วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2565

คำกล่าว มร. อาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ใน “Meet the Press” และการเผยแพร่รายงานประจำปี พ.ศ. 2564

 


กล่าวต้อนรับและขอบคุณ

·        สวัสดีครับ สื่อมวลชนทุกท่าน ผม อาเบล เติ้ง ซีอีโอ หัวเว่ย ประเทศไทย ขอขอบคุณและยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าร่วมงาน “Huawei Meet the Press” ผ่านช่องทางออนไลน์ เมื่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ลดลง ผมจะรอต้อนรับสื่อมวลชนทุกท่านที่บริษัทของเราครับ

·     โควิด-19 มีการแพร่ระบาดหลายระลอก ส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจเต็มไปด้วยความผันผวน เราซาบซึ้งใจและได้รับแรงบันดาลใจอย่างยิ่งจากความไว้วางใจที่ทุกท่านมีให้กับหัวเว่ย ประเทศไทย ขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับการสนับสนุนในระดับมืออาชีพด้านสื่อ และเราจะพยายามอย่างเต็มที่ในการมอบสิ่งดี ๆ ให้กับลูกค้า คู่ค้า และสังคมไทยต่อไป

·        ภายใต้พันธกิจ "Grow in Thailand, Contribute to Thailand" ในปี พ.ศ. 2565 นี้จะครบรอบ 23 ปีของการก่อตั้งบริษัทในประเทศไทย ผมขอใช้โอกาสนี้แบ่งปันข้อมูลกลยุทธ์ทางธุรกิจของหัวเว่ยทั่วโลกและในประเทศไทยให้กับทุกท่าน

สาระสำคัญของรายงานประจำปีของหัวเว่ย ประจำปี พ.ศ. 2564

  • ผมขอขอบคุณทุกท่านที่เข้าร่วมรับชมการถ่ายทอดสดรายงานประจำปี พ.ศ. 2564 ผ่านไลฟ์ สตรีมมิ่ง ในครั้งนี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินและประธานกรรมการบริหารแบบหมุนเวียนตามวาระของหัวเว่ยได้เผยผลการดำเนินงานและกลยุทธ์ด้านธุรกิจในอนาคต และวันนี้ผมขอเน้นย้ำข้อมูลที่สำคัญอีกครั้ง
  • ประการแรก แม้ว่าจะมีความกดดันจากปัจจัยภายนอก แต่หัวเว่ยก็ทำกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สถานะทางการเงินของบริษัทมีเสถียรภาพ สามารถลงทุนเพื่ออนาคตและรับมือกับความผันผวนได้อย่างมั่นคง กระแสเงินสดของเราเพิ่มขึ้น 75.9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ผลกำไรจากธุรกิจหลักของเราเติบโตขึ้น ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นและรับความผันผวนทางธุรกิจได้
  • ประการที่สอง หัวเว่ยยังคงลงทุนในด้านนวัตกรรมและการวิจัยและพัฒนา และในปี พ.ศ 2564 การลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาคิดเป็น 22.4% ของรายได้ทั้งหมดของหัวเว่ย ซึ่งนับว่าสูงที่สุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมา ในปี พ.ศ 2564 หัวเว่ยได้อันดับที่สองของการจัดอันดับการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาด้านอุตสาหกรรมของสหภาพยุโรป และภายในสิ้นปี พ.ศ 2564 หัวเว่ยถือครองสิทธิบัตรอยู่มากกว่า 110,000 ฉบับ ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในผลงานที่มากที่สุดในระดับโลก
  • ในอนาคตข้างหน้านี้ หัวเว่ยได้มีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและสร้างสังคมความเป็นกลางทางคาร์บอนโดยการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจและลงทุนอย่างต่อเนื่องในด้านการวิจัยและพัฒนา สนับสนุนการแบ่งปันข้อมูลจากทั่วทุกมุมโลก เพิ่มความเปิดกว้างทางความคิด ต่อยอดนวัตกรรม และสร้างสรรค์ความคิดใหม่ ๆ จากทั่วโลก เรามุ่งปรับปรุงทฤษฎีพื้นฐาน สถาปัตยกรรม และซอฟต์แวร์เพื่อรองรับการแข่งขันในระยะกลางและสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนในระยะยาวพร้อมกัน
  • สื่อมวลชนทุกท่าน เมื่อเศรษฐกิจดิจิทัลเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลก เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างคาร์บอนต่ำจะเป็นก้าวใหม่สำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่ผ่านมานับว่าทรัพยากรบุคคล การเงิน และวิถีการดำเนินธุรกิจของหัวเว่ยมีเสถียรภาพและสามารถรองรับการพัฒนาในอนาคตได้ เราจะไม่ละความพยายามในการสำรวจพรมแดนอันไม่มีที่สิ้นสุดของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และทำให้ทุกคนเข้าถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและสร้างมูลค่าของสินค้าและบริการให้กับลูกค้าทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย
  • ต่อไป ผมจะเล่าสั้น ๆ เกี่ยวกับการพัฒนาธุรกิจของหัวเว่ย ประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมาและกลยุทธ์การลงทุนในอนาคต

 

สรุปความสำเร็จและผลงานของหัวเว่ยในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2564

