จาก Drops of Youth™ สู่ Edelweiss ปรากฏการณ์ใหม่ที่ทรงพลังยิ่งขึ้นผลิตภัณฑ์สกินแคร์ยอดนิยมที่มอบประสิทธิภาพดีขึ้นกว่าเดิม EDELWEISSดอกไม้พันธุ์เล็กที่มาพร้อมพลังการฟื้นบำรุงที่ยิ่งใหญ่
The Body Shop (เดอะ บอดี้ ช็อป) ขอแนะนำ Edelweiss ผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับดูแลผิวหน้าที่ครบถ้วนทุกขั้นตอน
จากสารสกัดของ Edelweiss ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าเรตินอล[1] ถึง 46% Edelweiss เป็นดอกไม้อันทรงพลังด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
โดยหลายคนคงรู้จักอะเดลไวส์มาจากบทเพลงประกอบภาพยนตร์สุดคลาสสิคอย่าง The Sound of Music แต่ความทรงพลังของดอกไม้ชนิดนี้มีมากกว่านั้น
เป็นเวลานับศตวรรษที่ดอกอะเดลไวส์ถูกนำมาใช้เป็นตำรับยาพื้นบ้านของชาวโฟลค์และชาวพื้นเมืองแถบยอดเขาแอลป์
ดอกอะเดลไวส์ถูกพบบริเวณเทือกเขาแอลป์ซึ่งมีสภาพอากาศที่โหดร้ายตลอดปี ทั้งลมแรง
หิมะหนาทึบ และฝน แต่ดอก
อะเดลไวส์สามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างงดงาม
ทั้งยังสามารถปกป้องและซ่อมแซมตัวเองได้ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในตัว
รวมถึง Leontopodic Acid สารบำรุงหายากและทรงพลังที่ให้ประสิทธิภาพในการต่อต้านอนุมูลอิสระสูงกว่า Ferulic Acid[2] ถึง 60% ซึ่งมีพบได้เฉพาะในดอกไม้ที่อยู่ในภาวะตึงเครียดเท่านั้น
80% ของปัญหาผิวที่พบได้เป็นประจำมักเกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมที่รบกวนผิวอย่างมลภาวะ
และฝุ่นควัน[3] ทำให้ผิวแลดูหมองคล้ำ แห้งกร้าน และเหนื่อยล้า
กระบวนการปกป้องผิวโดยธรรมชาติจากดอกอะเดลไวส์ เหมาะอย่างยิ่งที่จะนำมาสกัดเป็นสกินแคร์
The Body Shop จึงได้เลือกสรรดอกอะเดลไวส์ให้เป็นส่วนผสมสำคัญในกลุ่มผลิตภัณฑ์
Edelweiss ใหม่ล่าสุดนี้
นอกจากนี้ดอกอะเดลไวส์ยังส่งเสริมการปกป้องผิว ช่วยให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใส
และแลดูสดชื่นในทุกช่วงวัย[4] นั่นคือเหตุผลที่อะเดลไวส์เป็นอีกหนึ่งความมหัศจรรย์อันแสนลี้ลับเพื่อความงามอันยั่งยืน
จากธรรมชาติสู่ตำรับความงาม
: การเก็บเกี่ยว Edelweiss (อะเดลไวส์)
ด้วยจิตสำนึกรับผิดชอบ
เพาะปลูกด้วยวิถีออร์แกนิค เพื่อสารสกัดที่หล่อเลี้ยงพลังจากธรรมชาติ
The
Body Shop มุ่งมั่นในการใช้สารสกัดจากธรรมชาติ
ผสานเข้ากับองค์ความรู้และประสบการณ์ของ
นักพฤกษศาสตร์ รังสรรค์ผลิตภัณฑ์โดยยึดมั่นในหลักของ ‘เคมีธรรมชาติ’ The
Body Shop จึงเลือกและไว้วางใจในผู้ที่เพาะปลูกและเก็บเกี่ยวดอกอะเดลไวส์ด้วยมือเท่านั้น
นับเป็นเกษตรกรรมในวิถีที่พิถีพิถันและเคารพในธรรมชาติโดยแท้ ทั้งพื้นที่บริเวณเทือกเขาแอลป์ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพและทั้งกับดอกอะเดลไวส์จึงเป็นการนำดอกไม้มาสกัดโดยปราศจากสารเคมีตกค้างโดยสิ้นเชิง
ตามกระบวนการตากแห้งแล้วนำมากลั่นอีกที
ฟรังซัวร์ พอล ผู้ผลิตและผู้เชี่ยวชาญด้านดอกไม้พันธุ์นี้โดยเฉพาะ กล่าวว่า “ผมมีความหลงใหลในกระบวนการนี้มาก
เพราะมันเป็นงานออร์แกนิค มีจิตสำนึกต่อสังคม
และยังเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสกัดคุณค่าบำรุงของดอกไม้ลงในสกินแคร์อีกด้วย
เราต้องเก็บเกี่ยวดอกอะเดลไวส์จากยอดดอกโดยตรงเพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพของสารต้านอนุมูลอิสระได้สูงสุด
รวมถึง Phenolic Acid และ Flavonoids”
กลุ่มผลิตภัณฑ์ EDELWEISS:
ส่วนผสมใหม่ที่ล้ำสมัยยิ่งกว่า
ได้รับการรับรองโดยองค์กรเพื่อผลิตภัณฑ์
Vegan พร้อมสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังยิ่งขึ้น
กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่อัพเกรดกว่าเดิม เพื่อเพิ่มเติมความเข้มข้นจากสารสกัดของดอกอะเดลไวส์ สเต็มเซลล์และสารสกัดจากดอกอะเดลไวส์อันอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ผสานเข้ากับเปปไทด์จากธรรมชาติ ช่วยบูสต์กระบวนการปกป้องผิวและปราการเก็บกักน้ำหล่อเลี้ยงผิว[1] ในขณะที่เปปไทด์ส่วนใหญ่ในท้องตลาดคือแบบสังเคราะห์ แต่ The Body Shop นั้นมาจากธรรมชาติ โดยสกัดจากเมล็ดข้าวนั่นเองกลุ่มผลิตภัณฑ์ Edelweiss ยังคงนำเสนอ Concentrate Serum ผลิตภัณฑ์ระดับตำนานซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ขาย
ดี
ที่ได้รับพัฒนามาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ Drops of Youth พร้อมได้ขยายผลิตภัณฑ์เพิ่ม 2 ชิ้น ได้แก่ Edelweiss
Cleansing Concentrate และ Edelweiss Intense Smoothing Cream เพื่อตอบทุกความต้องการผิวในทุกวัน
ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Edelweiss ที่วางจำหน่ายในเดือนเมษายนเป็นต้นไป
· ใหม่: Edelweiss Cleansing
Concentrate – ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเนื้อเจลสดชื่น ชะล้างสิ่งสกปรก มลภาวะตกค้างให้หมดจด
เหมาะกับทุกสภาพผิว
· Edelweiss
Daily Serum Concentrate 30ml/50ml – ปรับสูตรจากผลิตภัณฑ์ขายดีและยอดนิยม เปี่ยมด้วย Leontopodic
Acid สารต้านอนุมูลอิสระ
ผ่านการทดสอบแล้วว่าช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ[1] และทำให้ผิวแลดูเรียบเนียนยิ่งขึ้น8
· Edelweiss
Liquid Peel 100ml – ผลัดเซลล์ผิวและชะล้างสิ่งสกปรกตกค้างอย่างอ่อนโยน แนะนำให้ใช้ 2
ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อผิวสะอาดหมดจด
· Edelweiss
Eye Serum Concentrate 10ml – เนื้อสัมผัสแบบเจลแต่เข้มข้นด้วยสารบำรุง
ช่วยกระชับรอบดวงตาและปรับผิวให้เรียบเนียนสดชื่น
· Edelweiss
Serum Concentrate Sheet Mask 21ml – มาส์กบนผิวเพียง 15 นาที 2
ครั้งต่อสัปดาห์ช่วยส่งเสริมสุขภาพผิวให้เรียบเนียน ชุ่มชื้น สดใส
· Edelweiss
Bouncy Jelly Mist 57ml – ฟื้นฟูผิวจากมลภาวะระหว่างวันด้วยเจลมิสท์บางเบา
ผ่านการทดสอบแล้วว่าช่วยปกป้องผิวจากแสงสีฟ้าได้[2]
*ผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายในเดือนมิถุนายน
· Edelweiss
Smoothing Day Cream 50ml – ผ่านการทดสอบแล้วว่าช่วยให้ผิวที่มีริ้วรอยจางๆ[3] กลับเรียบเนียนขึ้น
เนื้อมอยส์เจอไรเซอร์บางเบา ซึมซาบไว มอบผิวอิ่มฟู ดูสดชื่น เปล่งปลั่งขึ้น
· Edelweiss
Bouncy Eye Mask 20ml – สามารถใช้บำรุงในตอนเช้าและมาสก์ข้ามคืนได้ ผ่านการทดสอบแล้วว่าช่วยยกกระชับให้ผิวรอบดวงตาเรียบเนียน
