theAsianparent Thailand เว็บไซต์และคอมมูนิตี้ออนไลน์อั นดับ 1 ครบทุกมิติของพ่อแม่ยุคใหม่ เดินหน้ากิจกรรมส่งเสริมสั งคมเดินหน้าโปรเจค Sidekicks การตั้งครรภ์อย่างปลอดภัยต่อเนื่ องเป็นปีที่ 2 เพื่อช่วยลดอัตราการเสียชีวิ ตของแม่และลูกระหว่างการตั้ งครรภ์ซึ่งกำลังเป็นหนึ่งปั ญหาหลักที่เกิดขึ้นทั้ งในไทยและต่างประเทศ เพราะขาดข้อมูลที่ถูกต้องและเพี ยงพอในการดูแลตนเอง โดยในปีนี้ได้ยกระดับการดำเนิ นงานเพื่อรณรงค์เชิญชวนคนไทยร่ วมลงชื่อสนับสนุนเพื่อแก้ ไขกฎหมายการให้คำนิยามใหม่ ของคำว่า “ภาวะเสียชีวิตระหว่างคลอด” จากเดิมที่กำหนดอายุครรภ์ไว้ที่ 28 สัปดาห์ให้ลดลงเหลือ 22 สัปดาห์ โดยนับตั้งแต่โปรเจค Sidekicks ได้เริ่มรณรงค์ในปีที่ผ่านมา theAsianparent Thailand ได้เผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อต่างๆ อาทิ บทความ วีดีโอ เว็บบินาร์ และการสำรวจผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อประชาสัมพันธ์ให้พ่อแม่ยุ คใหม่ดำเนินวิถีชีวิตที่ส่งเสริ มสุขภาพ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิ ดภาวะเสียชีวิตระหว่างคลอดได้
อย่างรก็ตาม นางนิธินันท์ อัศวทร กรรมการบริษัท ทิคเคิลด์ มีเดีย จำกัด และผู้จัดการประจำประเทศไทยของ theAsianparent ยังคงเชื่อว่าวิธีที่ดีที่สุ ดในการลดอัตราการเกิดภาวะเสียชี วิตระหว่างคลอดคือการเรียกร้ องให้รัฐบาลให้การสนับสนุ นโปรเจค Sidekicks ให้มากยิ่งขึ้น “รัฐบาลไทยได้ให้ความช่วยเหลื อพ่อแม่หลายประการ อันได้แก่ การให้ความช่วยเหลือทางการเงิ นแก่ผู้ว่างงานนับตั้งแต่เริ่ มตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดบุ ตรและดำเนินต่อจนเด็กมีอายุครบ 6 ขวบ แต่อย่างไรก็ตาม เราต้องยอมรับว่าพ่อแม่ที่สู ญเสียลูกในครรภ์สมควรได้รั บการสนับสนุนมากกว่าที่เป็นอยู่ ดังนั้น เราจึงขอเชิญชวนให้ ประชาชนชาวไทยร่วมกันสนับสนุ นโปรเจค Sidekicks ด้วยการลงชื่อเพื่อแก้ ไขกฎหมายช่วยเหลือพ่อแม่ที่บุ ตรประสบภาวะเสียชีวิตระหว่ างคลอด ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือพ่อแม่ ได้อย่างถาวร”
“เราตั้งเป้าจำนวนผู้สนับสนุ นไว้ที่ 200,000 รายชื่อ ซึ่งนับเป็นการร่วมกันต่อสู้เพื่ อให้เกิดการแก้ไขกฎหมายไปพร้ อมกันทุกภาคส่วนของสังคม เราหวังว่าการให้การสนับสนุนอย่ างเข้มแข็งนี้ จะช่วยผลักดันให้รัฐบาลเห็นถึ งความสำคัญและก่อให้เกิ ดความเปลี่ยนแปลงต่อกรณีดังกล่ าวได้” นางนิธินันท์กล่าวเสริม “เพื่อให้ประเทศไทยก้าวไปข้ างหน้า เราจำเป็นต้องนำกรณีศึ กษาจากประเทศเพื่อนบ้ านของเราอย่างสิงคโปร์ และมาเลเซียมาปรับใช้ตามบริบทสั งคมไทย ทั้งนี้ กฎหมายในทั้งสองประเทศดังกล่ าวกำหนดให้พ่อแม่ได้รับสิทธิ ประโยชน์เต็มที่กรณีสูญเสียบุ ตรตั้งแต่อายุครรภ์ 22 สัปดาห์ การให้สิทธิประโยชน์แก่พ่อแม่ ซึ่งรวมถึงสิทธิในการลาคลอด 98 วันโดยยังคงได้รับเงินเดื อนตามปกติ จะช่วยให้พ่อแม่ที่บุ ตรประสบภาวะเสียชีวิตระหว่ างคลอดสามารถฟื้นฟูสุขภาพได้ดี กว่า อย่างน้อยก็ทางกาย และยังได้รับการช่วยเหลื อทางการเงินเพื่อการจัดการเรื่ องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานศพของบุตร การดูแลรักษาสุขภาพหลังคลอด ตลอดจนการให้ความช่วยเหลื อทางอารมณ์และทางจิตวิทยา ขณะเดียวกัน theAsianparent Thailand ยังคงสร้างสรรค์และเผยแพร่ข้อมู ลเพื่อส่งเสริมการดูแลสุ ขภาพขณะตั้งครรภ์ เพื่อให้การตั้งครรภ์ปลอดภัย ลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเสี ยชีวิตระหว่างคลอด รวมทั้งตอกย้ำให้เห็นถึ งความสำคัญของการนอนตะแคง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเข้าสู่ เดือนสุดท้ายและในช่วงสามเดื อนแรกของการตั้งครรภ์ การนับลูกดิ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่ 16 ของการตั้งครรภ์ การเลิกสูบบุหรี่ ตลอดจนการระมัดระวังไม่สัมผัสกั บควันบุหรี่มือสอง
