กรุงเทพฯ และนครโฮจิมินห์ 1 กรกฎาคม 2565 – เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา วีโร่ได้คว้ารางวัลระดับ Gold สำหรับแคมเปญที่ดีที่สุดด้านสุขภาพและยา (Best Health and Pharmaceuticals campaign) ในงานประกาศรางวัล PRAwards 2022 ซึ่งจัดโดยสื่อชั้นนำอย่าง Marketing Interactive โดยได้รับรางวัลจากแคมเปญ “Love is Hard, HIV Prevention is Easy” ซึ่งวีโร่ได้ทำงานร่วมกับบริษัทเอเจนซี่ของเวียดนามอย่าง The Lab นอกจากนี้ วีโร่ และ The Lab ยังได้รับคัดเลือกให้เข้าชิงรางวัลประเภทแคมเปญที่ดีที่สุดสำหรับภาครัฐ (Best Public Sector campaign) ในงานประกาศรางวัล PR Awards Asia ประจำปีนี้อีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น วีโร่ยังสามารถคว้ารางวัลระดับ Gold ในประเภทรางวัลการใช้งานดิจิทัลได้ดีที่สุด (โควิด-19) [Best use of Digital (COVID-19)] จากแคมเปญ “Save Small Businesses” ซึ่งได้ทำให้กับ TikTok ประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กและร้านอาหารในประเทศไทยฟื้นตัวได้หลังวิกฤตโควิด-19 โดยรางวัลที่ได้ในครั้งนี้เป็นรางวัลต่อเนื่องจากแคมเปญต่างๆ ของวีโร่ที่ได้ผ่านเข้ารอบการตัดสินรางวัล PRAwards จัดโดยนิตยสาร Marketing Interactive ในประเภทแคมเปญโควิด-19 ที่ดีที่สุด (Best COVID-19) ด้วย
งานประกาศรางวัล PR Awards Asia จัดขึ้นจากการร่วมมือกันของสื่อชั้นนำอย่าง Campaign และ PRWeek เพื่อยกย่องความสามารถและความสำเร็จในวงการสื่อสารและเอเจนซี่ชั้นนำจากทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยจัดขึ้นต่อเนื่องมานานกว่า 20 ปี
ในขณะที่งานประกาศรางวัล PRAwards ซึ่งจัดโดยนิตยสาร Marketing Interactive นั้นยกย่องผลงานที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมประชาสัมพันธ์และการสื่อสารทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ ครอบคลุมไปจนถึงประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
ทั้งนี้ วีโร่เป็นบริษัทที่ปรึกษาผู้ให้บริการด้านการสื่อสารชั้นนำที่ได้รับรางวัลเอเจนซี่ด้านประชาสัมพันธ์แห่งปี โดยให้คำปรึกษาแก่แบรนด์และบริษัทระดับแถวหน้าของโลกมากมาย รวมถึงองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยวีโร่ออกแบบและพัฒนากลยุทธ์ด้านการตลาดและการสื่อสารแบบครบวงจร ที่สอดคล้องกับระบบนิเวศดิจิทัลทั่วทั้งภูมิภาคและตลาดประเทศต่างๆ ที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน วีโร่มีทีมงานที่ปรึกษาด้านการประชาสัมพันธ์ โซเชียลมีเดีย การตลาดดิจิทัล การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ และบริการด้านงานสร้างสรรค์กว่า 150 คน ประจำอยู่ที่สำนักงานต่างๆ ในอินโดนีเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม
Love is Hard, HIV Prevention is Easy
แคมเปญ “Love is Hard, HIV Prevention is Easy” เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญรณรงค์ด้านสาธารณสุขแห่งชาติประจำปี 2564 ของเวียดนามที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความตระหนักรู้แก่ผู้คนเกี่ยวกับการป้องกันเชื้อเอชไอวี ลดการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ ทลายกรอบความคิดและการตีตราผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีในเวียดนาม ตลอดจนส่งเสริมเครื่องมือป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีแบบใหม่ล่าสุด แคมเปญนี้ดำเนินการโดยคณะบริหารเพื่อควบคุมเอชไอวี/เอดส์แห่งเวียดนาม (VAAC) ซึ่งได้รับการสนับสนุนทางเทคนิคและการเงินจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (US CDC) ภายใต้แผนฉุกเฉินของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อการบรรเทาโรคเอดส์ (PEPFAR) และคณะความร่วมมือเพื่อความก้าวหน้าด้านสุขภาพในเวียดนาม (HAIVN)