  • ประเทศไทยถือเป็นตลาดสำคัญของหัวเว่ย และเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเติบโตเร็วที่สุด ตลอด 23 ปี นับตั้งแต่การก่อตั้งหัวเว่ย ประเทศไทยในปี พ.ศ. 2542 เราได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย ลูกค้าและพันธมิตร และมีโอกาสร่วมพัฒนา 2G, 3G, 4และ 5ในประเทศไทย และภายใต้พันธกิจ เติบโตไปพร้อมกับประเทศไทย และร่วมสนับสนุนประเทศไทย เรามุ่งมั่นเป็นพันธมิตรชั้นนำด้านไอซีทีที่ได้รับความไว้วางใจ เป็นผู้นำเชิงรุกด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล และตอบแทนสิ่งดี ๆ สู่สังคมอย่างต่อเนื่อง
  • ในปี พ.ศ. 2564 หัวเว่ยได้รับรางวัล “Digital International Corporation of the Year" จากนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นครั้งแรก และยังเป็นบริษัทข้ามชาติเพียงแห่งเดียวที่ได้รับรางวัลนี้ในช่วงที่ผ่านมา ในปีเดียวกันนี้ หัวเว่ยได้รับรางวัลแบรนด์ที่น่าเชื่อถือสูงสุด “Most Admirable Brand” จากผู้บริโภคและได้รับรางวัล “Thailand TOP Company Award” จากองคมนตรี ด้านโครงสร้างพื้นฐานยอดเยี่ยมเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล และจากการทำงานร่วมกับทีมงานที่ทุ่มเท และผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเลือกให้เป็นสุดยอด CEO ในด้าน ICT Solutions Excellence
  • ผมรู้สึกซาบซึ้งและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง เพราะรางวัลเหล่านี้แสดงถึงความสำเร็จทางธุรกิจของเรา ซึ่งแสดงถึงการได้รับการยอมรับจากลูกค้าในประเทศไทย รวมถึงด้านการตอบแทนสังคมและการสร้างคุณค่าในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยของเรา
  • เมื่อกล่าวถึงด้านธุรกิจผู้ให้บริการ (carrier business) เราได้รับการสนับสนุนและความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และภูมิใจอย่างยิ่งที่มีส่วนสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นผู้นำการใช้ 5ในภูมิภาคอาเซียน หัวเว่ยเป็นผู้จำหน่ายชิ้นส่วนอันดับ 1 ในตลาดผู้ให้บริการ 5ของประเทศไทย และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีการเปิดใช้สถานีฐาน 5มากกว่า 20,000 แห่ง จำนวนประชากรที่เข้าถึง 5ครอบคลุมสูงถึง 70% และมีผู้ใช้ 5ถึง 4.3 ล้านคน ซึ่งมากกว่าจำนวนผู้ใช้ในประเทศอาเซียนอื่น ๆ ถึง 2.5 เท่า อัตราการเข้าถึงเทอร์มินัล 5และการรับส่งข้อมูล 5เพิ่มเป็น 10% นอกเหนือจากงานโครงสร้างพื้นฐาน เราทำงานร่วมกับรัฐบาลและลูกค้าเพื่อขับเคลื่อนเทคโนโลยี 5G ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งด้านการแพทย์ 5G, ท่าเรือ 5G, และการเกษตร 5ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด นับเป็นการวางรากฐานสำหรับการขยายตัวในอนาคต และในพื้นที่ที่ไม่ใช่ 5G จำนวนผู้ใช้บรอดแบนด์ของประเทศไทยเพิ่มขึ้นเป็น 1.67 ล้านคนในปี พ.ศ. 2564 อัตราการเข้าถึงเพิ่มขึ้นจาก 8% เป็น 60.4% ถือว่าเป็นเครือข่ายที่มั่นคงสำหรับการทำงานและการใช้ชีวิตของผู้คนในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19
  • ในฐานะผู้นำเชิงรุกของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล ธุรกิจองค์กรของหัวเว่ยมีส่วนร่วมด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของภาคอุตสาหกรรม และในภาวะวิถีชีวิตใหม่หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 เราได้รวมเทคโนโลยีไอซีทีเข้ากับอุตสาหกรรมหลัก เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย ผลิตภัณฑ์และโซลูชันสำหรับองค์กรของหัวเว่ยในประเทศไทยได้เข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมมากกว่า 10 แห่งในปีที่ผ่านมา รวมถึงเมืองอัจฉริยะ, การเงิน, พลังงาน, การขนส่งการบริการอินเทอร์เน็ต (ISP), การศึกษา, การรักษาพยาบาล และอสังหาริมทรัพย์ ความไว้วางใจและการสนับสนุนจากพันธมิตรคือรากฐานสำคัญของธุรกิจองค์กรของหัวเว่ย ในปี พ.ศ. 2564 หัวเว่ยมีพันธมิตรด้านการขายกว่า 800 ราย ด้านโซลูชันกว่า 40 ราย และพันธมิตรด้านการดำเนินงานกว่า 40 ราย รวมถึงพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลมากกว่า 30 รายในประเทศไทย
  • เมื่อการประมวลผลบนคลาวด์กลายเป็นรากฐานที่สำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัล หัวเว่ย คลาวด์ ได้เพิ่มการลงทุนในประเทศไทยต่อเนื่องมานานกว่า 3 ปี และ ได้เสริมศักยภาพให้กับคู่ค้าในท้องถิ่นมากกว่า 300 ราย ในกว่า 15 อุตสาหกรรม รวมถึงภาครัฐ, การศึกษา, และการเงิน เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2565 เราได้เปิดตัวศูนย์ข้อมูล Availability Zone แห่งที่ 3 ในกรุงเทพมหานคร และผมภูมิใจอย่างยิ่งที่จะประกาศว่า หัวเว่ย คลาวด์ เป็นผู้ให้บริการระบบคลาวด์ระดับสากลรายแรกที่มีศูนย์ข้อมูลถึง 3 แห่งในไทย ด้วยการบริการที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ จากรายงานของการ์ทเนอร์ระบุว่า หัวเว่ย คลาวด์ มีส่วนแบ่งการตลาดใหญ่เป็นอันดับสามในไทย และยังคงเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดคลาวด์ รายงานการสำรวจจากตัวแทนอิสระในปี พ.ศ. 2564 เผยว่าการรับรู้ของสาธารณชนในประเทศไทยเกี่ยวกับ หัวเว่ย คลาวด์ เพิ่มขึ้นถึง 70% เราร่วมสนับสนุนประเทศไทยในการสร้างอีโคซิสเต็มสตาร์ทอัพที่กำลังเติบโตและพัฒนาธุรกิจยูนิคอร์น ด้วยการเปิดตัวการแข่งขัน “Spark-Ignite” เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเข้าถึงสตาร์ทอัพกว่า 1,700 รายและมีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมถึง 132 ราย
  • ท่านสื่อมวลชนคงทราบว่าการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นประเด็นที่ร้อนแรงที่สุดประเด็นหนึ่ง และเรายินดีอย่างยิ่งที่เห็นประเทศไทยก้าวสู่ความเป็นผู้นำในการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางของคาร์บอน เพื่อสนับสนุนวิสัยทัศน์นี้ เราได้จัดตั้งหน่วยธุรกิจดิจิทัล พาวเวอร์ ให้บริการในไทยเมื่อปีที่ผ่านมา ช่วยพัฒนาพลังงานสะอาดและสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของภาคพลังงานเพื่อสร้างสังคมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่ออนาคตที่ดีกว่า ข้อมูลจากรายงานของ IHS Markit และ Wood Mackenzie เปิดเผยว่าเซลล์แสงอาทิตย์อัจฉริยะของหัวเว่ยครองอันดับ 1 ในตลาดโลกต่อเนื่องกันเป็นเวลา 6 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 และโซลูชันนี้ยังครองส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย
  • นอกเหนือจากการสร้างความสำเร็จทางธุรกิจ เรายังมุ่งมั่นที่จะมอบสิ่งดี ๆ คืนสู่สังคมและมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนที่เราทำธุรกิจ ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เราส่งมอบเทคโนโลยี 5G สำหรับการแพทย์ระยะไกล (telemedicine), อุปกรณ์ของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน, และโซลูชันระบบคลาวด์ให้กับโรงพยาบาลและชุมชนต่าง ๆ ในประเทศไทย และลงนามบันทึกความเข้าใจกับกระทรวงแรงงานเพื่อส่งเสริมการจ้างงานกลุ่มผู้พิการ และเสริมศักยภาพของผู้เชี่ยวชาญด้านไอซีทีกว่า 41,000 คนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

 