ทั้งนี้ จากการสำรวจกลุ่มสมาชิกในคอมมู นิตี้ออนไลน์ของ theAsianparent Thailand พบว่า คุณแม่ชาวไทยยังขาดความตระหนั กในเรื่องผลกระทบของการใช้ชีวิ ตในปัจจุบันที่มีต่อการตั้ งครรภ์ โดยมีข้อมูลจากการสำรวจสตรีมี ครรภ์ชาวไทยผ่านแอปพลิเคชัน ดังนี้
57% ของสตรีมีครรภ์ ไม่ทราบว่าสามารถตรวจสอบการเคลื่ อนไหวของเด็กทารกได้จากการที่ลู กดิ้น
41% ของสตรีมีครรภ์ ไม่ทราบว่าควันบุหรี่มือสองเพิ่ มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิ ตของทารก
33% ของสตรีมีครรภ์ ยังคงนอนหงายเมื่อย่างเข้าสู่ เดือนสุดท้ายและในช่วงสามเดื อนแรกของการตั้งครรภ์
14% ของสตรีมีครรภ์ ยังคงดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างตั้ งครรภ์ ซึ่งมักเกิดจากการดื่มยาสมุ นไพรโบราณ
“ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ มีอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ ตสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวั นออกเฉียงใต้ ดังนั้น เราจะใช้คุณประโยชน์ ของเทคโนโลยีดิจิทัลและโซเชี ยลมีเดีย ในการสร้างความตระหนักในกลุ่ มสตรีมีครรภ์ชาวไทย ไม่เฉพาะเรื่องภาวะเสียชีวิ ตระหว่างคลอดเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมเรื่องอื่นๆ ตลอดช่วงเวลาตั้งครรภ์จนถึ งการคลอด รวมถึงพัฒนาการของเด็ก และการศึกษาในช่วงปฐมวัย” นางนิธินันท์กล่าวสรุป
นายธนิตพล ไชยนันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่ าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงนโยบายการดำเนินงานเกี่ ยวกับแม่และเด็กว่า กระทรวงสาธารณสุขได้มี การกำหนดนโยบายด้านการส่งเสริ มแม่และเด็กมาโดยตลอด โดยเริ่มดูแลตั้งแต่ก่อนตั้ งครรภ์จนถึงหลังตั้งครรภ์ผ่ านการคัดกรองสุขภาพแม่เพื่ อตรวจหาโรคที่มีความเสี่ยงเพื่ อป้องกันไม่ให้โรคเหล่านั้นส่ งต่อไปถึงลูกได้ ทั้งยังตรวจสุขภาพครรภ์อยู่ เสมอเพื่อให้มั่นใจว่าทั้งแม่ และลูกจะปลอดภัย รวมถึงการจัดทำโครงการช่วงหลั งคลอด อาทิ โครงการนมแม่ ปัจจุบันปริมาณการเกิดของเด็ กในประเทศไทยมีปริมาณน้อยลงเรื่ อยๆ ภาครัฐจึงต้องให้ความสำคั ญในการพัฒนาคุณภาพของเด็กให้ สมบูรณ์แข็งแรงและเติบโตขึ้นอย่ างมีคุณภาพซึ่งต้องเริ่มตั้งแต่ การดูแลเด็กขณะอยู่ในครรภ์ซึ่ งถือเป็นขั้นตอนเริ่มต้นที่สำคั ญที่สุด ทั้งนี้ การสร้างสรรค์โปรเจค Sidekicks ถือเป็นอีกหนึ่งแรงสำคัญในการช่ วยเสริ มการทำงานของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งการเข้ามามีส่วนสนับสนุ นโครงการที่เกี่ยวข้องกับแม่ และเด็กนั้นทางกระทรวงฯ ยินดีที่จะส่งเสริมเพื่อให้ โครงการบรรลุยังเป้าหมาย ขยายเครือข่ายให้กว้างยิ่งขึ้ นเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิ ตของครอบครัวไทยให้แข็งแกร่งอย่ างยั่งยืนต่อไป