ชุ่มชื้นขึ้น[4]
· ใหม่: Edelweiss
Intense Smoothing Cream 50ml – อุดมด้วยสารสกัดจากอะเดลไวส์
เหมาะกับผิวแห่งที่ต้องการการฟื้นบำรุงผิวให้กลับมีพลังและสดชื่น
ผ่านการทดสอบแล้วว่าช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ[5] สามารถใช้ได้ทั้งเช้าและก่อนนอน
· Edelweiss
Bouncy Sleeping Mask 75ml – มาส์กข้ามคืนที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นพร้อมเติมพลังให้ผิว
เพื่อผิวที่นุ่ม เรียบเนียนขึ้นในเช้าวันใหม่
ความยืดหยุ่นจากภายในสู่สุขภาพผิวที่ดีที่สุด
ทิปส์การใช้สกินแคร์จากนักจิตวิทยาผิวหนัง ดร.เอเลีย อาห์เมด
ข้อเท็จจริงที่ผิวและจิตใจนั้นเชื่อมโยงต่อกัน
การศึกษาทางจิตวิทยาผิวหนังพบการเชื่อมโยงกันระหว่างผิวและสุขภาพจิต
ซึ่งส่วนสำคัญนั้นก็คือ ความเครียดทางจิตใจส่งผลต่อสุขภาพผิว
(และในทางกลับกันผิวก็ส่งผลต่อสุขภาพจิตเช่นกัน) นี่คือเหตุผลที่ The Body Shop ได้ร่วมงานกับนักจิตวิทยาผิวหนัง
ดร.เอเลีย อาห์เมด เพื่อทำความเข้าใจถึงหลักการส่งเสริมสุขภาพผิวจากภายใน
เช่นเดียวกับดอกอะเดลไวส์นั่นเอง
ดร.เอเลีย เล่าว่า
“ฉันบอกไม่ถูกเลยว่าดีใจแค่ไหนที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับ The Body Shop หนึ่งใน
แบรนด์ความงามเพียงไม่กี่แบรนด์ที่เคารพในความเชื่อมโยงของผิวพรรณและจิตใจ โดยการเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงวัยนั้นสามารถถูกกระตุ้นได้ด้วยความกลัวและความกังวลใจซึ่งพบมากในผู้หญิง
เราจึงต้องเปลี่ยนวิธีการสื่อสารกับผู้คนต่างๆ เพราะสกินแคร์ไม่อาจลดทอนความกลัวของเราได้
แต่ควรจะช่วยส่งเสริมให้รู้สึกมั่นใจขึ้น”
ทิปส์เด็ดจาก ดร.เอเลีย อาห์เมด คือ การปกป้องผิวและส่งเสริมสุขภาพผิวจากภายในสู่ภายนอก :
1.
ส่งเสริมความแข็งแกร่งจากภายในในทุกๆ
วัน
เมื่อรู้สึกเครียด
ร่างกายจะหลั่งสารคอร์ติซอล
ซึ่งความเครียดคือตัวการสำคัญที่ทำให้กระบวนการผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินลดลงอันส่งผลต่อปราการปกป้องผิว
หากปราศจากปราการโดยธรรมชาตินี้ได้
ผิวจะสูญเสียอิลาสตินและความกระชับได้อย่างรวดเร็ว และยังทำให้แผลหายช้าลง
และใช้เวลาการซ่อมแซมผิวมากขึ้น แม้จะอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย
แต่ดอกอะเดลไวส์กลับยังคงเติบโตงอกงาม
การบริหารความเครียดอย่างสร้างสรรค์และพัฒนาความแข็งแกร่งจากภายในจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการปกป้องผิวในทุกๆ
วัน
2.
นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ
เมื่อพักผ่อนไม่พอ
ร่างกายของคุณจะตีความเดียวกันกับความเครียด ส่งผลให้เกิดการอักเสบระคายเคือง
และทำให้ผิวอ่อนแอ ช่วงเวลากลางคืนคือช่วงที่คอร์ติซอล
ฮอร์โมนความเครียดลดต่ำลงโดยธรรมชาติ
จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะต่อการฟื้นฟูซ่อมแซมร่างกายหลังจากที่ถูกทำร้ายมาตลอดทั้งวัน ให้ความสำคัญกับการนอนหลับและหลับอย่างมีคุณภาพเป็นประจำ
รวมถึงปิดอุปกรณ์ใดๆ ที่อาจรบกวนระหว่างการนอนหลับ
เพื่อปลอบโยนจิตใจให้สงบและฝึกเข้านอนเป็นเวลาจนติดเป็นนิสัย
เชื่อเถอะว่าผิวจะเปลี่ยนไปมากจริงๆ
3.