กลยุทธ์ทางธุรกิจในปี พ.ศ. 2565 และมุมมองสู่อนาคตของหัวเว่ย

  • ในอนาคต เราวางแผนปรับใช้กลยุทธ์ทางธุรกิจที่ประธานกรรมการบริหารแบบหมุนเวียนตามวาระของเรากล่าวถึงไปแล้ว ด้วยการลงทุนในประเทศไทย 4 ด้านหลักด้วยกัน ประการที่ 1 เติมเต็มการใช้งาน 5G ด้วยการเชื่อมต่อที่แพร่หลาย ประการที่ 2 สร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลบนคลาวด์ ประการที่ 3 กระตุ้นการเปลี่ยนผ่านสู่วิถีชีวิตคาร์บอนต่ำด้วยดิจิทัล พาวเวอร์ และประการที่ 4 เสริมศักยภาพผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลและพัฒนาอีโคซิสเต็มด้านนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ผมขออธิบายกลยุทธ์แต่ละด้านอย่างละเอียดดังนี้
  • อย่างที่ทุกท่านทราบแล้วว่า 5กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีไอซีทีและการคาดการณ์ร่วมกันของสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ONDE), Time Consulting และหัวเว่ยว่า ภายในปี พ.ศ. 2578 มูลค่าเศรษฐกิจที่รองรับเทคโนโลยี 5จะสูงถึง 2.3 ล้านล้านบาท คาดการณ์โดยประมาณคิดเป็น 10% ของมูลค่าจีดีพีทั้งหมด เราจึงวางแผนขยายการใช้งาน 5ของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ และในปี พ.ศ. 2565 เราหวังว่า 5G จะครอบคลุม 70% ของจำนวนประชากร และอัตราการเข้าถึง 5จะเพิ่มเป็น 20% จาก 10% ในปัจจุบัน ตามอัตราความพร้อมที่สูงถึง 16% ของทฤษฎีการแพร่กระจายนวัตกรรม ในการร่วมมือกับลูกค้า เราจะสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวสู่ความผู้นำในภูมิภาคอาเซียนด้านการปรับใช้ 5ในอุตสาหกรรมแนวดิ่งอย่างต่อเนื่อง ในปี พ.ศ. 2565 เราจะเปิดตัวโรงพยาบาล 5G, รถพยาบาล 5G, และโซลูชัน AI ในโรงพยาบาล 20 แห่ง นอกจากนี้ เราจะสร้างมาตรฐานใหม่ 3 ด้านในเมือง 5(5G City) เพื่อรองรับการประชุมสุดยอดผู้นำ APEC ที่จะจัดขึ้นในประเทศไทย สอดรับกับนโยบายดิจิทัลของโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เราวางแผนติดตั้ง 5ในโรงงาน 100 แห่งใน EEC รวมถึงโรงงานประกอบรถยนต์ 5G
  • ประการที่สอง ตามรายงานของ Deloitte อัตราส่วนการใช้งานคลาวด์เป็นดัชนีชี้วัดสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล จากปี พ.ศ. 2564 ถึงปี พ.ศ. 2565 การเติบโตด้านการใช้เทคโนโลยีคลาวด์ของบริษัทในไทยเพิ่มจาก 59% เป็น 78% และเราภูมิใจที่ หัวเว่ย คลาวด์ เป็นผู้ให้บริการคลาวด์เพียงรายเดียวในประเทศไทยที่มีศูนย์เก็บข้อมูลในพื้นที่ถึง 3 แห่ง และการเปิดตัวศูนย์เก็บข้อมูลแห่งที่สาม Available Zone (AZ) ในเดือนนี้ ก็พร้อมพิสูจน์ความมุ่งมั่นของเราในการให้บริการที่น่าเชื่อถือแก่ลูกค้าต่อไป ในปี พ.ศ. 2565 หัวเว่ย คลาวด์ วางแผนเปิดตัวบริการด้านซอฟต์แวร์คลาวด์ (SaaS) ใหม่กว่า 80 รายการ เพื่อสนับสนุนธนาคาร, SMEs, และผู้ให้บริการเนื้อหา Over-the-top (OTT) ในการนำระบบคลาวด์มาใช้เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล เมื่อเร็ว ๆ นี้เราได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับกระทรวงดิจิทัล เพื่อต่อยอดความร่วมมือด้านคลาวด์และสนับสนุนความก้าวหน้าของเศรษฐกิจและสังคมไทย เรายังคงสนับสนุนบริการคลาวด์สำหรับภาครัฐ (Government Cloud Service) และยกระดับความปลอดภัยของข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ในปีพ.ศ. 2565 หัวเว่ยวางแผนจัดการประชุมสุดยอด “Huawei Cloud and Connect” และผมขอชวนสื่อมวลชนทุกท่านเข้าร่วมงานนี้ พร้อมกับผู้นำในอุตสาหกรรมกว่า 4,000 รายเพื่อรับฟังข้อมูลเชิงลึกที่จะช่วยสร้างสรรค์และจุดประกายทางความคิดร่วมกัน
  • ประการที่สาม เรามุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล พาวเวอร์ อย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลในด้านพลังงาน ในทศวรรษหน้า ความเปลี่ยนแปลงความต้องการด้านพลังงานของประเทศไทยจะทำให้จีดีพีเติบโตขึ้นประมาณ 1% และปี พ.ศ. 2565 ก็นับเป็นปีสำคัญ เพราะเป็นปีเริ่มต้นของการประกาศแผนงานความเป็นกลางทางคาร์บอน ปี พ.ศ. 2593 ของประเทศไทย หัวเว่ยให้คำมั่นที่จะสนับสนุนประเทศไทยให้เป็นผู้นำนโยบายคาร์บอนต่ำในภูมิภาคอาเซียน และเรามั่นใจว่าจะบรรลุเป้าหมายนี้ด้วยผลิตภัณฑ์และโซลูชันดิจิทัล พาวเวอร์ของเรา ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปีในอุตสาหกรรมพลังงาน พนักงานด้านวิจัยและพัฒนาเฉพาะด้านกว่า 6,000 คน รวมถึงการจัดสรรเงินทุน 20% จากรายได้ทั้งหมดในปีที่ผ่านมา สำหรับด้านการวิจัยและพัฒนา และในปี พ.ศ. 2564 เราได้จัดตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกสำหรับธุรกิจดิจิทัล พาวเวอร์ขึ้นที่กรุงเทพมหานคร ในปีพ.ศ. 2565 ธุรกิจ ดิจิทัล พาวเวอร์ ของหัวเว่ย จะเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ในประเทศไทย เช่น ผลิตภัณฑ์อินเวอร์เตอร์ไฟฟ้าพร้อมโซลาร์เซลล์อัจฉริยะรุ่นใหม่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น และในช่วงครึ่งปีหลัง เราวางแผนเปิดตัวแท่นชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับและแท่นชาร์จไฟฟ้ากระแสตรงประสิทธิภาพสูงสำหรับสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
  • ประการสุดท้าย สิ่งที่เป็นรากฐานของการสร้างสรรค์นวัตกรรมคือการพัฒนาอีโคซิสเต็มด้านนวัตกรรมและการพัฒนาศักยภาพผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลรุ่นใหม่ ซึ่งในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีธุรกิจยูนิคอร์นใหม่ 2 แห่ง ซึ่งต่างมีมูลค่าบริษัทรวม 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หัวเว่ยในฐานะผู้นำเชิงรุกในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลที่มุ่งตอบแทนสังคม เรามุ่งมั่นลงทุนอย่างต่อเนื่องในศูนย์เรียนรู้อีโคซิสเต็มเชิงนวัตกรรม 5G (5G Ecosystem Innovation Center) เพิ่มจำนวนพันธมิตรจาก 70 รายเป็น 120 รายในปีนี้ การพัฒนาเครือข่ายพันธมิตรของหัวเว่ย คลาวด์จะเติบโตอย่างรวดเร็วและคาดว่าจำนวนพันธมิตรจะเพิ่มขึ้นจาก 300 เป็น 500 ราย หัวเว่ยมุ่งสานต่อโครงการ Huawei Cloud Spark อย่างต่อเนื่องสำหรับนักพัฒนาโปรแกรมและสตาร์ทอัพในประเทศไทย ช่วยเสริมศักยภาพนักพัฒนาโปรแกรมมากกว่า 2,000 รายและสตาร์ทอัพจำนวน 300 รายต่อเนื่องทุกปี สำหรับการสร้างผู้เชี่ยวชาญทางดิจิทัลรุ่นใหม่ เรามุ่งขยาย Huawei ASEAN Academy, Seeds for the Future Program ซึ่งเป็นโครงการฝึกอบรมร่วมกับมหาวิทยาลัย 23 แห่ง เพื่อปลูกฝังการเรียนรู้ให้กับบุคลากรผู้มีความสามารถด้านดิจิทัลถึง 20,000 คนในปี พ.ศ. 2565

