“แอสเซทไวส์” ก้าวสู่ปีที่ 18 อย่างยิ่งใหญ่อลังการ
ด้วยยุทธศาสตร์ “WIND OF CHANCE” พร้อมฝ่าทุกคลื่นลม กางใบเรือคว้าโอกาสเพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ประเดิมด้วยการเปิดตัว 7 โครงการใหม่แกะกล่อง
ทั้งแนวราบและแนวสูง มูลค่ารวม 12,400 ล้านบาท ในปี 2565
ตั้งเป้ารับรู้รายได้ 6,000 ล้านบาท รุกกลยุทธ์
synergy จับมือพันธมิตรบุกธุรกิจใหม่ เสริมความแข็งแกร่ง ตั้งเป้าโกยยอดขายปีนี้กว่า
10,000 ล้านบาท
กรุงเทพฯ – (7 กุมภาพันธ์ 2565) นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท
แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์
ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” เปิดเผยว่า ปี 2565
นี้ บริษัทก้าวสู่การดำเนินธุรกิจปีที่ 18 เปรียบเสมือนเรือที่กางใบเต็มที่พร้อมออกไปคว้าโอกาสใหม่
ในช่วงเวลาที่มีแรงลมส่งธุรกิจทุกทิศทาง โดยยุทธศาสตร์สำคัญที่บริษัทเตรียมพร้อมไว้ในปีนี้คือ
“WIND OF CHANCE” ต่อยอดความสุขของทุกการอยู่อาศัย พร้อมเปิดรับทุกโอกาสทางธุรกิจ
“ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในปีนี้
ตามทิศทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว โดยมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเป็นแรงลมส่ง นอกจากนี้คาดว่าจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่าง
ๆ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อภาคอสังหาฯ ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง และด้วยบรรยากาศแบบนี้
แอสเซทไวส์ มองว่าเป็นจังหวะที่ดีในการคว้าโอกาสขยายธุรกิจเชิงรุก ด้วยการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์
และเชื่อมต่อความสุขสู่ทุกกลุ่มลูกค้าได้อย่างแท้จริง โดยแอสเซทไวส์จะเปิดตัวโครงการใหม่
7 โครงการ มูลค่ารวม 12,400 ล้านบาท
แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมฯ 5 โครงการ และเพิ่มพอร์ทโครงการบ้านอีก
2 โครงการ โดยจะแบ่งเป็นสัดส่วนคอนโดมิเนียมฯ 60% และบ้าน 40%” นายกรมเชษฐ์ กล่าว
“จากประสบการณ์ ความเข้าใจไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของกลุ่มลูกค้า
และการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูล
ผนวกกับสถานการณ์ปัจจุบันในยุค New Normal ทำให้ผู้บริโภคมองหาที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง
มีฟังก์ชันการใช้งานเป็นสัดส่วน ทำให้เราตัดสินใจปรับเพิ่มพอร์ทการพัฒนาโครงการบ้านเพิ่มขึ้น
เพื่อตอบโจทย์อุปสงค์ที่ขยายตัวในตลาด”
ล่าสุดตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาบริษัทเริ่มส่งสัญญาณเชิงบวกเพื่อสะท้อนการเติบโตที่แข็งแกร่ง
โดยประกาศจับมือพันธมิตรยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น บริษัท ทาคาระ เลเบ็น จำกัด
ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงมานานกว่าครึ่งศตวรรษ
เพื่อพัฒนาโครงการแรก “แอทโมซ บางนา” มูลค่าโครงการกว่า 2,200 ล้านบาท และเสริมแกร่งให้พอร์ทของบริษัท
ด้วยการเข้าซื้อคอนโดมิเนียมบนทำเลทองใจกลางรัชดา – สุทธิสาร อย่าง โครงการ
แม็กซี่ ไพร์ม รัชดา – สุทธิสาร จาก บริษัท แม็กซี่ พรีเมียร์ วัน จำกัด และเมื่อเร็ว
