ประเทศไทย
ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 5 ประเทศที่มีอิทธิพลด้านมรดกวัฒนธรรมของโลก (World’s Best
Countries for Cultural Heritage Influence, 2021) จากนิตยสาร CEOWORLD
ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงต้นทุนทางด้านวัฒนธรรมที่สมบูรณ์ ซึ่งหากนำเอาภูมิปัญญาและมรดกทางวัฒนธรรม
ที่เปรียบเสมือนขุมทรัพย์อันทรงคุณค่า และเป็นอาวุธที่ทรงพลัง มาต่อยอดและพัฒนา
จะช่วยเพิ่มคุณค่าทางสังคมควบคู่ไปกับการรักษามรดกทางวัฒนธรรมของชาติได้เป็นอย่างดี
พร้อมทำให้ศิลปวัฒนธรรมของไทยทะยานออกไปยังเวทีโลกได้อย่างยิ่งใหญ่
และด้วยแนวคิดดังกล่าว
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.),
U2T (มหาวิทยาลัยสู่ตำบล), วิทยสถานสังคมศาสตร์และศิลปกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย หรือ
ธัชชา (Thailand
Academy of Social Sciences, Humanities and Arts : TASSHA) และ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา จึงได้ร่วมกันจัดโครงการ
“ไทยทะยาน” การประกวดสร้างสรรค์ผลงานออกแบบด้านศิลปะวัฒนธรรมจากรากเหง้าและภูมิปัญญาท้องถิ่น
ภายใต้แนวคิด “ทะยานให้สร้างสรรค์ ปั้นไทยด้วยมือ GEN Z" และในการเปิดตัวโครงการ ได้มีกิจกรรมเสวนา
ในหัวข้อ
“บันดาลไทย” พร้อมดึงเหล่าศิลปินนักออกแบบ และตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ มาร่วมถ่ายทอด
ประสบการณ์ตรง ในการนำเอามรดกทางวัฒนธรรมมาเป็นแรงบันดาลใจสู่การสร้างสรรค์ผลงานจนเป็นที่ยอมรับในระดับโลก
เพื่อร่วมจุดประกายความคิด พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้กับน้อง ๆ คนรุ่นใหม่
เริ่มต้นด้วยศิลปินนักออกแบบที่ประสบความสำเร็จอย่าง
พลอยพรรณ ธีรชัย ตัวแทนจาก THINKK Studio ที่มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์การออกแบบเฟอร์นิเจอร์
เล่าว่า พลอยมีวิธีการคิดงานที่หลากหลายแนวคิดมาก
ไม่ว่าจะเป็นการ Mimicry คือการประทับใจสิ่งไหนก็นำสิ่งนั้นมาแปลงหรือออกแบบในรูปแบบที่เราต้องการ
หรือการ Redesign
ในจุดที่เราอยากจะปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยแต่ละไอเดียจะมีวิธีการออกแบบที่แตกต่างกันออกไป
นอกจากนี้ สิ่งของรอบตัวที่เราพบเห็นก็สามารถนำมาเป็นแรงบันดาลใจได้ เช่น หม้อจิ้มจุ่ม
ที่เป็นภาชนะมีหูจับทั้ง 2 ข้าง ซึ่งสะท้อนถึงวัฒนธรรมไทยที่มีการเคารพซึ่งกันและกัน
รวมถึงการส่งมอบและยอมรับ ก็สามารถนำมาใช้เป็นไอเดียเพื่อออกแบบผลงานได้
จึงเป็นที่มาของคอลเล็คชั่น LOKALT ซึ่งได้นำภูมิปัญญางานฝีมือท้องถิ่นมาใช้ด้วย
โดยเป็นความร่วมมือการออกแบบกับดีไซน์เนอร์จาก 3 ประเทศ ได้แก่ จอร์แดน อินเดีย และไทย
ทำให้สินค้าของเรามีเอกลักษณ์
ไม่เหมือนใคร
“ในการสร้างสรรค์ผลงาน
เรามักจะได้แนวคิดและแรงบันดาลใจจากช่วงเวลาของความสุข หรือแม้แต่สิ่งของ
ใกล้ตัว โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องไปหาจากที่ไกล ๆ เพราะสิ่งที่อยู่รอบตัวเราเกือบทุกชิ้นนั้น
สามารถนำเป็นไอเดีย หรือนำมาต่อยอดเป็นผลงานอื่น ๆ เพิ่มเติมได้อีกมากมาย