 

ปิดท้าย

  • ผมขอขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านอีกครั้งสำหรับการเข้าร่วมการเผยแพร่รายงานประจำปีของหัวเว่ย และขอบคุณที่ให้การสนับสนุนเราอย่างต่อเนื่องตลอดมา เมื่อเราต้องเผชิญกับความผันผวนและความท้าทาย ความไว้วางใจจากลูกค้าและสื่อมวลชนทุกท่านจะสร้างแรงบันดาลใจให้เราก้าวไปข้างหน้าและมุ่งมั่นลงทุนต่อเนื่องในอนาคต
  • เส้นทางข้างหน้ายังคงยาวไกลและเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ตราบใดที่เราก้าวไปข้างหน้า เราจะร่วมสร้างอนาคตที่สดใส ผมให้คำมั่นสัญญาว่าเราพร้อมให้บริการลูกค้าและสังคมไทยอย่างต่อเนื่องในการเดินทางสู่ยุคดิจิทัล
  • หัวเว่ยเชื่อมั่นในพลังของเทคโนโลยี พลังของความพากเพียร และพลังของการทำงานร่วมกัน ผมมั่นใจอย่างยิ่งว่าหากเราทำงานร่วมกับลูกค้าและพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เราจะบรรลุเป้าหมายการนำดิจิทัลมาสู่ทุกคน ทุกบ้าน และทุกองค์กรเพื่อประเทศไทยที่เชื่อมต่อกันอย่างอัจฉริยะและคาร์บอนต่ำเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

อลังการ! “ปุ๊กลุก-พิ้งกี้” นำทัพดารา โชว์แฟชั่นผม SHISEIDO PROFESSIONAL “BEAUTY INNOVATOR AWARD 2021” ประกวดออกแบบทรงผมแห่งปี!

 


   ชิเซโด้ โปรเฟสชั่นแนล (ไทยแลนด์) ผู้นำเข้าแบรนด์ SHISEIDO PROFESSIONAL ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม และเปลี่ยนสีผม ระดับพรีเมี่ยม ที่ได้รับความไว้วางใจอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น และทั่วทั้งทวีปเอเชีย ซึ่งเป็นประจำทุกปีอยู่แล้วที่ทางชิเซโด้ โปรเฟสชั่นแนล (ไทยแลนด์) ได้มีการจัดการประกวดแห่งปีอย่าง BEAUTY INNOVATOR AWARD 2021  เพื่อเฟ้นหาสุดยอดช่างผมรุ่นใหม่ที่มีไอเดียทรงผมสวยสะกดตา แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร อีกทั้งยังนำเทรนด์ และมีเทคนิคที่ยอดเยี่ยม โดยมีรางวัลมูลค่ารวมกว่า 300,000 บาท และผู้ชนะยังได้เป็นตัวแทนของนักออกแบบทรงผมไทย ไปร่วมงานกับช่างผมมากฝีมือที่ประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีโอกาสได้เข้าประกวดรอบสุดท้ายเพื่อชิงรางวัล Asia Champion ด้วยการโชว์ทำผมนางแบบจริง (Live Model) ในเดือนกันยายน 2022 แต่เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทางบริษัทอาจจะมีการประเมินเรื่องการจัดแข่งขันรอบสุดท้ายอีกครั้ง หากมีการเปลี่ยนแปลงจะมีการประกาศก่อนล่วงหน้าให้ทราบ

โดยภายในงานจัดขึ้น  ณ โรงแรม พาร์คไฮแอท กรุงเทพฯ ตื่นตาตื่นใจกับโชว์แฟชั่นผมสุดอลังการจากเหล่าดาราชื่อดัง อาทิ ปุ๊กลุก-ฝนทิพย์ วัชรตระกูลพิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดชมะนาว-ศรศิลป์ มณีวรรณ์บูม-สุภาพร วงษ์ถ้วยทอง และ บิ๊นท์-สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์ 

นอกจากนี้ในการจัดงาน ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการผลักดันช่างผมไทย ให้ก้าวไกลสู่การประกวดช่างผมในเวทีระดับโลก ด้วยการแสดงออกถึงผลงานศิลปะบนเรือนผม และนำเสนอความคิดที่สร้างสรรค์ให้กับผลงานใหม่ๆ ด้วยศาสตร์ของศิลป์ที่ทันสมัย โดยการแบ่งออกเป็น การประกวด 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ REAL CREATION” ซึ่งเป็นการออกแบบทรงผมแบบซาลอนเวิร์ค เน้นการทำสีผม และการดัด และต้องมีความคิดสร้างสรรค์ให้กับเส้นผม ส่วนอีกหนึ่งประเภทก็คือ ART CREATION“ เป็นการออกแบบทรงผมเชิงศิลปะ เน้นความคิดที่สร้างสรรค์ และความแปลกใหม่ที่มีสไตล์ พร้อมเทคนิคสุดพิเศษ

