วันพฤหัสบดีที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ส่องแนวโน้มสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ผ่านข้อมูลทางสถิติ

 


ธันวาคม 2564

 

ในขณะที่หลายๆ ประเทศในภูมิภาคตะวันตกเริ่มกลับสู่สภาวะปกติอีกครั้ง เราเล็งเห็นถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะถัดไปของการระบาดใหญ่

 

เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้างในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนเป็นต้นมา?

หลายๆประเทศได้ดำเนินมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดตามแนวทางยุทธศาสตร์โควิดเป็นศูนย์ หรือ “Zero Covid” อย่างไรก็ดี เราจะเห็นได้ว่ากลยุทธ์ดังกล่าวอาจใช้ไม่ได้ผลกับไวรัสสายพันธุ์เดลต้าที่แพร่กระจายในเวลาอันรวดเร็วได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม ในทางตรงกันข้ามหลายๆประเทศเช่นอินเดีย แอฟริกาใต้ หรือสหรัฐอเมริกา ที่เคยมีการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ดั้งเดิมจนดูเหมือนจะกลายเป็นโรคประจำท้องถิ่นไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการติดเชื้อระลอกใหม่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนไม่ต่างกัน แต่สำหรับประเทศเหล่านี้ กลับดูเหมือนว่าสถานการณ์ได้เดินมาถึงจุดสิ้นสุดของการระบาดระลอกนี้แล้ว

ถึงแม้ว่าหลายๆประเทศได้เริ่มกลับมาเปิดประเทศและฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่การเดินทางเคลื่อนย้าย รวมถึงการรวมกลุ่มทางสังคงยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าช่วงก่อนเดือนมีนาคม 2563 เนื่องจากการเคลื่อนย้าย และการเข้าสังคมมีผลกระทบต่อต่อการแพร่กระจายของไวรัส

 

จากการสำรวจข้อมูลทางสถิติของเราเผยให้เห็นถึงความกลัวต่อโรคโควิด-19 ของผู้คนในสหรัฐอเมริกาในปัจจุบันที่เพิ่มขึ้นเป็น 55% จาก 35% ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่อการเปิดให้ดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามปกติอย่างแน่นอน เนื่องจากผู้คนยังคงหลีกเลี่ยงการเข้าสังคมอย่างเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ตาม ระดับความหวาดกลัวดังกล่าวน่าจะลดลงตามจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้

 

แนวโน้มอะไรบ้างในสหราชอาณาจักรที่อาจเกิดซ้ำในสหรัฐอเมริกาช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้?

สหราชอาณาจักรถือเป็นประเทศแรกที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสายพันธุ์เดลต้า จึงเป็นกรณีศึกษาให้แก่ประเทศอื่นๆ เกี่ยวกับการแพร่กระจายของไวรัสสายพันธุ์เดลต้าในช่วงที่ประเทศกำลังทำการฉีดวัคซีนให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง

 

ในสหราชอาณาจักรจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูงสุดในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ซึ่งผู้คนรวมตัวกันตามผับหรือบ้านเรือนเพื่อชมการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2563 ก่อนหน้านี้ในสกอตแลนด์ก็มีการพบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเช่นกันก่อนที่ทีมชาติสกอตแลนด์จะตกรอบแรกของการแข่งขัน

 

แม้ว่าการระบาดในระลอกนี้จะดูดีขึ้นแล้ว แต่ก็ได้สร้างความกังวลต่อนักสร้างแบบจำลองทางระบาดวิทยาและรัฐบาลไม่น้อย ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นคล้ายๆกันของทั้งสองประเทศก็ช่วยให้นักสร้างแบบจำลองทางระบาดวิทยาเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงของไวรัสมากขึ้น

 

เนื่องจากการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลซีซั่นใหม่และการอนุญาตให้เข้าชมในสนามเต็มจำนวนที่นั่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ทำให้คาดการณ์ได้ว่าอาจนำไปสู่การแพร่ระบาดและการเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่

 

เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว รัฐบาลของทั้งสองฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกจะกำหนดมาตรการใหม่ของโรคโควิด-19 หรือไม่?

