ด้วยฝีมืออันประณีตผนวกเข้ากับภูมิปัญญาของครูช่างศิลป์ไทยและวัฒนธรรมที่ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้เครื่องประดับของคนไทยแต่ละชิ้นมีความพิเศษ มีเอกลักษณ์ และมีเรื่องราวแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ ซึ่งปัจจุบันเครื่องประดับของไทยได้ดังไกลไประดับโลก ด้วยการนำมาเพิ่มคุณค่าและความร่วมสมัยเข้าไปจากเหล่าดีไซนเนอร์รุ่นใหม่ๆ ทำให้เครื่องประดับสไตล์งานคราฟต์เหล่านี้กลายมาเป็นชิ้นงานที่สวยสะดุดตาจนทั่วโลกจับตามอง ล่าสุดไอคอนคราฟต์ (ICONCRAFT) พื้นที่แห่งงานฝีมือสุดสร้างสรรค์ของคนไทย นำเสนอเครื่องประดับไทยอันทรงคุณค่า จัดงาน “Bejeweled in Thai Style” (บีจิวเวลด์ อิน ไทย สไตล์) เปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่ของเครื่องประดับไทยสุดวิจิตรหลากหลายแบรนด์ อาทิ แบรนด์ จันทร์โสมา โดยอาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย ครูศิลป์ของแผ่นดิน, กรุช่างทองโบราณ, Luck Thai (รักไทย), SRITAVIE (ศรีทวี), ANGSA (อังษะ), ต่อเงินต่อทอง, HATSAYA, PONK, SMITHI, GRAJANG รวมทั้งแบรนด์อื่น ๆ อีกมากมาย ที่คัดสรรโดยไอคอนคราฟต์ เพื่อเชิดชูและสร้างความภาคภูมิใจกับความคิดสร้างสรรค์และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ถ่ายทอดในมุมมองใหม่ลงบนเครื่องประดับ พร้อมสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก VIZ Card เมื่อซื้อสินค้าครบตามเงื่อนไขแลกรับ ICONCRAFT GIFT VOUCHER มูลค่าสูงสุด 7,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ไอคอนคราฟต์ ชั้น 4 -5 ไอคอนสยาม
แบรนด์จันทร์โสมา
ภายในงาน “Bejeweled in Thai Style” จะได้พบกับเครื่องประดับหลากหลายดีไซน์สวยงามโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ความเป็นไทยร่วมสมัยจากแบรนด์ชื่อดังมากมาย อาทิ สุดยอดผลงานเครื่องประดับอันประณีต โดยอาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย ครูศิลป์ของแผ่นดินกับแบรนด์เครื่องประดับไทยโบราณในชื่อ แบรนด์จันทร์โสมา ครั้งนี้นำ จี้หรือทับทรวง “มาลากาญจน์” แบบโบราณ โดย จี้หรือทับทรวง เดิมใช้เชือกร้อยกับเม็ดประคำผูกคอให้ห้อยลงมาประดับบริเวณหน้าอก จึงมีชื่อเรียกกันว่า”ทับทรวง” อกเป็นบริเวณที่สำคัญโดดเด่นเห็นชัดที่สุดในการประดับกาย ทับทรวงจึงเป็นเครื่องประดับที่สำคัญมากตลอดมาแต่โบราณ จึงได้รับการออกแบบให้มีความสวยงามวิจิตรเป็นพิเศษ ใช้แต่งกายในวาระโอกาสหรืองานการพิธีที่สำคัญๆของชีวิต ซึ่งทับทรวง “มาลากาญจน์” ก็เช่นเดียวกัน ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากทับทรวงโบราณ ซึ่งเป็นเครื่องประดับชั้นสูงของเจ้านายที่ใช้ในพระราชพิธีโสกันต์มาก่อน โดยใช้ลายใบเทศพลิกยอด กลางใบมีกะเปาะสำหรับประดับอัญมณี เป็นสไตล์ลายที่นิยมในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่4 แล้วเรียงร้อยผูกเป็นดอกดวง ตรงกลางแต่ละดอกมีเกษรกลมฝังอัญมณีเป็นประธานล้อมรอบด้วยอัญมณีอีกชั้นเป็นดารารังแตนเรียกดอกไม้ทิศ ทั้งหมดคุมให้อยู่ในทรงสีเหลี่ยมขนมเปียกปูนขนาดใหญ่ ตรงใจกลางทับทรวงใช้ลายใบเทศเช่นกันเรียงเป็นวงกลม วางซ้อนกันเป็นชั้นๆไล่จากใหญ่ไปเล็กคุมให้เป็นทรงมณฑป ด้านล่างมีช่อห้อยรูปดอกสามกลีบ เคลื่อนไหวเป็นตุ้งติ้ง จำนวนเก้าช่อ ทั้งหมดผลิตจากโลหะมีค่า อย่างเงินกะไหล่ทองหรือทองคำจำหลักลายประดับอัญมณีและลงยาสีอย่างงดงามล้ำค่า ทับทรวง”มาลากาญจน์” ผูกห้อยด้วยสายสร้อยร้อยประคำลูกสนไล่เรียงขนาดกันอย่างงดงามมาก
แบรนด์ กรุช่างทองโบราณ
สำหรับแบรนด์ไฮไลต์ที่มีการคัดสรรสุดยอดงานศิลปะมาไว้ที่นี่คือ “กรุช่างทองโบราณ” เครื่องประดับไทยจากช่างทองไทยผู้สืบทอดวิชางานช่างทองโบราณ การสร้างสรรค์ผลงานเกิดจากความรัก ความศรัทธาในการที่จะสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมของคนไทย โดยใช้เทคนิควิธีการทำตัวเรือนแบบโบราณประดับด้วยอัญมณีแท้ เสริมสิริมงคล โชคลาภ สุขภาพ การเงิน การงาน และความรัก การออกแบบชิ้นงานได้รับแรงบันดาลใจ จากลวดลายไทยในงานจิตรกรรมฝาผนัง และลวดลายมงคลของไทย รวมถึงลวดลายมงคลจากความเชื่อต่างๆ ผสานการนำความรู้ด้านงานช่างต่างๆ มาบูรณาการกับงานเครื่องทองโบราณในรูปแบบร่วมสมัย จนเป็นที่ยอมรับในทักษะเชิงช่างราชสำนักทั้งในและต่างประเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น