รักตัวเองหรือไม่ ดูได้จากผิว
ผู้คนมักจะชอบใจร้ายกับตัวเองเสมอเวลาพูดถึงภาพลักษณ์
รวมถึงการไม่พูดกับตัวเองด้วยคำพูดในแง่ลบซึ่งเป็นตัวการสำคัญของความเครียด
ส่งผลให้การผลิตคอลลาเจนลดลง การดึงโปรตีนมาใช้ที่ข้อต่อ
และปริมาณอิลาสตินก็ลดลงด้วยเช่นกัน ทำให้ผิวอ่อนแอได้ง่าย
ดังนั้น The Body Shop จึงอยากเชิญชวนทุกคนหันมาใช้เวลาในการบำรุงผิวนี้ให้เป็นพลังรัก ทั้งรักตัวเองและรักผิว ด้วยการนวดผิวอย่างเพลิดเพลิน
เอนจอยกับเนื้อสัมผัสและกลิ่นหอมของผลิตภัณฑ์
ไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตเท่านั้น
แต่ยังช่วยให้คุณกลับมาอยู่กับตัวเองมากขึ้น การรักตัวเอง คือ สิ่งที่ช่วยเพิ่มเติมความแข็งแกร่งจากภายใน
ซึ่งจะแสดงออกให้เห็นบนผิวคุณ
โดยในปี 2021
The Body Shop ได้เปิดตัวแคมเปญใหญ่ที่ชื่อว่า
Self-Love เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนทั่วโลกต่างรู้สึกมั่นใจและมุ่งมั่นในการรู้จักรักตนอย่างแท้จริง
จากการสำรวจพบว่าผู้คนทั่วโลกส่วนใหญ่มองว่าอุตสาหกรรมความงามมีส่วนอย่างมากในการสร้างทัศนคติเชิงลบที่ผู้คนมีต่อร่างกายและความมั่นใจในตัวเอง[1] ดังจะเห็นได้จากภาพแคมเปญต่างๆ
ที่นางแบบผ่านการใช้แอร์บรัชเพื่อสร้างงานผิวไร้ที่ติ
หรือการรีทัชรูปจนสวยเกินมนุษย์
หากเราได้ย้อนกลับไปยังหลักความเชื่อของแบรนด์ตั้งแรกเริ่ม
อนิตา รอดดิค คือ ผู้ที่นำการเปลี่ยนแปลงมาสู่อุตสาหกรรมและแวดวงความงามด้วยการฉีกฎคร่ำครึเดิมๆ
แล้วรณรงค์เรื่องสิทธิมนุษยชนอย่างจริงจังพร้อมสร้างความตระหนักรู้เรื่องของปัญหาสิ่งแวดล้อม
เช่นเดียวกับกระตุ้นให้เกิดความเคารพรักในตัวตนอย่างถ่องแท้
เธอจึงยืนหยัดในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ด้วยการสร้างพลังให้เรารู้จักการรักตัวเอง
มั่นใจในความสวยในแบบฉบับของตัวเองรวมไปถึงมีความสุขและเอนจอยในทุกๆ การเติบโต
ไลโอเนล เธอโร รองประธานระดับโลกของThe Body Shop และสมาชิกของแนทูร่าแอนด์โคกรุ๊ปกล่าวว่า “ถือเป็นความเสี่ยงมหาศาลในการเปลี่ยนชื่อกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมอยู่แล้วจาก
Drop of Youth มาเป็น Edelweiss
แต่ก็เป็นอะไรที่คุ้มค่าต่อการเสี่ยงเพื่อแสดงถึงจุดยืนและตัวตนแบรนด์ The
Body Shop
The
Body Shop คือ ผู้ปฏิวัตินำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง เป็นแบรนด์ที่เคลื่อนไหวสังคมได้มาตรฐานการรับรองจาก
B Corp ดังนั้นจึงถือเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องเป็นกระบอกเสียงบอกเล่าในสิ่งที่ถูกต้อง
ทุกคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของเรามีสิทธิ์ที่จะรักและรู้สึกถึงพลังในตัวเอง The Body Shop เชื่อว่าการได้
การเติบโตทั้งทางร่างกายและจิตใจ คือความสุขและนับเป็นสิทธิพิเศษของการมีชีวิต
หน้าที่ของเราคือการยกชูผู้คนขึ้น ช่วยให้พวกเขาได้เติบโตขึ้นอย่างงดงามและมีพลัง
ดีกว่าการวาดฝันในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อย่างเช่นย้อนเวลาได้ เป็นต้น”
ได้เวลาปรนนิบัติผิวของคุณให้มีสุขภาพดี แข็งแรง และเรียบเนียน ด้วย “Edelweiss” ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าทุกขั้นตอนใหม่
ที่ให้คุณรู้สึกถึงการฟื้นบำรุงผิวหน้าอย่างล้ำลึก ด้วยสารสกัดธรรมชาติของดอก “Edelweiss” ดอกไม้พันธุ์เล็กที่มาพร้อมพลังการฟื้นบำรุงที่ยิ่งใหญ่
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.thebodyshop.co.th/ และ Line https://lin.ee/yAqIYwi
#Allagesconfident #TheBodyShopEdelweiss #TheBodyShopTH
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น