วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2565

“โคโคเทล” ปั้นโมเดล “Centralized Operation” ตอบโจทย์บริหารโรงแรมไซส์กลาง โชว์ความว้าว !! ปิดดีลใหญ่ 6 สัญญากลางเมืองท่องเที่ยว สวนกระแสโควิด

 



โคโคเทล (Kokotel) บริษัทสตาร์ทอัพ Hotel Operator สัญชาติญี่ปุ่น ปักหมุดสร้างประสบการณ์ ว้าว” ชวนผู้ประกอบการโรงแรมขนาดกลาง สร้างผลประกอบการสูงสวนกระแสโควิด ภายใต้โมเดล “Centralized Operation” บริหารธุรกิจโรงแรมจากศูนย์กลาง ดูแลจัดการโรงแรมครบวงจร ด้วยทีมหลังบ้านมืออาชีพทุกขั้นตอน ลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรโรงแรม และเพิ่มประสิทธิภาพการขาย เพื่อผลประกอบการที่ดีกว่าเดิม พร้อมโชว์ศักยภาพปิดดีล สัญญาใหม่ใจกลางเมืองท่องเที่ยวรวมกว่า 464 ห้อง สวนทางสถานการณ์การท่องเที่ยวที่กำลังซบเซา วางเป้าต่อยอดความสำเร็จขยายบริการครอบคลุมทั่วประเทศไทยและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

 

นายเรย์ มัทสึดะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โคโคเทล (ประเทศไทยจำกัด เผยว่า โคโคเทล คือบริษัท Hotel Operator สัญชาติญี่ปุ่นที่เชี่ยวชาญด้านการบริหารงานโรงแรม เน้นบริหารธุรกิจโรงแรมขนาดกลาง ที่มีจำนวนห้องพักอยู่ระหว่าง 50-200 ห้อง ในเมืองท่องเที่ยวหลักในประเทศไทยมานานกว่า ปี โดยให้บริการและแก้ไขปัญหาโรงแรมอย่างครอบคลุมด้วยระบบการจัดการจากศูนย์กลางรูปแบบใหม่ ที่เรียกว่า “Centralized Operation” ซึ่งเป็นวิธีการบริหารที่ช่วยให้เจ้าของโรงแรมสามารถสร้างผลตอบแทน ได้ด้วยต้นทุนการบริหารงานที่น้อยลง

 

            “นอกจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แล้ว อีกผลกระทบที่ธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กถึงขนาดกลางต้องเผชิญ คือปัญหาการขาดประสบการณ์บริหารงานท่ามกลางวิกฤต เช่น การรักษามาตรฐานการบริการ การจัดการด้านทรัพยากรมนุษย์ การจัดซื้อ หรือแม้แต่ปัญหาในเชิงธุรกิจอย่างผลกำไร ผู้ประกอบการหลายเจ้าพยายามแก้ปัญหาโดยการจ้างแบรนด์โรงแรมขนาดใหญ่เข้ามาบริหาร ทว่าสิ่งที่ตามมาคือค่าบริการในอัตราที่สูง ซึ่งท้ายที่สุดแล้วกลายเป็นต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) ที่สูงจนเกินไป ทำให้เจ้าของโรงแรมได้รับผลตอบแทนที่ไม่ดีนัก และต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้น

 

            สถานการณ์ของโควิด-19 จึงทำให้ระบบการจัดการโรงแรมจากศูนย์กลาง “Centralized Operation” เกิดประสิทธิภาพที่เด่นชัดขึ้นมากกว่าเดิม โดยโมเดลดังกล่าวจะเริ่มจากการสร้างทีมหลังบ้าน (Back Office) ที่ทำงานโดยทีมบริหารโรงแรมมืออาชีพจากสำนักงานใหญ่โคโคเทล ที่จะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาและสนับสนุนการดำเนินงานด้านต่าง ๆ อย่างสอดคล้องกัน ได้แก่ ทีมขายและทีมตลาด กับการวางแผนขายห้องพักอย่างมีประสิทธิภาพ เน้นทั้งการขายแบบออนไลน์และผ่านตัวแทนต่าง ๆ พร้อมประเมินสภาพทางการตลาดและปรับโครงสร้างราคาของโรงแรมอย่างเหมาะสมทีมบัญชี ทำงานบันทึกและสรุปงบกำไรขาดทุนอย่างมืออาชีพทีมไอที ทำหน้าที่คัดเลือกและควบคุมระบบไอที รวมถึงจัดการซอฟต์แวร์ที่จำเป็นต่อการบริหารโรงแรมอย่างเหมาะสม โดยทีมหลังบ้านโคโคเทลจะรับหน้าที่บริหารงานแทนเจ้าของโรงแรม พร้อมส่งมอบรายงานและจัดประชุมแจ้งผลการดำเนินงานเป็นประจำทุกเดือน

 