จึงอยากให้น้อง ๆ ที่กำลังค้นหาแรงบันดาลใจ ลองสังเกตสิ่งใกล้ตัวเราก่อนเป็นอันดับแรก
เพราะมีอะไรอีกมากมายที่เราสามารถหยิบมาสร้างสรรค์ และใช้ความเป็นตัวตนของตนเองมาผสมผสานเข้าด้วยกันเพื่อถ่ายทอดสิ่งเหล่านั้นออกมา
เชื่อว่าการนำเสนอตัวตนของเราออกมาให้ได้มากที่สุดจะเป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่ดี
ในการสร้างสรรค์ผลงาน” พลอยพรรณ กล่าว
ด้านดีไซน์เนอร์ชื่อดังจาก
Tube Gallery โดย ศักดิ์สิทธิ์
พิศาลสุพงศ์ ได้เล่าถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบเครื่องแต่งกายในระดับนานชาติว่า
ในฐานะการเป็นดีไซน์เนอร์ไทย ทำให้คนคาดหวังว่าเราจะต้องออกแบบ
และดีไซน์ผลงานที่บ่งบอกถึงความเป็นไทย เช่น การออกแบบเสื้อผ้าจะต้องใช้ผ้าไหมไทย
เพื่อบอกเล่าถึงความเป็นไทย
ซึ่งความเป็นจริงแล้ว ในตัวผ้าไหมไทยนั้นถือว่ามีความเป็นไทยและมีเสน่ห์ในตัวเองอยู่แล้ว
และเราสามารถนำผ้าไหมนั้นมาต่อยอดและพัฒนาให้กลายเป็นผลงานที่ทันสมัยและเป็นที่ยอมรับในระดับสากลได้
ด้วยการนำสิ่งที่มีอยู่มาใช้ร่วมกับแรงบันดาลใจเพื่อส้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ ขึ้นมา
“แรงบันดาลใจล้วนอยู่รอบตัวเรา
และบางอย่างก็อยู่ใกล้ตัวมากจนบางครั้งเราก็มองข้ามสิ่งเหล่านี้ไป
จนทำให้เราพลาดโอกาสที่จะได้สร้างสรรค์ผลงานดี ๆ ไป จึงอยากให้น้อง ๆ และคนรุ่นใหม่
ลองหันมามองสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว
และลองให้โอกาสกับวัฒนธรรมของตนเองที่มีอยู่ว่ามีอะไรบ้างที่น่าสนใจ
และสิ่งไหนบ้างที่เราจะสามารถดึงมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานได้” ศักดิ์สิทธิ์
กล่าว
สำหรับศิลปินอิสระ
เกียรติอนันต์ เอี่ยมจันทร์ เล่าถึงประสบการณ์เกี่ยวกับจิตรกรรม
ประติมากรรมและสื่อผสมของตนเองว่า การที่ได้มาเป็นศิลปินในทุกวันนี้เกิดจากความชื่นชอบส่วนตัว
และใช้ความชอบนี้มาสร้างสรรค์ผลงาน โดยใช้ความคุ้นเคยที่อยู่รอบ ๆ ตัว
มาเป็นแรงบันดาลใจและถ่ายทอดความรู้สึก เพื่อแสดงออกถึงความเป็นตัวเองผ่านผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้น
และต้องพยายามพัฒนาอย่างต่อเนื่องและไม่หยุดยั้ง ถึงจะทำให้เราประสบความสำเร็จ
เช่นเดียวกับในปัจจุบันนี้ที่มีผลงานเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
รวมถึงมีผลงานวางจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม NFT อีกด้วย
“ทุกการสร้างสรรค์ผลงาน
อยากให้น้อง ๆ อดทนและพยายามจนกว่ามันจะประสบความสำเร็จ และคงความเป็นตัวตนของเราไว้ในผลงานอยู่เสมอ
ซึ่งเชื่อว่าสักวันหนึ่ง จะมีคนเห็นถึงความตั้งใจและให้คุณค่ากับความพยายามนั้นของเรา
รวมถึงผลงานของเราด้วย” เกียรติอนันต์ กล่าว
ปิดท้ายที่
วีรยุท ล้อทองพานิชย์ ผู้ผลิตโฆษณาแถวหน้าของเมืองไทย เล่าว่า
เวลาเราผลิตหนังโฆษณา
เราจะคิดเสมอว่า ไม่มีใครอยากดูโฆษณา เพราะว่าเราไปรบกวนคนที่ดูทีวี เราจึงต้องมีแนวคิดที่ทำให้โฆษณานั้นให้มีรสนิยมและเหมาะกับความเป็นไทย