              โดยธีมของการประกวดในปี 2021 นี้ มาในโจทย์ NATURAL BONDS” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากคำว่า “Bonds สายสัมพันธ์” และการเชื่อมโยงกับธรรมชาติบนโลกที่เราอาศัยอยู่ตอนนี้ ซึ่งต้องการการรักษาระยะห่างทางกายภาพด้วยสถานการณ์โรคระบาด และถึงแม้ว่าการสื่อสารแบบดิจิทัล คือรูปแบบใหม่ที่ช่วยเชื่อมโยงสายสัมพันธ์ในสังคมสมัยใหม่ อย่างไรก็ตาม ความต้องการที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์กับพลังของธรรมชาติก็ยังมีเพิ่มขึ้น ความงาม และพลังของธรรมชาติที่สามารถช่วยเติมเต็มชีวิตประจำวัน กลายเป็นสิ่งสำคัญที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้แก่เราในช่วงที่ยากลำบากนี้

การประกวด BEAUTY INNOVATOR AWARD 2021 จึงเป็นอีกหนึ่งสุดยอดกิจกรรมการประกวดการออกแบบทรงผมแห่งปีที่ให้อิสระ และเปิดกว้างทางความคิด ช่วยทำให้ช่างผมไทยได้แสดงออกถึงผลงานศิลปะบนเรือนผม และได้มีโอกาสนำเสนอความคิดที่สร้างสรรค์กับผลงานใหม่ๆ เพื่อเป็นแรงผลักดันให้ก้าวสู่ประกวดช่างผมในเวทีระดับโลกมากยิ่งขึ้น อีกทั้งรูปแบบของการประกวดก็ยังมีมาตรฐาน และแวดวงช่างผมระดับสากลต่างก็ให้การยอมรับอย่างกว้างขวาง

  ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ ยังมีอีกหนึ่งความพิเศษนั่นก็คือ ปีนี้เป็นปีที่ Shiseido Hair Beauty ได้เดินทางมาเป็นเวลาอันยาวนาน และครบรอบ 100 ปีเป็นที่เรียบร้อย โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากความงามของ Shiseido ที่เกิดขึ้นในปีค.ศ.1872 จากร้านขายยาสู่ผู้นําด้านความงาม และเครื่องสําอาง Arinobu Fukuhara ผู้ก่อตั้ง "ชิเซโด้ ในย่าน Ginza (กินซ่า) เป็นร้านขายยา สไตล์ตะวันตกแห่งแรกในญี่ปุ่น แล้วค่อยๆ ขยับขยายจนกลายมาเป็นจุดกําเนิดของธุรกิจซาลอนที่เริ่มต้นขึ้นในปี 1922 ซึ่ง Shiseido ได้ถือกำเนิดสไตลิสต์ และช่างผมระดับมืออาชีพมากมายด้วยร้านซาลอนแห่งแรกในย่านกินซ่า จนได้ก่อตั้ง The Shiseido Beauty Academy สถาบันที่สอนเรื่องความงามอย่างครบวงจร เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 1959 สถาบันที่ก่อตั้งมาเพื่อสร้างช่างผมรุ่นใหม่ให้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพ เพราะเราคือผู้นำด้านการให้ความรู้ที่ได้มาตราฐานด้านความงามอย่างแท้จริง จนกลายมาเป็น SABFA (Shiseido Academy of Beauty and Fashion) สถาบันแห่งความงาม และแฟชั่นสำหรับมืออาชีพได้กำเนิดขึ้นเพื่อให้โอกาสแก่ผู้เรียนให้ได้มีพื้นที่ในการแสดงความคิดสร้างสรรค์สู่สายตาชาวโลกในทุกวันนี้

ครั้งแรก! อินเทล เปิดตัวตระกูลกราฟิกแยกสำหรับคอมพิวเตอร์แบบพกพา




โดย นายโรเจอร์ แชนด์เลอร์ รองประธาน และผู้จัดการทั่วไปสำหรับฝ่ายกราฟิก และเกม

หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Intel Arc A-Series ตัวแรก จะถูกใช้ในคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป ส่วนผลิตภัณฑ์อื่นๆ สำหรับคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป และเวิร์คสเตชั่นกำลังจะตามมาในปีนี้

 

กรุงเทพฯ31 มีนาคม 2565 – เป็นเวลาหลายทศวรรษที่อินเทลเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมแพลตฟอร์มพีซี โดยเราได้ส่งมอบซีพียูรุ่นต่างๆ ที่อยู่เบื้องหลังพลังแห่งการประมวลผลของผู้ใช้หลายพันล้านคน เราได้พัฒนาเทคโนโลยีการเชื่อมต่อขั้นสูงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น USB, Thunderbolt™ หรือ Wi-Fi   และเพื่อเสริมความเข้ากันได้กับระบบนิเวศของพีซี เราได้พัฒนาสถาปัตยกรรม PCI อันเหนือชั้น และแพลตฟอร์ม Intel® Evo™ เพื่อผลักดันข้อจำกัดต่างๆ ที่คอมพิวเตอร์พกพาสามารถทำได้

 

อินเทลอยู่ในจุดที่พิเศษในการเสนอนวัตกรรมสำหรับแพลตฟอร์มพีซีต่างๆ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในการประมวลผลที่เพิ่มขึ้นของเหล่ามืออาชีพ ผู้บริโภค เกมเมอร์ และครีเอเตอร์ทั่วโลก  และในวันนี้ เราจะพานวัตกรรมของเราก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง

 

รายละเอียดเพิ่มเติม: Intel Arc Graphics (Press Kit) | อินเทลเปิดตัว Arc A-Series ตระกูล GPU แยกสำหรับคอมพิวเตอร์พกพา (Fact Sheet) | Tech Minute: ทำความเข้าใจ Arc Graphics จากอินเทลใน 60 วินาที (Video)

 

ล่าสุด อินเทลได้เปิดตัวกราฟิกตระกูล Intel® Arc™ อย่างเป็นทางการสำหรับแล็ปท็อป ซึ่งจะช่วยเสริมกำลังให้กับแพลตฟอร์มของอินเทล  ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นหน่วยประมวลผลกราฟฟิก (GPU) ในกลุ่ม Intel Arc A-Series สำหรับแล็ปท็อป ในขณะที่ผลิตภัณฑ์สำหรับเดสก์ท็อป และเวิร์กสเตชันของเราจะวางจำหน่ายในช่วงปลายปีนี้ คุณสามารถรับชมวิดีโอเปิดตัว รายละเอียดผลิตภัณฑ์ และการสาธิตการใช้งานเชิงลึกสำหรับผลิตภัณฑ์ของเราได้ที่ห้องข่าวของเรา  อย่างไรก็ตาม เราขอสรุปรายละเอียดที่น่าสนใจต่างๆ ว่าแพลตฟอร์ม Intel Arc และ GPU สำหรับคอมพิวเตอร์พกพาตระกูล A-Series จะสามารถส่งมอบประสบการณ์การใช้งานทั้งด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ บริการต่างๆ และกราฟิกประสิทธิภาพสูง ได้อย่างไรบ้าง

 

