“ผลไม้สด” ถือเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของประเทศ เกษตรกรส่วนใหญ่จึงมุ่งเน้นทำเกษตรเพื่อการส่งออกมากกว่าจำหน่ายภายในประเทศ ซึ่งในความเป็นจริง “ตลาดในประเทศ” ยังมีช่องว่างและโอกาสให้เกษตรกรได้จัดจำหน่ายสินค้าอีกมาก “บริษัท ทริปเปิ้ล เฟรช จำกัด” นับเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการ SME ที่เห็นช่องทางการเติบโตของตลาดผลไม้ในประเทศ จึงทำการตลาดอย่างจริงจังผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อ ส่งผลให้ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี “ทริปเปิ้ล เฟรช” สามารถจำหน่ายผลไม้พร้อมรับประทานให้กับทางเซเว่น อีเลฟเว่น มากกว่า 10,000 แพ็คต่อวัน
สนธยา กลิ่นหวล ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มจัดหาและจัดซื้อผลไม้ บริษัท ทริปเปิ้ล เฟรช จำกัด เล่าให้ฟังว่า เดิมบริษัทดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการแปรรูปอาหาร และต้องการขยายธุรกิจสู่สินค้าประเภทอื่น จึงทำการศึกษาตลาดอย่างจริงจัง และพบว่า สินค้าประเภทผลไม้สด เป็นสินค้าที่มีโอกาสในการเติบโตสูง และมีช่องว่างทางตลาดค่อนข้างมาก โดยเฉพาะตลาดค้าปลีกในประเทศ เนื่องจากผลไม้สดส่วนใหญ่ของไทยถูกส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศเป็นหลัก
สำหรับผลไม้สดที่ไม่ได้ส่งออก จะถูกส่งขายไปยังศูนย์กลางตลาดค้าส่งผลไม้ทั่วประเทศ ซึ่งกว่าผลไม้เหล่านี้จะถึงมือผู้บริโภครายย่อยก็อาจทำให้สูญเสียคุณประโยชน์ในการบริโภค จึงมองว่าหากสามารถลดขั้นตอนและช่วงเวลาในการส่งมอบผลไม้สดให้ถึงมือผู้บริโภคได้ ก็จะช่วยให้ผู้บริโภคได้รับสินค้าที่สดใหม่และมีคุณภาพ การขายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดอย่างร้านสะดวกซื้อ เมื่อเซเว่น อีเลฟเว่น เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME นำสินค้าประเภทต่างๆ เข้าไปจัดจำหน่าย รวมถึงสินค้าในกลุ่มผลไม้สด จึงตัดสินใจนำ “ขนุนพร้อมรับประทาน” ซึ่งเป็นผลไม้ที่ตลาดมีความต้องการสูงเข้าจำหน่ายเป็นชนิดแรก ในช่วงปลายปี 2562 โดยเริ่มวางจำหน่ายในระยะแรก 10 สาขา จำนวน 3-5 แพ็คต่อสาขาต่อวัน เพื่อดูความต้องการของผู้บริโภค ในอนาคตหากความต้องการมีมากขึ้นก็จะขยายสินค้าให้สอดคล้องกับตลาด
“การนำผลไม้พร้อมรับประทานเข้าจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ เป็นเรื่องใหม่สำหรับเราอย่างมาก แต่ดีที่ได้ทีมผู้เชี่ยวชาญของเซเว่น อีเลฟเว่น มาให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด มอบองค์ความรู้ที่มีประโยชน์อย่างครบถ้วน ทั้งการพัฒนาคุณภาพสินค้า ให้คำแนะนำด้านการตลาด ตลอดจนการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ที่ดีจะต้องทำให้สินค้ามีความโดดเด่นและน่าสนใจ โดยมีการพัฒนาร่วมกันอย่างต่อเนื่อง จนได้มาเป็นผลไม้สดแพ็คสำเร็จพร้อมทานที่ยังคงคุณประโยชน์ บรรจุในกล่องพลาสติกใส เผยให้เห็นความสดใหม่ของผลไม้ในแพ็คเกจจิ้งที่สวยงาม สะอาด ปลอดภัย เหมาะกับการบริโภคในชีวิตประจำวัน”
