้มการเติบโตของยอดขายออร์แกนิค สำหรับปีงบประมาณ 2565 ปรับเพิ่มขึ้น
"ในมุมมองของการเติบโตยอดขายที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องของธุรกิจเทคโนโลยีกาว วันนี้เราได้ปรับปรุงทิศทางการดำเนินงานของปีงบประมาณ 2565 สำหรับทั้งหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีกาวและกลุ่มบริษัทเฮงเค็ล นอกจากนี้เรายังคงมุ่งมั่นตั้งใจที่จะดำเนินมาตรการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อลดต้นทุนทั้งในเรื่องของวัตถุดิบ โลจิสติกส์และต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก จนส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท" คาร์สเทน โนเบล ประธานกรรมการบริหาร เฮงเค็ล กล่าว
เฮงเค็ลคาดว่าการเติบโตของยอดขายในระดับกลุ่มจะเพิ่มขึ้นจาก 5.5% ถึง 7.5% ในปีงบประมาณ 2565 (ก่อนหน้านี้ คาดไว้ที่ 4.5% - 6.5%) สำหรับหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีกาว การเติบโตของยอดขาย คาดว่าจะเพิ่มขึ้นระหว่าง 10% - 12% (ก่อนหน้านี้ คาดไว้ที่ 8% - 10%) สำหรับธุรกิจบิวตี้แคร์ ยังคงคาดว่าการเติบโตของยอดขายจะยังคงถดถอยในช่วง 1% - 3% เป็นผลเนื่องจากการดำเนินการตามมาตรการปรับพอร์ตโฟลิโอที่ประกาศไว้สำหรับปี 2565 สำหรับหน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน คาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้น 4% - 6%
ดำเนินการตามวาระการเติบโตอย่างมีเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง
เฮงเค็ล อยู่ระหว่างการดำเนินการตามวาระการเติบโตอย่างมีเป้าหมายและได้พัฒนากรอบกลยุทธ์ไว้อย่างชัดเจนสำหรับเรื่องนี้ องค์ประกอบสำคัญของกรอบกลยุทธ์ คือ ผลงานที่ประสบความสำเร็จ ความได้เปรียบทางการแข่งขันทั้งในด้านนวัตกรรม ความยั่งยืนและการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัล รวมถึงรูปแบบการดำเนินงานที่พร้อมสำหรับอนาคตสอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง
"ด้วยธุรกิจเทคโนโลยีกาวของเรา เราเป็นผู้นำระดับโลกในการนำเสนอโซลูชั่นนวัตกรรม ซึ่งมุ่งเน้นไปที่เมกะเทรนด์ เช่น ความยั่งยืน e-mobility และการเชื่อมต่อ การควบรวมแบรนด์ผู้บริโภคถือเป็นก้าวย่างเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับเราในการสร้างแพลตฟอร์มหลายหมวดหมู่และนำเสนอออกไปทั่วโลก ผมเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า เราจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้และดำเนินการตามวาระการเติบโตอย่างมีเป้าหมายของเราได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญอย่างยิ่ง” คาร์สเทน โนเบล ประธานกรรมการบริหาร เฮงเค็ล กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น