เนื่องจากจำนวนยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐอเมริกากำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง จึงดูเหมือนว่าทางการกำลังจะเดินทางไปสู่มาตรการที่ผ่อนคลายลง

 

แม้ว่าอัตราการติดเชื้อจะแตกต่างกันไป แต่โดยภาพรวมแล้วเราคาดว่ายอดผู้ติดเชื้อใหม่ในสหรัฐอเมริกาจะเริ่มลดลงเนื่องจากจำนวนผู้ที่ติดเชื้อไปแล้วค่อนข้างมาก ประกอบการกับฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้น ทำให้การติดเชื้อเป็นไปได้ยากขึ้น เช่นเดียวกับ บราซิล ซึ่งมีจำนวนผู้ที่ติดเชื้อและเสียชีวิตไปแล้วเป็นจำนวนมาก ประกอบกับอัตราการฉีดวัคซีนที่สูงขึ้น ทำให้ผู้คนแทบจะกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติและมีมาตรการควบคุมเพียงเล็กน้อย 

 

ในปีที่แล้วมาตรการล็อกดาวน์ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะผู้คนยังไม่มีภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ด้วยจำนวนของประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนและภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติจากการติดเชื้อครั้งก่อนเป็นจำนวนมาก จึงคาดว่าไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ระบบสาธารณสุขจะรับมือไม่ไหวอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

 

ในช่วงฤดูหนาว เราอาจเห็นจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นและเกิดความตึงเครียดภายในโรงพยาบาล แต่การเข้าสังคมและการพบปะสังสรรค์ที่น้อยลงจากที่เราเห็นในปัจจุบันนี้จะช่วยชะลอจำนวนผู้ติดเชื้อลง

 

เราคาดว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศมีผลกระทบต่อการแพร่ระบาด เช่น กรณียอดผู้ติดเชื้อที่มีจำนวนลงลดอย่างมากในรัฐทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกาบางแห่ง อาทิ ลุยเซียนาและฟลอริดา แต่ในทางกลับกัน ยอดการติดเชื้อนั้นเริ่มเพิ่มขึ้นในรัฐเวสต์เวอร์จิเนียและเพนซิลเวเนีย

 

โรคโควิด-19 ถือเป็นไวรัสที่แพร่ระบาดในอากาศ และจะสามารถกระจายได้ดีที่สุดเมื่อผู้คนหายใจโดยใช้อากาศร่วมกัน ในฤดูร้อนทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกานั้นร้อนมากจนผู้คนเลือกที่จะสังสรรค์ภายในบ้านพร้อมกับการเปิดเครื่องปรับอากาศ ทำให้การแพร่กระจายในครัวเรือนเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น แต่ในฤดูที่มีอากาศเย็นลง ทำให้ผู้คนก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตกลางแจ้งได้มากขึ้น ในทางตรงกันข้าม รัฐทางตอนเหนือของสหรัฐอเมริกาจะเป็นพื้นที่ที่มีอุณหภูมิค่อนข้างหนาวเย็นมากจนทำให้ผู้คนหลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน แต่เลือกที่จะพบปะกันภายในบ้านมากขึ้น จึงพบจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นหรือลดลงช้ากว่าเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น

 


-- การฟื้นตัวหลังโรคระบาดได้เพิ่มอำนาจต่อรองของแรงงานอย่างไร?

 

ความเสี่ยงจากการกลายพันธุ์ของไวรัสเพิ่มเติมจากที่เราเห็นในสายพันธุ์อัลฟ่า และสายพันธุ์เดลต้าคืออะไร?

ความเสี่ยงดังกล่าวนั้นยากที่จะวัดออกมาเป็นตัวเลข แต่เชื้อจะกลายพันธุ์ต่อเมื่ออยู่ในร่างกายมนุษย์ จึงถือเป็นความเสี่ยงที่จะมีการติดเชื้อที่สูงในพื้นที่ที่มีประชากรจำนวนมาก เนื่องจากไวรัสมีโอกาสที่จะกลายพันธุ์มากขึ้น ดังนั้น เราจึงไม่สามารถทราบได้ว่าจะมีไวรัสสายพันธุ์อื่นที่เหนือกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้เกิดขึ้นหรือไม่ แต่ความเสี่ยงนั้นยังถือว่าอยู่ในระดับสูง

 

วัคซีนบูสเตอร์มีความจำเป็นในการทำให้สถานการณ์ของสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรกลับคืนสู่ปกติหรือไม่?

แม้ว่าจะมีหลักฐานบ่งบอกถึงปริมาณภูมิคุ้มกันที่ลดลงหลังได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว แต่ยังถือว่าเป็นแอนติบอดี "ด่านหน้า" ของภูมิคุ้มกัน

 

ในขณะเดียวกัน เนื่องจาก T-Cells และ B-Cells สามารถจดจำวิธีการสร้างแอนติบอดีเพื่อต่อสู้กับไวรัสได้ การรับวัคซีนจึงช่วยป้องกันการเสียชีวิตของผู้คนส่วนใหญ่ได้ แม้หลังจากการรับวัคซีนมาแล้วเป็นระยะเวลานานก็ตาม

 