ปัจจุบัน บริษัทส่งผลไม้พร้อมรับประทานจำหน่ายผ่านร้านเซเว่น อีเลฟเว่นกว่า 8,000 สาขา ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 9-10 รายการ มากกว่า 10,000 แพ็คต่อวัน อาทิ ขนุน ส้มโอ มะละกอ ฝรั่งพร้อมพริกเกลือ แก้วมังกร ส้มสายน้ำผึ้งปอกเปลือกพร้อมทาน โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ ขนุน คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 20-30% ของยอดจัดส่งต่อวัน โดยในปี 2564 บริษัทสามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นจากปี 2563 คิดเป็นอัตรา 8%
สนธยา กล่าวเพิ่มเติมว่า หัวใจสำคัญที่ทำให้เราเติบโตมาได้ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ 1.สินค้าตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค 2.สินค้าหาซื้อได้ง่าย 3.ราคาและปริมาณที่เหมาะสม และ 4.การส่งต่อองค์ความรู้ที่ได้รับกลับสู่ชุมชน หรือต้นทางของห่วงโซ่ธุรกิจ เนื่องจากสินค้าของเราเป็นสินค้าเกษตร ดังนั้นเรื่องของ “คุณภาพสินค้า” จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเราได้ร่วมมือกับเกษตรกรในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ซึ่งกันและกัน เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ
ด้าน นงนุช สมบูรณ์ เกษตรกรที่ปลูกและรับซื้อขนุนจากกลุ่มเกษตรกรในเครือข่าย เพื่อจัดส่งให้กับทางบริษัท ทริปเปิ้ล เฟรช จำกัด สัปดาห์ละกว่า 30 ตัน กล่าวเสริมว่า เดิมทีทางสวนขายผลไม้ให้กับทางตลาดขายส่งผลไม้ทั่วไปและตลาดต่างประเทศเป็นหลัก โดยปลูกแบบศึกษาเอง ทำให้ผลผลิตที่ได้อาจไม่ตรงตามความต้องการของตลาดค้าปลีกทั่วไป แต่หลังจากที่เราจัดส่งขนุนให้กับ ทริปเปิ้ล เฟรช เพื่อจำหน่ายผ่านร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ก็ได้มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้แบบต่อเนื่อง ทำให้เราสามารถพัฒนาสินค้าได้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภครายย่อยได้มากขึ้น
“ผลลัพธ์ที่ได้นอกจากคุณภาพที่ตอบโจทย์ตลาดรายย่อยแล้ว สิ่งที่ได้รับกลับมามากกว่านั้นคือ เกษตรกรในเครือข่ายมีรายได้ มีองค์ความรู้เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมในชุมชนมากขึ้น ถือเป็นการสร้างความยั่งยืนให้กับเกษตรกรและชุมชนในระยะยาว และในสถานการณ์ที่ตลาดส่งออกได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ตลาดในประเทศจึงเป็นตลาดที่จะเข้ามาช่วยเกษตรกรได้อีกช่องทางหนึ่ง” นงนุช กล่าวทิ้งท้าย
แม้ตลาดต่างประเทศจะเป็นตลาดขนาดใหญ่ แต่ในสถานการณ์ที่ยากจะคาดเดาเช่นนี้ การแสวงหาโอกาสและช่องทางการเติบโตตลาดในประเทศจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ปัจจุบันมีองค์กรเอกชนหลายแห่งที่พร้อมให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเกี่ยวกับกลยุทธ์ด้านการตลาดต่างๆ ขอเพียงแค่ผู้ประกอบการไม่ปิดกั้นโอกาสของตัวเองในการแสวงหาองค์ความรู้ใหม่ๆ โอกาสความสำเร็จก็มีมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น