  • แล็ปท็อปรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับ Arc Graphics จากอินเทล: อินเทลได้ร่วมมือกับ OEMs ชั้นนำเพื่อร่วมกันสร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์แล็ปท็อปที่น่าทึ่ง ที่มาพร้อมกับความสามารถที่เพิ่มขึ้นในการเล่นเกมและการสร้างเนื้อหาใหม่ ร่วมด้วย Intel Arc graphics และ โปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel® Core™ เจนเนอเรชั่น 12 โดยระบบรูปแบบใหม่จำนวนมาก ร่วมด้วยกราฟิก Intel Arc 3 จะมาพร้อมกับเครื่องหมายการค้าของแพลตฟอร์ม Intel Evo พร้อมทั้งการรับรองอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ และเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 ด้วยฟอร์มแฟ็กเตอร์ที่เบาและบาง

 

แล็ปท็อปที่มาพร้อมกับกราฟิก Intel Arc 3 พร้อมมอบประสบการณ์การเล่นเกมด้วยจอมอนิเตอร์ความละเอียด 1080และการรังสรรค์คอนเทนต์เหนือระดับ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมกับกราฟิก Intel Arc 5 และ Intel Arc 7 จะนำเสนอศักยภาพการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ทันสมัย พร้อมทั้งประสิทธิภาพให้งานกราฟฟิกและการประมวลผลที่เพิ่มขึ้น

 

แล็ปท็อปที่มาพร้อมกับกราฟิก Intel Arc 3 รุ่นแรก สามารถพรีออเดอร์ได้แล้ววันนี้ ส่วนกราฟิก Intel Arc 5 และ Intel Arc 7 พร้อมดีไซน์อันทรงพลังจะตามมาในต้นฤดูร้อนนี้

 

  • ปลดล็อกแพลตฟอร์มแล็ปท็อป: พื้นฐานของผลิตภัณฑ์ที่มี Intel Arc A-Series GPUs และแนวทางระดับแพลตฟอร์มเพื่อนวัตกรรมด้านกราฟิกนั้น เริ่มต้นด้วยสถาปัตยกรรม Xe High Performance Graphics microarchitecture (Xe HPG) รูปแบบใหม่ ที่ถูกออกแบบมาสำหรับเกมเมอร์และครีเอเตอร์โดยเฉพาะ เราได้รวบรวมเทคโนโลยีมากมายมาไว้ใน Xe HPG รวมทั้ง Xe -cores อันทรงพลัง พร้อมเอนจิ้น Intel XMX AI, ไปป์ไลน์กราฟฟิกที่ถูกปรับให้เหมาะสมสำหรับ DirectX 12 Ultimate ที่มีตัวเร่งฮาร์ดแวร์สำหรับ ray tracing, เอนจิ้น Xe Media สำหรับการเร่งเวิร์กโหลดของครีเอเตอร์ และ Xe Display Engine ที่พร้อมสำหรับ DisplayPort 2.0 UHBR10

 

  • Intel Xe Matrix Extensions (XMX) AI engines มอบความสามารถในการประมวลผลที่มากขึ้นสำหรับการเร่งปริมาณเวิร์กโหลด AI โดยเอนจิ้น AI เหล่านี้สามารถประมวลผลได้มากกว่า 16 เท่า เพื่อให้กระบวนการอนุมาน AI เสร็จสมบูรณ์ เมื่อเทียบกับหน่วยเวกเตอร์ GPU แบบเดิม ซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การเล่นเกม และแอปพลิเคชันสำหรับผู้สร้างต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น
  • Xe Super Sampling (XeSS) คือโซลูชันที่ใช้ประโยชน์จากขุมพลัง XMX AI-engines ของ Intel Arc graphics เพื่อส่งมอบประสิทธิภาพการทำงาน และยกระดับการเร่ง AI ระดับสูง โดย XeSS เป็นเทคโนโลยีการอัปสเกลแบบใหม่ที่ใช้การเรียนรู้เชิงลึก (Deep learning) ช่วยในการสังเคราะห์ภาพให้มีความใกล้เคียงกับคุณภาพของการเรนเดอร์ความละเอียดสูง ทั้งนี้ XeSS จะมีการเปิดตัวในช่วงฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึงนี้ และจะได้รับการสนับสนุนในผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่มีกราฟิก Arc A-Series
  • Intel Arc A-Series GPU เป็นรายแรกในอุตสาหกรรมที่นำเสนอการเร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ AV1 เต็มรูปแบบ ซึ่งรวมการเข้ารหัสและถอดรหัสเข้าไว้ด้วยกัน โดยมอบการเข้ารหัสวิดีโอที่เร็วขึ้น และการสตรีมคุณภาพสูงขึ้นในขณะที่ใช้แบนด์วิดท์อินเทอร์เน็ตเท่าเดิม เราได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมเพื่อให้แน่ใจว่า AV1 สามารถใช้งานได้ในแอปพลิเคชันสื่อที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน โดยเราจะปรับการรองรับการใช้งานให้กว้างขึ้นในปีนี้ และคาดว่าตัวแปลงสัญญาณ (Codec) AV1 จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ สำหรับอนาคตของการเข้ารหัสและการสตรีมวิดีโอ
  • เราได้รวม Intel® Deep Link technologies เพื่อให้ Intel Arc GPUs สามารถทํางานร่วมกับซีพียูของอินเทล และกราฟิกในตัวได้อย่างราบรื่น เพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพในการเล่นเกม การสร้างเนื้อหา และการสตรีมงานขนาดใหญ่ โดย Intel Deep Link ช่วยให้เกิดการแบ่งปันพลังงานแบบไดนามิก ซึ่งสามารถกระจายพลังงานได้ทั่วทั้งแพลตฟอร์ม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแอปพลิเคชันได้ถึง 30% ในการสร้างและประมวลผลแอปพลิเคชันที่ใช้พลังงานสูง นอกจากนี้ ประสิทธิภาพของ Hyper Encode และ Hyper Compute Deep Link ยังช่วยให้สามารถเร่งความเร็วแบบหลายเอนจิ้นในการแปลงรหัสและงาน AI โดยสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในเอกสารแสดงข้อมูลผลิตภัณฑ์

 

  • ประสบการณ์ของชุมชน: Intel Arc graphics เป็นมากกว่าฮาร์ดแวร์อีกชิ้นหนึ่งในพีซี เพราะมันคือพอร์ทัลของคุณสำหรับการเล่นเกมและการสร้างสรรค์ผลงาน  

 

เรามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่มุ่งมั่นในการส่งมอบไดรเวอร์ที่พร้อมสำหรับการเล่นเกมตั้งแต่วันแรก โดยคุณสามารถติดตามผลได้ใน Intel® Arc Control อินเทอร์เฟซใหม่ของเรา ซึ่งเป็นฮับแบบครบวงจรที่ช่วยให้คุณสามารถควบคุมประสบการณ์การเล่นเกมได้อย่างเต็มที่ โดย Intel Arc Control มีโปรไฟล์ประสิทธิภาพที่สามารถกําหนดได้เอง รวมถึงการสตรีมที่ติดตั้งมาภายในตัว กล้องเสมือนจริง และการดาวน์โหลดไดรเวอร์ Game ON แบบบูรณาการ พร้อมการจับภาพเกมอัตโนมัติ ฯลฯ ซึ่งแอปพลิเคชันนี้รองรับกราฟิก Intel® Iris X และ GPU Intel Arc เพื่อให้ผู้ใช้งานสัมผัสประสบการณ์ซอฟต์แวร์ได้แบบครบวงจร 

