กรุงเทพฯ – 7 พฤษภาคม 2565 – เมื่อคนทำงานยุคใหม่ต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและสภาพแวดล้อมในการทำงานเป็นแบบ Work from Home สลับกับการเข้าออฟฟิศเป็นเวลากว่า 2 ปี ทำให้มุมมองเกี่ยวกับพื้นที่ทำงานของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไป และด้วยเทคโนโลยีมากมายที่เข้ามาตอบโจทย์การทำงานแห่งอนาคต ทำให้การทำงานระหว่างบ้านกับที่ทำงานเป็นไปได้อย่างไร้รอยต่อ บริษัทต่างๆ เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการทำงานบนวัฒนธรรม Hybrid Working Model และมองหาพื้นที่ในการทำงานที่ตอบสนองต่อรูปแบบการทำงานดังกล่าว เพื่อให้สามารถใช้พื้นที่ในการทำงานได้อย่างคุ้มค่า สร้างสรรค์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้สูงสุด
“เอส โอเอซิส” อาคารสำนักงานแห่งใหม่ล่าสุดจาก สิงห์ เอสเตท จึงถูกออกแบบมาเพื่อเป็น Hybrid Workplace โดยเฉพาะ ตอบโจทย์วัฒนธรรมการทำงานยุคใหม่ได้อย่างลงตัว มีการทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อให้บริการในการวางแผนกลยุทธ์ในการจัดพื้นที่ใช้สอยภายในสำนักงาน (Workplace Strategy) เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถออกแบบออฟฟิศที่ตอบรับกับวิถีการทำงานแห่งอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
นางอรณีย์ พูลขวัญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายพัฒนาธุรกิจค้าปลีกและการพาณิชย์ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เผยว่า “กว่าสองปีที่ผ่านมา วิถีชีวิตของคนทำงานนั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง บทบาทของบ้านและที่ทำงานนั้นกลับมีความสัมพันธ์ที่ไม่อาจแยกออกจากกันได้ ทำให้การออกแบบพื้นที่การทำงานในปัจจุบันควรคำนึงถึงความยืดหยุ่นและความสะดวกสบายของพื้นที่ใช้สอย รองรับด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ส่งเสริมประสิทธิภาพของการทำงาน และความเป็นอยู่ที่ดี เราและพันธมิตรจึงได้สร้างสรรค์บริการ Workplace Strategy ขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อวิถีการทำงานแห่งอนาคตสู่รูปแบบ Hybrid Work Model แบบไร้รอยต่อ”
ความยืดหยุ่นและความสะดวกสบายของพื้นที่ใช้สอย โดยสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่การใช้งานได้ตามความต้องการที่หลากหลาย และเปลี่ยนแปลงได้ตลอด เช่น การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เคลื่อนย้ายได้ง่าย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ทุกตารางเมตรได้อย่างเหมาะสม คุ้มค่า และสะดวกสบาย เหมือนกับการทำงานในบ้านของตนเอง นอกจากนี้ พื้นที่ทำงานยุคใหม่แม้จะมีการแบ่งสัดส่วนชัดเจน แต่ก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้กลายเป็น Co-working Space ได้อย่างง่ายดาย เพื่อให้ผู้คนมีอิสระในการใช้พื้นที่ทำงาน ส่งเสริมให้เกิดไอเดียใหม่ๆ และยังส่งเสริมให้เกิดปฏิสัมพันธ์ร่วมกันระหว่างพนักงานอีกด้วย
มีความพร้อมด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การทำงานแบบไฮบริด โดยออกแบบมาเพื่อตอบรับกับอุปกรณ์ และเทคโนโลยีทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นการนำระบบ IoT (Internet of Things) มาใช้ เพื่อให้เจ้าของพื้นที่สามารถควบคุมระบบ Smart Devices ต่างๆ ได้ง่ายๆ ด้วยปลายนิ้วสัมผัส พร้อมระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เชื่อมโลกการทำงานเข้ากับชีวิตประจำวัน รองรับรูปแบบการทำงานแบบ Onsite และ Offsite ได้อย่างลงตัว
ยกระดับความใส่ใจด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ความใส่ใจด้านสุขอนามัย รวมถึงความเป็นอยู่ที่ดีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพนักงานในยุค Next Normal เอส โอเอซิส ให้ความสำคัญในรายละเอียดเหล่านี้ จึงได้ออกแบบระบบมาตรฐานความปลอดภัยในการคัดกรองโควิด และระบบ Touchless Environment เพื่อลดการสัมผัสอีกด้วย
นอกจากให้คำปรึกษาด้านการออกแบบ และบริหารจัดการพื้นที่สำนักงานที่เหมาะสมกับรูปแบบการทำงาน และจำนวนพนักงานแล้ว ทีมงานด้าน Workplace Strategy ยังสามารถช่วยให้คำปรึกษาด้านอุปกรณ์การทำงานที่สนับสนุนให้คนมีสุขภาพดี เช่น โต๊ะและเก้าอี้ปรับระดับได้ เก้าอี้นวด และการคำนึงถึงความเป็นส่วนตัว เช่น การติดตั้ง Phone Booth และ Private Zone เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้ เอส โอเอซิส ช่วยตอบโจทย์ความต้องการของผู้เช่าในทุกรูปแบบและตรงใจมากที่สุด
เอส โอเอซิส เป็นอาคารสำนักงานระดับพรีเมียมเพื่อคนยุคใหม่ ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต ใกล้กับสถานี BTS หมอชิต สถานี MRT จตุจักร และสถานีกลางบางซื่อ บนพื้นที่โครงการ 6 ไร่ 3 งาน 24 ตารางวา สูง 35 ชั้น พร้อมชั้นใต้ดิน 1 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 54,000 ตร.ม. พื้นที่ค้าปลีก 1,700 ตารางเมตร ที่จอดรถยนต์จำนวน 870 คัน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ EV Charger สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อร่วมสนับสนุนทุกการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังมีอาคารจอดรถโดยรอบที่สามารถรองรับได้กว่า 1,400 คัน เอส โอเอซิส เปิดให้เยี่ยมชมสำนักงานตัวอย่างแล้ว โดยโครงการจะเริ่มเปิดให้บริการในไตรมาส 2 ปี 2565 นี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น