            ทั้งนี้ ด้วยระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ ยังสามารถช่วยสนับสนุนการบริหารโรงแรมได้ทุกรูปแบบ แม้เริ่มต้นจากที่ดินเปล่าหรือไม่มีประสบการณ์บริหารมาก่อน ด้วยทีมออกแบบและบริหารงานก่อสร้าง ให้คำแนะนำการออกแบบอาคาร พร้อมควบคุมการดำเนินงานและทำงานร่วมกับผู้รับเหมา เพื่อให้โรงแรมก่อสร้างได้ตามมาตรฐานของแบรนด์และเป็นไปตามกำหนดเวลาทีมจัดหาและอบรมพนักงาน ทำหน้าที่ประเมินจำนวนพนักงานที่จำเป็นก่อนจัดหา คัดเลือก และอบรมพนักงาน เพื่อสร้างคุณภาพของการบริการให้เป็นไปตามมาตรฐานทีมอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารที่ช่วยจัดการวางคอนเซปต์อาหาร และคัดเลือกวัตถุดิบคุณภาพในต้นทุนที่เหมาะสมทีมจัดซื้อ ช่วยจัดการคัดสรรสินค้าที่ได้มาตรฐาน รวมถึงดูแลการติดต่อและต่อรองราคา โดยที่เจ้าของโรงแรมไม่จำเป็นต้องจ้างพนักงานประจำในส่วนงานดังกล่าว ทำให้ “Centralized Operation” เป็นโมเดลที่ช่วยลดต้นทุน และสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้นพร้อมกัน

 

            นายเรย์ ยังกล่าวต่ออีกว่า แม้ธุรกิจหลักในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างธุรกิจโรงแรมจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อยู่อย่างต่อเนื่อง แต่โคโคเทลกลับยังคงได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของโรงแรมหลายแห่งให้ช่วยบริหารโรงแรมต่อไป ซึ่งล่าสุดโคโคเทลยังสามารถเซ็นสัญญารับบริหารโรงแรมสวนกระแสความซบเซาของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้เพิ่มอีก สัญญาใหม่ รวม 464 ห้อง

 

โดยมีการบริหารภายใต้แบรนด์ “Kokotel” ได้แก่ที่

         Kokotel Bangkok Pratunam ประตูน้ำกรุงเทพฯ จำนวน 95 ห้อง

         Kokotel Pattaya South Beach ถนนพัทยาสาย 2, พัทยา จำนวน 101 ห้อง

         Kokotel Khao Lak Suwan Palm หาดนางทองเขาหลัก พังงา จำนวน 60 ห้อง

และการบริหารภายใต้แบรนด์ของเจ้าของโรงแรม ได้แก่ที่

         Spittze Hotel Pratunam ประตูน้ำกรุงเทพฯ จำนวน 85 ห้อง

         Hotel COCO Phuket Bangtao หาดบางเทาภูเก็ต จำนวน 77 ห้อง

         Khao Lak Mohin Tara Resort ตะกั่วป่าเขาหลัก พังงา จำนวน 46 ห้อง

 

            ด้าน ดร.สุพจน์ กุลาตี หนึ่งในเจ้าของโรงแรมภายใต้การบริหารของโคโคเทล กล่าวเสริมว่าการจับมือเป็นพันธมิตรกับโคโคเทลมามากกว่า ปี เป็นการตัดสินใจที่ช่วยให้เกิดโรงแรม Kokotel Phuket Patong และ Kokotel Krabi Ao Nang ขึ้น พร้อมสร้างการเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งความสำเร็จนี้จะถูกต่อยอดในปี 65 นี้ด้วย จากการเซ็นสัญญาร่วมงานกับโคโคเทลต่อเนื่องเป็นครั้งที่ และ สำหรับการบริหารโรงแรมในมืออย่าง Kokotel Khao Lak Suwan Palm และ Khao Lak Mohin Tara Resort ผมรู้สึกพอใจและตื่นเต้นอย่างมากที่ได้ร่วมงานกับโคโคเทลอีกครั้งสำหรับการจัดการโรงแรมทั้ง แห่งที่เขาหลัก และยังเชื่อมั่นด้วยว่าความเป็นมืออาชีพของทีมบริหาร Centralized Operation จะทำให้โรงแรมร่วม 106 ห้อง กลายเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จ ไม่ต่างจากการร่วมมือกันในครั้งก่อนๆ อย่างแน่นอน

 

ความสำเร็จที่เกิดจากดีลทั้ง สัญญาใหม่ ทำให้ปัจจุบัน โคโคเทลมีโรงแรมที่บริหารงานในเครือแล้วทั้งหมด 20 โรงแรมในเมืองท่องเที่ยวทั่วประเทศไทย ซึ่งผลงานนี้ทำให้เรามีความตั้งใจที่จะต่อยอดขยายโมเดลการบริหารโรงแรมด้วยระบบจัดการ Centralized Operation ออกไปอย่างต่อเนื่อง ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทยและในต่างประเทศอย่างแน่นอน โดยนำเสนอวิธีการแก้ไขปัญหาและคำปรึกษาที่หลากหลายจากทีมบริหารงานโรงแรมมืออาชีพอย่างครบวงจร พร้อมรักษาคุณภาพการบริหารงานตามชื่อ Kokotel ที่มาจาก โคโคโระ (หัวใจสัญลักษณ์ของการให้บริการที่อบอุ่นอย่างไทยและมีมาตรฐานแบบญี่ปุ่น” นายเรย์ กล่าวทิ้งท้าย

 

สำหรับเจ้าของโรงแรมที่สนใจให้โคโคเทลช่วยบริหารงาน สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เว็บไซต์ https://www.kokotel.com/hotel-management-service-th/ หรือโทร. 02-026-3218 หรือที่ LINE @kokotelmanagement (https://bit.ly/3uvzqox)

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ที ลีสซิ่ง จับมือ ศรีประจันต์วัฒนยนต์ จัดอบรม "ขับขี่ปลอดภัย ร่วมใจลดมลพิษ" โรงเรียนสงวนหญิง จ.สุพรรณบุรี

  บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด  ผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้ อรถจักรยานยนต์  ในเครือ เอ็ม บี เค  เล็งเห็นความสำคัญของการขับขี่ รถบนท้องถนนอย่างปลอ...