รองศาสตราจารย์ ดร.ฟาน ถิ ทู ฮ่อง (Phan Thi Thu Huong) ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมเอชไอวี/เอดส์แห่งเวียดนาม (VAAC) กระทรวงสาธารณสุขเวียดนาม กล่าวว่า “แคมเปญ 'Love is Hard, HIV Prevention is Easy' ได้รับการออกแบบมาโดยมีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนมุมมองการรับรู้ของสาธารณชนเกี่ยวกับเชื้อเอชไอวี และส่งเสริมการเข้าถึงนวัตกรรมทางการแพทย์ล่าสุดสำหรับการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ยาต้านไวรัสเพื่อการป้องกันโรคก่อนการสัมผัสเชื้อ เราเชื่อว่าผลจากการรณรงค์ในครั้งนี้ ผู้คนโดยเฉพาะคนหนุ่มสาวจะไม่เลือกปฏิบัติต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวีอีกต่อไป แคมเปญการสื่อสารที่สร้างสรรค์ซึ่งประสบความสำเร็จและได้ผลดีเช่นนี้ จะช่วยให้เราเข้าใกล้เป้าหมายในการยุติการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ในเวียดนามภายในปี 2573 ได้มากขึ้น"
เอเจนซี่หลักผู้อยู่เบื้องหลังกลยุทธ์และความคิดสร้างสรรค์ของแคมเปญนี้ คือ The Lab Saigon โดยวีโร่ได้เข้ามาต่อยอดการสื่อสารแคมเปญนี้เพิ่มเติมผ่านการเล่าเรื่องเนื้อหาและกิจกรรมประชาสัมพันธ์อื่นๆ นอกจากนี้ แคมเปญนี้ยังได้รับการตอบรับสนับสนุนจากแบรนด์ต่างๆ โซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มการสื่อสารอื่นๆ ไปจนถึงพันธมิตรด้านการผลิต ชุมชน อาสาสมัคร ผู้ให้บริการด้านสุขภาพ รวมทั้งแพทย์ และศิลปินอีกมากมายเป็นอย่างดี
นายเยน ทราน (Yen Tran) ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ของวีโร่ กล่าวว่า “หลายปีที่ผ่านมา การรณรงค์ป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีในเวียดนามใช้การโฆษณาชวนเชื่อเชิงรุกที่มีเนื้อหารุนแรงและสร้างความอับอายแก่ผู้ติดเชื้อเอชไอวี เกิดเป็นวัฒนธรรมแห่งความกลัว การปฏิเสธ และเบี่ยงเบนไปจากประเด็นสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อดังกล่าว แต่ที่วีโร่ เราได้ทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขของเวียดนามและหน่วยงานระหว่างประเทศของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด โดยเราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเปลี่ยนมุมมองของผู้คนในสังคมต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวีโดยใช้เรื่องราวในชีวิตจริงซึ่งครอบคลุมไปถึงกลุ่มผู้ติดเชื้อที่มักถูกตีตราจากสังคมอยู่เสมอ เรารู้สึกเป็นเกียรติที่แคมเปญนี้ได้รับการพิจารณาและได้รับการคัดเลือกให้ชนะรางวัลในครั้งนี้”
แคมเปญ “Love is Hard, HIV Prevention is Easy” เป็นแคมเปญรณรงค์ด้านสาธารณสุขที่มีความล้ำสมัยและโดดเด่นแตกต่างจากแคมเปญด้านสาธารณสุขที่ผ่านมา นำโดยสำนักงานควบคุมเอชไอวี/เอดส์แห่งเวียดนาม (VAAC) และพันธมิตร ซึ่งได้ดึงคนที่มีความสามารถจากทั้ง The Lab และ วีโร่ มาทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาการสื่อสารที่มีความสร้างสรรค์อย่างแท้จริง จนนำไปสู่การการเปลี่ยนแปลงมุมมองของผู้คนในเชิงบวก และสนับสนุนให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อเอชไอวีไม่หวาดกลัวที่จะขอความช่วยเหลืออีกต่อไป