ๆ นี้ แอสเซทไวส์ได้ร่วมเป็นพันธมิตรในการเปิดตัวเหรียญ Popcoin ซึ่งเป็น Smart Marketing Platform Entertainmerce ที่เกิดจากความร่วมมือของบริษัทชั้นนำอย่าง
บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS Group, บริษัท โฟร์ท
แอปเปิ้ล จํากัด, บริษัท ฟิวเจอร์คอมเพเทเร่ จำกัด
และบริษัทพันธมิตรชั้นนำแนวหน้าของไทย
สะท้อนมุมมองความมุ่งมั่นในการทำธุรกิจและการต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ
นอกจากนี้ยังพร้อมมุ่งสู่เทรนด์การดูแลสุขภาพผ่านช่องทางดิจิทัล
หรือ Digital Health ด้วยการร่วมมือกับ
Doctor A to Z ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีบริการด้านสุขภาพออนไลน์
เพื่อยกระดับการดูแลสุขภาพของลูกบ้านด้วย “Health Station” Facility ที่ออกแบบเพื่อการดูแลสุขภาพครบวงจร พร้อมเชื่อมต่อแพลตฟอร์มเทคโนโลยีบริการด้านสุขภาพออนไลน์ตลอด
24 ชั่วโมง ทั้งยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยในยุค New
Normal ให้ลูกบ้านได้รับการบริการด้านสุขภาพที่ดี
และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะเราเล็งเห็นว่าการมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ทั้งด้านไลฟ์สไตล์ และสุขภาพ ที่พร้อมให้บริการและง่ายต่อการเข้าถึงแก่ลูกบ้าน เป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยสร้างความสุขให้ผู้อยู่อาศัยได้อย่างแท้จริง
ทั้งนี้แพลตฟอร์มดังกล่าวได้เปิดให้บริการแก่ลูกค้าไปแล้วในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา
แอสเซทไวส์
ยังมีแผนจับมือกับ บริษัท บางกอก เฮลท์แคร์เซอร์วิส จำกัด หรือ BHS ผู้ดำเนินธุรกิจดูแลผู้สูงอายุและเวชศาสตร์ฟื้นฟู
รวมถึงธุรกิจเกี่ยวเนื่องในด้านผู้สูงอายุทั้งหมด เพื่อเปิดศูนย์ REHAB ฟื้นฟูสภาพร่างกาย ซึ่งเป็นศูนย์บริการประเมิน รักษา และ
ฟื้นฟูสมรรถภาพจากผู้เชี่ยวชาญ ที่จะทำให้ลูกค้าได้รับบริการสุขภาพที่มีคุณภาพ
และสะดวกสบายยิ่งขึ้น
ซึ่งในรายละเอียดทางบริษัทจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งเร็ว ๆ นี้
“จากความมุ่งมั่นขยายธุรกิจอสังหาฯ
ที่เราเชี่ยวชาญอยู่แล้วอย่างไม่หยุดยั้ง
ประกอบกับการมุ่งมั่นค้นหาโอกาสในธุรกิจใหม่ ๆ ทำให้เราเชื่อว่า
ปีนี้จะเป็นอีกปีที่ท้าทายในการดำเนินธุรกิจของแอสเซทไวส์ โดยเรามุ่งมั่นไต่ระดับความแข็งแกร่งขององค์กร
ด้วยเป้าหมายยอดขาย 10,000 ล้านบาท ซึ่งเรามั่นใจว่าจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างแน่นอน”
นายกรมเชษฐ์ กล่าว
ขณะที่ภาพรวม ปี 2564
ที่ผ่านมา แอสเซทไวส์ได้พัฒนาผลงานคุณภาพด้วยการดำเนินงานที่ได้มาตรฐานในระดับบริษัทมหาชน
จนทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดย ณ สิ้นปี 2564 บริษัทพัฒนาโครงการไปรวม
38 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 38,000 ล้านบาท มีทั้งโครงการสร้างเสร็จและส่งมอบเป็นที่เรียบร้อย 29 โครงการ และมีโครงการที่กำลังเปิดขายและพัฒนาอยู่ จำนวน 9 โครงการ โดยปัจจุบันบริษัทมียอดรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 7,338 ล้านบาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น