ด้านพญ. พรนิภา ศรีประเสริฐ กุมารแพทย์ ผู้พัฒนาเพจ เรื่องเด็กๆ by หมอแอม ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ ปลอดภัยว่า การงดบุหรี่และแอลกอฮอล์ การนับลูกดิ้น และการจัดท่านอนที่เหมาะสมในแต่ ละช่วงเวลาของอายุครรภ์ คือหลักการเบื้องต้นที่นำไปสู่ การตั้งครรภ์อย่างปลอดภัย โดยปกติการฝากครรภ์ควรเริ่มทั นทีที่ทราบ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะสั งเกตพบการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ อายุครรภ์ 2 เดือนขึ้นไป ถือเป็นช่วงที่เริ่มรับรู้ได้ถึ งสัญญาณชีพของเด็กในครรภ์และที่ สำคัญการฝากครรภ์ยังเป็นการช่ วยตรวจเช็กสุขภาพของแม่เพื่อให้ มั่นใจว่าเป็นการตั้งครรภ์ที่ ปลอดภัยก็จะช่วยลดอัตราเสี่ยงต่ อการเสียชีวิตของแม่และลูกระหว่ างตั้งครรภ์และขณะคลอดได้ด้วย อีกหนึ่งสัญญาณที่คุณแม่ สามารถตรวจเช็กสุขภาพครรภ์คือ การเช็กการดิ้นของเด็ก ซึ่งคุณแม่จะเริ่มรู้สึกถึ งการดิ้นของลูกตั้งแต่อายุครรภ์ 16-20 สัปดาห์เป็นต้นไป หากเริ่มรู้สึกว่าลูกไม่ดิ้ นควรรีบพบแพทย์ทันที นอกจากนี้ ท่านอนของคุณแม่ยังส่งผลต่ อการเต้นของหัวใจลูกในกรณีแม่ที่ มีอายุครรภ์แก่ ควรนอนตะแคงซ้าย เพื่อไม่ให้เกิดการกดทับเส้นเลื อดหลักที่จะส่งผลต่อเด็ก และที่อยากฝากไว้อย่างมากคือ การสูญเสียลูกไม่ใช่ความผิ ดของแม่ หากตัวอ่อนไม่สมบูรณ์ก็อาจเกิ ดภาวะแท้งได้เช่นกัน อยากให้ครอบครัวเข้าใจ เพราะแม่ที่ต้องสูญเสียลู กจากการแท้งตั้งแต่อายุครรภ์ 22 สัปดาห์ ล้วนต้องการการเยียวยาทั้งทางด้ านร่างกายและด้านจิตใจ ที่สำคัญคือต้องการการสนับสนุ นจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนด้ วยเช่นกัน
ปัจจุบัน theAsianparent Thailand มีผู้ใช้งานบนทุกแพลตฟอร์ม ประกอบด้วย เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และโซเชียลมีเดียกว่า 6 ล้านคน theAsianparent Thailand ตั้งเป้าหมายว่าภายใน 8 มีนาคม 2565 จะสามารถรวมรายชื่อผู้สนับสนุ นโครงการดังกล่าวครบ 200,000 รายชื่อ จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมลงชื่ อสนับสนุนโครงการผ่านเว็บไซต์ ของ change.org ได้ที่ลิงค์ https://chng.it/NdjF7kYx7p หรือที่หน้าเพจโครงการ Sidekicks ได้ที่ https://project-sidekicks.com/
อย่างรก็ตาม นางนิธินันท์ อัศวทร กรรมการบริษัท ทิคเคิลด์ มีเดีย จำกัด และผู้จัดการประจำประเทศไทยของ theAsianparent ยังคงเชื่อว่าวิธีที่ดีที่สุ
“เราตั้งเป้าจำนวนผู้สนับสนุ
ทั้งนี้ จากการสำรวจกลุ่มสมาชิกในคอมมู
57% ของสตรีมีครรภ์ ไม่ทราบว่าสามารถตรวจสอบการเคลื่
41% ของสตรีมีครรภ์ ไม่ทราบว่าควันบุหรี่มือสองเพิ่
33% ของสตรีมีครรภ์ ยังคงนอนหงายเมื่อย่างเข้าสู่
14% ของสตรีมีครรภ์ ยังคงดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างตั้
“ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่
นายธนิตพล ไชยนันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่
ด้านพญ. พรนิภา ศรีประเสริฐ กุมารแพทย์ ผู้พัฒนาเพจ เรื่องเด็กๆ by หมอแอม ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์
ปัจจุบัน theAsianparent Thailand มีผู้ใช้งานบนทุกแพลตฟอร์ม ประกอบด้วย เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และโซเชียลมีเดียกว่า 6 ล้านคน theAsianparent Thailand ตั้งเป้าหมายว่าภายใน 8 มีนาคม 2565 จะสามารถรวมรายชื่อผู้สนับสนุ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น