และความเป็นคนไทยนี้ มักจะมี DNA ของความสนุกสนานในการทำงานแฝงอยู่ด้วย
เราจึงนำสิ่งเหล่านั้นมาใช้เป็นพื้นฐานในการคิดไอเดียต่าง ๆ บวกกับความพยายามและไม่ยอมแพ้
จึงทำให้โฆษณาของเราสามารถคว้ารางวัลบนเวทีชั้นนำต่าง ๆ ได้หลายประเทศทั่วโลก
“การทำงานของคนไทยมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครนั่นคือ
การไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าการทำงานนั้นจะพบเจอกับอุปสรรค์หรือปัญหาใด ๆ
ก็จะสามารถหาวิธีแก้ไขกับปัญหานั้นได้ ซึ่งเราได้นำสิ่งเหล่านั้นมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานโฆษณาต่าง
ๆ จนเป็นที่ยอมรับในระดับสากล รวมไปถึงการได้รับรางวัลต่าง ๆ จากทั่วโลก
ซึ่งเป็นการการันตีคุณภาพของการทำงานในแบบฉบับของคนไทยได้เป็นอย่างดี
นอกจากการไม่ยอมแพ้แล้ว การทำงานเป็นทีมถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จ
อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการระดมความคิดเพื่อหาแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานต่าง
ๆ ได้ด้วยเช่นกัน” วีรยุท กล่าว
นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ดีภายใต้โครงการ
“ไทยทะยาน” ที่มีส่วนช่วยให้ น้อง ๆ นักศึกษา และคนรุ่นใหม่ ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานเพื่อนำภูมิปัญญาไทยไปสู่ระดับโลก
ผ่านการประกวดในโครงการ “ไทยทะยาน”
ที่นำเอาศิลปะวัฒนธรรมจากรากเหง้าและภูมิปัญญาท้องถิ่นมาออกแบบผลงาน
และสร้างสรรค์นวัฒกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่า และต่อยอดให้เกิดโมเดลเศรษฐกิจอย่างสร้างสรรค์และมีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจเข้าร่วมประกวดจะต้องนำเสนอผลงานการออกแบบ
ที่พัฒนาจากมรดกทางภูมิปัญญาไทยที่มี อัตลักษณ์และเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเฉพาะตัว
เพื่อเพิ่มมูลค่าทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของไทยสู่สายตานานาชาติ
โดยผู้ที่ชนะเลิศในแต่ละประเภทการแข่งขัน จะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท รองชนะเลิศ 20,000 บาท และ 10,000 บาท ตามลำดับ พร้อมโล่เกียรติยศ และโอกาสในการจัดแสดงผลงาน
พร้อมโอกาสในการร่วมงานกับแบรนด์ดังในระดับสากลของไทย
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทะยานสู่ความยิ่งใหญ่ และเชิดชูความเป็นไทย พร้อมขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและเพิ่มมูลค่าให้กับศิลปวัฒนธรรมไทย
เพื่อต่อยอดให้เกิดเป็นโมเดลเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้กับประเทศไทยและมุ่งไปยังเวมีระดับโลก
ผ่านการส่งผลงานเข้าประกวดได้แล้ววันนี้ – 26 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ https://bit.ly/3FZLKzr โดยสอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมและติดตามข่าวสารได้ที่
https://facebook.com/thaithayarn หรือ Line official : @thaithayarn หรือ Instagram
: thaithayarn
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น