 

ด้วยการทำงานร่วมกับพันธมิตรนักพัฒนาของเรา เรากำลังขยายพอร์ตโฟลิโอของเกมที่ถูกปรับแต่งให้เหมาะสมกับอินเทล และแอปพลิเคชันมัลติมีเดียสำหรับลูกค้ากราฟิกผ่านชุดเปิดตัวบันเดิลเกมพิเศษ  โดยชุดบันเดิลเกมพิเศษนี้จะแตกต่างกันไปตามระบบและภูมิภาค โดยบันเดิลสำหรับบรรดาเกมเมอร์และครีเอเตอร์รุ่นแรกจะเปิดตัวในเดือนเมษายนนี้ พร้อมกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ A-Series แบบพกพา

 

เป้าหมายของเราคือการมอบสิ่งใหม่ๆ ที่มีความสนุกสนานให้กับชุมชนของเราทุกวันตลอดทั้งปี โดยคุณสามารถเชื่อมต่อกับเราและเข้าร่วมการสนทนากันผ่านช่องทาง Intel Insiders discord ของเราได้แล้ววันนี้

 

 

แผนในอนาคต

 

วันนี้นับเป็นก้าวแรกในการเดินทางของเรา คุณจะเห็นได้ว่า Intel Arc graphics ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ และระบบนิเวศที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นตลอดทั้งปี นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเดสก์ท็อป การ์ดเสริม Intel Arc graphics ของเราก็จะเปิดตัวในฤดูร้อนนี้เช่นกัน2

 

เรารู้สึกตื่นเต้น และหวังว่าทุกๆ คนจะตื่นเต้นเช่นเดียวกัน เพราะปีนี้จะเป็นปีที่ยิ่งใหญ่สำหรับ Intel Arc graphics

 

นาย โรเจอร์ แชนด์เลอร์ เป็นรองประธานและผู้จัดการทั่วไปของทีมกราฟิกและเกมของบริษัท Intel Corporation

 

1 ประสิทธิภาพอาจแตกต่างกันไปตามการใช้งาน การกำหนดค่า และปัจจัยอื่นๆ เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ http://www.intel.com/PerformanceIndex (กราฟิกและตัวเร่งความเร็ว) ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไป

2แผนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และแผนงานทั้งหมดอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ

ผ้าเบรกเบ็นดิกซ์จัดทริปสุดหรู ฉลองยอดขายทะลุเป้า พาดีลเลอร์เที่ยวกระบี่ คาดปี 65 ตลาดผ้าเบรกเติบโตสดใส

 


บริษัท เอฟเอ็มพี ดิสทริบิวชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผ้าเบรกเบ็นดิกซ์ จัดทริปสุดพิเศษตอบแทนดีลเลอร์หรือตัวแทนจำหน่าย ฉลองยอดขายทะลุเป้าประจำปี 2564 โดยปี 2564 ถึงแม้ความต้องการผ้าเบรกจะลดลงเนื่องจากสถานการณ์โควิดที่ระบาดรุนแรง แต่ทางบริษัทฯสามารถทำยอดขายภายในประเทศเติบโตขึ้นได้เมื่อเทียบกับปี 2563

ทั้งนี้ บริษัท เอฟเอ็มพี ดิสทริบิวชั่น จำกัด มองตลาดผ้าเบรกปี 2565 ว่าจะเริ่มกลับมาฟื้นตัว โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายโตขึ้น 20เมื่อเทียบกับปี 2564

ในทริปสุดพิเศษนี้ ทางเอฟเอ็มพี ดิสทริบิวั่น ได้พาดีลเลอร์เที่ยวกระบี่แบบเอ็กซ์คลูซีฟ จำนวน 3 วัน 2 คืน ภายใต้มาตราการป้องกันโควิด โดยตัวแทนจำหน่ายได้เข้าพักที่โรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ บีช แอนด์ วิลล่า โรงแรมสุดหรู พร้อมหาดส่วนตัวระดับ 5 ดาว จังหวัดกระบี่


image.png

ล่องเรือชมความสวยงาม ดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นที่เกาะพีพี, อ่าวมาหยา และปิเละลากูน อิ่มอร่อยกับอาหารญี่ปุ่น เทปันยากิ กุ้งมังกรซาชิมิ บาร์บีคิว และอินเตอร์เนชั่นแนล บุฟเฟ่ สร้างบรรยากาศด้วยดนตรีสด ภายในโรงแรม สำหรับทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่จัดขึ้นในครั้งนี้ถือเป็นกิจกรรมที่ทางบริษัทจัดขึ้นทุกปี เพื่อเป็นการสานสัมพันธ์ และ ขอบคุณลูกค้าตัวแทนจำหน่าย ที่ไว้วางใจในผลิตภัณฑ์เบ็นดิกซ์ 


บริษัท อินโฟเควสท์ จำกัด 888/178 อาคารมหาทุนพลาซ่า ชั้น 17  ถ.เพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 โทร. 02-253-5000 อีเมล: mr@infoquest.co.th   

เกรท วอลล์ มอเตอร์ คว้า 3 รางวัล จากการจัดแสดงทัพรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และนวัตกรรมล้ำสมัยในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ตอกย้ำความพร้อมมุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย

 

กรุงเทพฯ - 31 มีนาคม 2565 - เกรท วอลล์ มอเตอร์ เดินหน้าสานต่อภารกิจของบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก (Global Intelligent Technology Company) ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า (xEV Leader) ของประเทศไทย คว้า รางวัลจากงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ประกาศความสำเร็จของการจัดแสดงยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะและเทคโนโลยีล้ำสมัยภายใต้แนวคิด “Leading the Future” โดยได้นำเสนอผลิตภัณฑ์อันล้ำสมัยและบริการคุณภาพ ตลอดจนประสบการณ์อันยอดเยี่ยมให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด

 

หลังจากที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้นำ “TANK 300 HEV Concept Car” เอสยูวีออฟโรดสไตล์โมเดิร์นขวัญใจขาลุย และ ORA Good Cat GT เจ้าเหมียวไฟฟ้าแนวสปอร์ตขวัญใจมหาชน มาเผยโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย รวมด้วยรถยนต์เอสยูวีปลั๊กอิน-ฮบริด All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV ที่กลับมาปรากฏโฉมให้คนไทยหายคิดถึงกันอีกครั้ง พร้อมกับขบวนทัพรถยนต์ xEV ยอดนิยมที่มีจำหน่ายในประเทศไทยในปัจจุบัน ทั้ง All New HAVAL H6 Hybrid SUV, All New HAVAL JOLION Hybrid SUV และ ORA Good Cat ตลอดจนกิจกรรมที่น่าสนใจและข้อเสนอสุดพิเศษมากมายจนได้รับความสนใจและการตอบรับอย่างท่วมท้นตั้งแต่เริ่มต้นงาน ล่าสุด บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ได้มอบ รางวัลอันทรงเกียรติเป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จให้กับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ โดยมีนายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ มร. ไมเคิล ฉง ผู้จัดการทั่วไป และแพนดอร่า ยู ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทยเป็นผู้รับมอบ