อ่านกรณีศึกษาเรื่อง “Love is Hard, HIV Prevention is Easy” ได้ที่นี่
TikTok’s Save Small Businesses
แคมเปญ “TikTok's Save Small Businesses” เกิดขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือร้านอาหารและธุรกิจขนาดเล็กกว่า 50,000 แห่งในประเทศไทยที่ประสบปัญหาเนื่องจากข้อจำกัดของวิกฤตโควิด-19
การจับมือทำงานร่วมกันระหว่าง TikTok และ วีโร่ ครั้งนี้ได้เล็งเห็นถึงคุณค่าความรักของผู้ชมที่มีต่อแผงขายอาหารข้างทางหรือร้านอาหารเล็กๆ ในท้องถิ่น โดยวีโร่ได้ขอให้ผู้ชมมีส่วนร่วมในการเคลื่อนไหวสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือร้านค้าหรือแผงลอยต่างๆ ผ่านแพลตฟอร์มของ TikTok โดยใช้การระบุพิกัดและการแปลงพิกัดต่างๆ เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างเนื้อหาคอนเทนต์ ทำให้ผู้ใช้งาน TikTok แต่ละคนสามารถสร้างผลกระทบและการรับรู้ในบริเวณชุมชนที่พวกเขาอาศัยอยู่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น วีโร่ยังได้ต่อยอดการสื่อสารแคมเปญนี้ผ่านอินฟลูเอนเซอร์หรือบุคคลที่มีอิทธิพลต่อความคิดของผู้บริโภค (KOL) จำนวนเพียงไม่กี่คน ซึ่งสามารถช่วยกระตุ้นให้คนอื่นๆ ที่ยังไม่รู้จักร้านค้านั้นๆ รวมถึงลูกค้าเก่าของร้านที่ไม่เคยกลับมาซื้อซ้ำให้สามารถมาร่วมแคมเปญช่วยเหลือได้ พร้อมทั้งตอกย้ำภาพลักษณ์ของ TikTok ในฐานะผู้สนับสนุนทางสังคมอีกด้วย วีโร่ได้เลือกนำเสียงของผู้บริโภคและบุคคลที่มีอิทธิพลต่อความคิดของผู้บริโภคมาใช้ปกป้องธุรกิจขนาดเล็ก เนื่องจากทั้งสองกลุ่มนี้มีเหตุผลและเหมาะสมมากที่สุดในการมีส่วนร่วมช่วยเหลือครั้งนี้ โดยแคมเปญนี้ได้ขยายวงกว้างจากระดับท้องถิ่นไปสู่ระดับประเทศเพื่อช่วยรักษาธุรกิจขนาดเล็กและร้านอาหารของไทยได้อย่างครอบคลุม
นางสาวสุวัลย์ญา ถุงปัญญา รองประธานฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของวีโร่ กล่าวว่า “แคมเปญนี้พูดกับผู้ชมโดยตรงเพื่อช่วยสนันสนุนผู้ประกอบการที่ต้องการการสนับสนุนช่วยเหลืออย่างมากในการเผชิญสถานการณ์โควิด-19 แคมเปญของเราแสดงให้เห็นว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง TikTok สามารถทำหน้าที่เป็นเครื่องมือพื้นฐานสำคัญในการรักษาและผสานความสัมพันธ์ทางสังคมและเศรษฐกิจให้ทุกคนผ่านพ้นช่วงวิกฤตได้อย่างไรบ้าง”
นายยุคลธร ไตรทิพพิสมัย ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของ TikTok ประเทศไทย กล่าวว่า “เราสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างผู้คนและผู้ประกอบการในชุมชน ทั้งในระดับส่วนตัวและระดับท้องถิ่น ได้อีกครั้งผ่านแคมเปญนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่สามารถทำได้เนื่องจากข้อจำกัดของวิกฤตโควิด-19 และเรายังสามารถกระตุ้นให้ผู้ชมหันมาสนับสนุนธุรกิจร้านค้าต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งช่วยรักษาปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและเศรษฐกิจที่จำเป็นอย่างมากท่ามกลางช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้ด้วย”
อ่านกรณีศึกษาสำหรับ TikTok “Saves Small Businesses” ได้ที่นี่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น