กรุงเทพฯ, 27 เมษายน 2565 – เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย บริษัทชั้นนำระดับโลก ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องอัลเทอร่า และเวชภัณฑ์สำหรับใช้ในคลินิกเสริมความงาม เพื่อทุกความมั่นใจของคนไทย เฉลิมฉลองการก้าวสู่ปีที่ 7 ในประเทศไทย หลังผลักดันนวัตกรรมความงามระดับโลกในกลุ่มตลาดพรีเมียมผ่านกลุ่มลุกค้าธุรกิจคลินิกความงาม และกระตุ้นการรับรู้ผู้บริโภคในเรื่องการเสริมสร้างความมั่นใจในการใช้ชีวิต โดยแม้เผชิญวิกฤตการณ์โลกมาตลอด 2 ปี แต่เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย ยังคงรักษาการเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง พิสูจน์ด้วยยอดการเติบโตแบบ double digit ที่ 20 % การเพิ่มจำนวนคู่ค้ามากกว่า 750 คลินิกทั่วประเทศ พร้อมตั้งเป้าการเติบโตปลายปี 2565 ที่พันล้านบาท
หลังเมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย รุกแผนการตลาดอย่างต่อเนื่องในกลุ่มสินค้านวัตกรรมความงามอย่างครบวงจร ผ่านผลิตภัณฑ์ประเภทโบทูลินั่ม ท็อกซินจากเยอรมัน, ฟิลเลอร์จากสวิส และเครื่องอัลเทอร่า เทคโนโลยียกกระชับผิวหน้าและลำคอจากสหรัฐอเมริกา สู่การตอบรับอย่างยอดเยี่ยมจากพันธมิตรคลินิกความงามที่มีมากกว่า 750 แห่งทั่วประเทศ ส่งผลต่อการก้าวสู่ความสำเร็จแห่งปีที่ 7 อย่างน่าภาคภูมิ สอดคล้องภาพรวมตลาดหัตถการความงามไทยที่โตอยู่ที่ 3.6 หมื่นล้านบาท* เช่นเดียวกับอัตราการเติบโตของตลาดระดับโลกเฉลี่ย 13.6%** ต่อปี ที่ทำให้ผลิตภัณฑ์กลุ่มโบ ฟิลเลอร์ และการยกกระชับหน้าเติบโตรุดหน้าอย่างต่อเนื่อง
เภสัชกรหญิง กิตติวรรณ รัตนจันทร์ ผู้บริหารสูงสุดบริษัท เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย กล่าวถึงวาระการก้าวสู่ปีที่ 7 ในครั้งนี้ว่า “ในปี 2564 ที่ผ่านมา แม้ธุรกิจต่างๆ ยังต้องเผชิญกับวิกฤต แต่ เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย ยังคงเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง นั่นเพราะเราชัดเจนทางกลยุทธ์ที่เน้นการเติบโต (Growth Strategy) ผ่าน 3 แนวทางสำคัญ ได้แก่ การเติบโตด้วยนวัตกรรม (Innovation), การเติบโตด้วยการผนึกกำลังกับพันธมิตร (Collaboration) และการเติบโตด้วยการเสริมสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน (Confidence) ซึ่งเป็นการทำความเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ให้ข้อมูลอย่างถูกต้อง และผลักดันความมั่นใจและการเคารพตัวเอง อันสอดคล้องกับพันธกิจหลักขององค์กร ได้แก่ ‘Confidence to Be…’ เมิร์ซ เอสเธติกส์ เป็นแบรนด์ที่อยู่คู่ทุกความมั่นใจของคนไทยและคนทั้งโลก”
โดยในแต่ละกลยุทธ์ เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย ได้ออกแบบแนวทางเชิงรุก เพื่อสร้างการตื่นตัวในตลาดนวัตกรรมความงามอย่างเป็นรูปธรรม และยกระดับความมั่นใจให้กับคู่ค้าและประชาชนแบบครบวงจร ในแง่ของดำเนินธุรกิจกับคู่ค้า มีการจัดตั้ง Merz Academy เว็บไซต์ e-learning ในรูปแบบ on-demand webinar เพื่อให้แพทย์ผู้ใช้สามารถเรียนออนไลน์ได้ทุกที่ ทุกเวลา แบบ 24/7 (Innovation & Collaboration) ต่อด้วยการพัฒนาศักยภาพของพนักงานขายในคลินิก กับโปรแกรม Merz Commercial Training (Collaboration) และ การจัดทำ Merz Cloud Library เว็บไซต์รวมสื่อการตลาดและประชาสัมพันธ์ เพื่อเป็นเครื่องมือในการทำการตลาดของคลินิกโดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยมียอดดาวน์โหลดกว่า 2,000 ครั้งในช่วง 3 สัปดาห์แรกของการเปิดตัว (Innovation)
สำหรับการยกระดับความมั่นใจให้กับผู้บริโภคนั้น ได้แก่ การนำเสนอเครื่องมือ ‘Merz Check’ ตัวช่วยสำหรับผู้บริโภคประชาชนทั่วไป ในการเช็คผลิตภัณฑ์จากเมิร์ซว่าแท้หรือไม่ เพียงแค่สแกน QR Code ที่กล่องผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์สวิส หรือที่เครื่องอัลเทอร่า (Innovation & Confidence) และการเตรียมจัดตั้ง ศูนย์ดื้อโบ ร่วมกับ ภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เพื่อสร้างความรู้เท่าทัน ภาวะดื้อโบ ซึ่งนับเป็นการให้ความรู้กับประชาชนในวงกว้าง (Confidence) เร็วๆ นี้
ด้านแพทย์หญิง พิมพิดา วรัญญูรัตนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สยามเลเซอร์ คลินิก (SLC Siam Laser Clinic) คู่ค้าคนสำคัญของเมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย กล่าวเสริมถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมความงามว่า “ในฐานะผู้ทำธุรกิจที่มีประสบการณ์ในวงการเสริมความงามมายาวนาน เรามีความเชื่อมั่นว่าธุรกิจการแพทย์และความงามยังคงเติบโตต่ออย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการตอบรับที่ดีจากลูกค้าตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา รวมถึงปัจจัยจากความก้าวหน้าของนวัตกรรมความงามที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการอันหลากหลายของผู้บริโภคในทุกๆ กลุ่มมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีปัจจัยจากโควิด-19 ที่ส่งผลให้ผู้คนให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ และหันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้น โดยเฉพาะด้านความงาม เพื่อเรียกคืนความสุขและความมั่นใจในการใช้ชีวิตอีกครั้ง”
หมายเหตุ:
* อ้างอิง marketresearch.com และ **ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น