 

ทั้งนี้ รางวัลที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้รับประกอบด้วย

 

  • Exhibit Design Award รางวัลการออกแบบการจัดแสดงยอดเยี่ยม
  • The Best Concept HEV Award รางวัลรถยนต์ไฮบริดต้นแบบยอดเยี่ยม (TANK 300 HEV Concept Car)
  • The Best Design EV Award รางวัลรถยนต์ไฟฟ้าดีไซน์ยอดเยี่ยม (ORA Good Cat GT)

 

นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติและยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสนำยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าซึ่งอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะมาจัดแสดงเพื่อมอบประสบการณ์สุดล้ำและสร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภคอีกครั้งภายในงานบางกอก อินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ความสำเร็จในครั้งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ความแข็งแกร่งของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในการก้าวเข้าสู่ปีที่ ของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งเราจะยังคงมุ่งมั่นสานต่อความสำเร็จในปีแรกและวิสัยทัศน์แห่งความเป็นผู้นำด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้าพร้อมกับเดินหน้าเติมเต็มระบบนิเวศด้านยานยนต์ไฟฟ้าให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เราขอขอบคุณบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) สำหรับทั้ง รางวัลอันทรงคุณค่า และขอบคุณผู้บริโภคชาวไทยที่ได้ให้การสนับสนุนและตอบรับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ด้วยดีเสมอมา ทั้งนี้ เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าและผู้บริโภคชาวไทยสำหรับความไว้วางใจที่มอบให้กับเรามาโดยตลอด เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะเดินหน้าส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพและบริการที่ยอดเยี่ยม พร้อมผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์พลังงานไฟฟ้าและศูนย์กลางการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของภูมิภาคอาเซียน พร้อมต่อยอดไปสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าสู่ตลาดโลก เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ยานยนต์ไทยให้สามารถยืนหยัดบนเวทีระดับนานาชาติได้อย่างเต็มภาคภูมิ”

 

บูธของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ถูกออกแบบให้มีความโดดเด่นและได้รับการจัดสรรพื้นที่อย่างพิถีพิถัน การันตีด้วยรางวัลการออกแบบการจัดแสดงยอดเยี่ยม โดยด้านหน้าเป็นพื้นที่สำหรับจัดแสดงทัพรถยนต์ xEV หลากหลายรุ่นยอดนิยมโดยมีไฮไลต์สำคัญบนเวทีคือ TANK 300 HEV Concept Car ORA Good Cat GT และ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV พร้อมจอ LED ขนาดใหญ่โอบรับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่กิจกรรมและจัดแสดงสุดยอดเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ อาทิ GWM LEMON Hybrid DHT Technology และ GWM LEMON E ส่วนพื้นที่ด้านหลังถูกเนรมิตให้เป็น Lifestyle Store GWM Bar และ Lifestyle Lounge ที่พร้อมต้อนรับผู้เข้าร่วมงานตลอดทั้งวัน พร้อมกิจกรรมสุดสนุกมากมายที่ผู้มาเยี่ยมชมจะเพลิดเพลินกับประสบการณ์รูปแบบใหม่จาก เกรท วอลล์ มอเตอร์

 

สำหรับ TANK 300 HEV Concept Car เอสยูวีออฟโรดพลังงานไฟฟ้าสำหรับนักขับขี่ขาลุย ได้มาปรากฏโฉมในตลาดต่างประเทศที่ไทยเป็นแห่งแรกอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการคว้ารางวัลรถยนต์ไฮบริดต้นแบบยอดเยี่ยม โดยมาพร้อมกับดีไซน์คลาสสิก บึกบึน แต่แฝงความสง่างามและทันสมัยอยู่ในตัว พร้อมด้วยเครื่องยนต์ทรงพลังและเทคโนโลยีอัจฉริยะมากมายที่พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การขับขี่ในเมืองได้อย่างครบครัน และยังรองรับการผจญภัยได้อย่างลงตัวด้วยกันชนขนาดใหญ่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จัดเต็มกับล้อขนาดใหญ่พร้อมลุยและโหมดการขับขี่ที่มากถึง 7 รูปแบบ ร่วมด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะระดับ L2+ และฟังก์ชั่นช่วยเหลือการขับขี่มากกว่า 30 ฟังก์ชั่น นอกจากนั้น TANK 300 HEV Concept Car สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม TANK ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอัจฉริยะสำหรับรถยนต์ออฟโรดของ เกรท วอลล์ มอเตอร์

 

 

เช่นเดียวกันกับ ORA Good Cat GT ที่ไม่เพียงมาอวดโฉมให้แฟนๆ ชาวไทยได้สัมผัสอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก แต่ยังคว้ารางวัลรถไฟฟ้าดีไซน์ยอดเยี่ยมไปครอบครองอีกด้วย โดยเจ้าเหมียวไฟฟ้าดีไซน์สปอร์ตจากแบรนด์ ORA คันนี้มาพร้อมกับสมรรถนะอันเร้าใจด้วยพละกำลังสูงสุด 171 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร กระจังหน้าดีไซน์สปอร์ตลายคาร์บอนไฟเบอร์ ส่วนด้านหลังโดดเด่นด้วยสปอยเลอร์ดีไซน์โฉบเฉี่ยวพร้อมตราสัญลักษณ์ GT ล้ออัลลอยทูโทนขนาด 18 นิ้ว และดิสก์เบรคคาลิปเปอร์สีแดง ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีแดง-ดำอันเป็นเอกลักษณ์ สะดวกสบายไปกับเบาะคนขับที่ติดตั้งระบบบันทึกตำแหน่งและฟังก์ชัน Welcome Seat พร้อมเบาะระบบนวดไฟฟ้าและระบบระบายอากาศสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า และประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้าระบบแฮนด์ฟรี

 

ในฐานะบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก (Global Intelligent Technology Company) เกรท วอลล์ มอเตอร์ มุ่งสร้างสรรค์และนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ในทุกมิติเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการตลอดจนประสบการณ์ต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น ภายใต้ความมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของไทย ที่พร้อมจะเติบโตเคียงข้างสังคมควบคู่ไปกับการเดินหน้าผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าของไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน



ที ลีสซิ่ง จับมือ ศรีประจันต์วัฒนยนต์ จัดอบรม "ขับขี่ปลอดภัย ร่วมใจลดมลพิษ" โรงเรียนสงวนหญิง จ.สุพรรณบุรี

  บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด  ผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้ อรถจักรยานยนต์  ในเครือ เอ็ม บี เค  เล็งเห็นความสำคัญของการขับขี่ รถบนท้องถนนอย่างปลอ...