หนึ่งในกรณีเปรียบเทียบที่ชัดเจน คือการป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าต้องฉีดวัคซีนครบ โดสเพื่อป้องกันการติดเชื้ออย่างเต็มที่ ในส่วนของสายพันธุ์เดลต้าดูเหมือนว่าจะมีความคล้ายคลึงกับไวรัสตับอักเสบบี โดยต้องการการฉีดวัคซีนให้ครบสามเข็มเพื่อให้การป้องยังคงอยู่ได้ในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติตามแนวทางนี้ทำให้เกิดปัญหาด้านจริยธรรม เนื่องจาก ในขณะนี้ประเทศที่กำลังพัฒนาส่วนใหญ่ยังมีอัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำและไม่เพียงพอ และมีข้อโต้แย้งว่าควรจัดสรรวัคซีนให้ผู้ที่ยังไม่เคยฉีดวัคซีนให้ครบ ก่อนที่จะใช้เป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันโดสที่สาม อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอาจจำเป็นต้องมอบวัคซีนเข็มที่สามให้แก่ประชาชนเพื่อเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด

 

ในแง่ของภาวะปกติก่อนเกิดโรคระบาด ในระยะยาวหลายประเทศอาจจำเป็นต้องเพิ่มความสามารถในการรับคนไข้ในโรงพยาบาล เพื่อเป็นการรับมือกับคลื่นฤดูหนาวของทั้งโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่พร้อมกัน

 

 

-- ความก้าวหน้าของโครงการวัคซีนในระบบเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่จะเป็นอย่างไร?

 

จะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศที่ดำเนินการตามแนวทางยุทธศาสตร์ Zero-Covid?

มีสองแนวทางในการหยุดยั้งการคุกคามจากไวรัสอย่างโรคโควิด-19 วิธีที่หนึ่งคือ การทำให้ไม่มียอดผู้ติดเชื้อหลงเหลืออยู่ภายในประเทศ และวิธีที่สองคือ การมีภูมิคุ้มกันที่เพียงพอที่จะควบคุมไวรัสจนไม่มีผลกระทบต่อระบบสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ในวิธีแรกจำเป็นที่จะต้องมีการปิดประเทศ หรือปิดพรมแดนเพื่อเป็นการป้องกันไวรัส และคงไม่ใช่กลยุทธ์ที่จะสามารถใช้ได้ตลอดไป ดังนั้น ยุทธศาสตร์สำหรับแก้ไขปัญหาจากการแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด-19 คือการมีภูมิคุ้มกัน มิเช่นนั้นประเทศดังกล่าว อาจจะถูกตัดขาดจากส่วนอื่นๆ ของโลกไปตลอดกาล

 

ประเทศที่ดำเนินการตามแนวทางยุทธศาสตร์ Zero Covid ถือว่ากำลังตกอยู่ในช่วงเวลาที่ลำบากทั้งในด้านวัฒนธรรมและการบริหารจัดการ เนื่องจากประเทศเหล่านี้พยายามที่จะเปิดประเทศอีกครั้ง ในขณะที่ยังไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ตามธรรมชาติและจะต้องพึ่งพาความสามารถของวัคซีนเพียงอย่างเดียว

 

 

Important Information

This is prepared by Schroders for information and general circulation only and the opinions expressed are subject to change without notice. It does not constitute an offer or solicitation to deal in units of any Schroders fund (the “Fund”) and does not have regard to the specific investment objectives, financial situation or the particular needs of any specific person who may receive this. Investors may wish to seek advice from a financial adviser before purchasing units of any Fund. In the event that the investor chooses not to seek advice from a financial adviser, he should consider whether the Fund in question is suitable for him. Past performance of the Fund or the manager, and any economic and market trends or forecast, are not necessarily indicative of the future or likely performance of the Fund or the manager. The value of units in the Fund, and the income accruing to the units, if any, from the Fund, may fall as well as rise. Investors should read the prospectus, available from Schroder Investment Management (Singapore) Ltd or its distributors, before deciding to subscribe for or purchase units in any Fund. Funds may carry a sales charge of up to 5%.

 

Schroder Investment Management (Singapore) Limited

138 Market Street #23-01 CapitaGreen Singapore 048946

Co. Reg. No. 199201080H

Telephone +65 6800 7000 Fax +65 6536 6626

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ที ลีสซิ่ง จับมือ ศรีประจันต์วัฒนยนต์ จัดอบรม "ขับขี่ปลอดภัย ร่วมใจลดมลพิษ" โรงเรียนสงวนหญิง จ.สุพรรณบุรี

  บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด  ผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้ อรถจักรยานยนต์  ในเครือ เอ็ม บี เค  เล็งเห็นความสำคัญของการขับขี่ รถบนท้องถนนอย่างปลอ...