ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและโลกดิจิทัลเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น ได้ส่งผลกระทบและสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับสังคมอย่างเป็นวงกว้าง ดังจะเห็นได้จากการที่เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านโซเชียลมีเดีย อย่าง Facebook ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัท Facebook เป็น Meta พร้อมการประกาศวิสัยทัศน์เข้าสู่ยุค Metaverse อย่างเต็มตัวซึ่งสร้างแรงกระเพื่อมให้กับสังคม และภาคธุรกิจต่างๆ ได้ขยับตัว เพื่อตอบรับกระแสแห่งความเปลี่ยนแปลงนี้เช่นกัน
ขณะเดียวกันนั้น เอ็ตด้า (ETDA) หรือ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) ในฐานะที่เป็นหน่วยงานส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้ตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมโลกดิจิทัลที่เกิดขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมสังคมไทยให้เท่าทันยุคสมัยใหม่ ได้จัดงาน “ETDA สู่ปีที่ 11 ก้าวสำคัญ ยกระดับชีวิตคนไทยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล” เปิดผลงานการขับเคลื่อนธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศในรอบปี 2564 พร้อมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ที่เน้นความร่วมมือกับทุกภาคส่วน รวมถึงการจัดการเสวนา “ทิศทางการขับเคลื่อนธุรกรรมออนไลน์ไทย ให้ไปไกลกว่าที่คิด” โดยคณะกรรมการกำกับ ETDA เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเรื่องของ Digital Transformation ของสังคมไทยใน 4 มิติ ทั้งด้านสังคม ภาคธุรกิจ ภาครัฐ และ ETDA ในฐานะหน่วยงานที่มีส่วนการขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้
● ยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยอนาคตศาสตร์ (Foresight)
ดร.การดี เลียวไพโรจน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ และสังคม กล่าวว่า ปรากฏการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงต่อวิถีชีวิต และความเป็นอยู่ของคนเราไปอย่างสิ้นเชิง โดยจากสถิติผลการสำรวจพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทยจาก ETDA พบว่า คนไทยใช้ชีวิตอยู่บนโลกออนไลน์มากขึ้น ไม่เพียงแต่เจเนเรชันผู้ใหญ่หรือวัยทำงาน แต่รวมไปถึงเจเนอเรชันเด็กที่ต้องใช้เวลากับออนไลน์มากยิ่งขึ้น ทั้งเรื่องของการทำงาน การเรียน และความบันเทิง รวมถึงการสำรวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประเทศไทย ของ ETDA ที่พบว่า ในปี 63 ที่ผ่านมามีมูลค่า 3.7 ล้านล้านบาทแม้ลดลงจากปีก่อนหน้า เพราะหลายอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบต้องหยุดชะงักจากโควิด-19 แต่บางอุตสาหกรรมก็เติบโตเพิ่มขึ้นเช่นกัน และส่งผลต่อมูลค่ารวมของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ เช่น การเพิ่มขึ้นในกลุ่มของประกันภัย รวมไปถึงแพลตฟอร์ม e-Tailer (กลุ่มผู้ค้าปลีกทางออนไลน์) ในขณะที่ภาคท่องเที่ยวมีมูลค่ารวมลดลงอย่างเห็นได้ชัด สิ่งนี้ได้สะท้อนถึงพฤติกรรมของคนในสังคม และนำไปสู่การปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจในภาคธุรกิจในการ transform กระบวนการดำเนินงานมากขึ้น สามารถเห็นได้จากรูปแบบการทำงานของคนทั้งในภาครัฐและเอกชน ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่าชีวิตของเราจะอยู่บนโลกออนไลน์ และใช้ชีวิตอยู่บนธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน ปัจจุบัน ETDA ได้ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ โดยได้นำเรื่องของ Foresight หรือ อนาคตศาสตร์ เข้ามาบูรณาการกับพันธกิจหลักของ ETDA เพื่อที่จะมองหาปัจจัยและสัญญาณอะไรที่จะมาเปลี่ยนแปลงสังคม รวมถึงเทรนด์ของเทคโนโลยีที่สำคัญ เช่น เทรนด์ในการเข้าสู่ Metaverse ที่เป็นการใช้ชีวิตในโลกเสมือนนั้น เราจะต้องมีการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของเราทางดิจิทัล หรือที่เรียกว่า Digital Identity (Digital ID) ซึ่งเป็นทิศทางที่ ETDA ได้เล็งเห็นและกำลังดำเนินการเตรียมความพร้อมในมิติต่างๆ เพื่อตอบสนองกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
“Digital ID จะเป็นต้นทางที่จะพาเราไปสู่ Digital Economy
ถ้าเราไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าตัวตนของเราคือใครในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล ก็จะเป็นปัญหาในเรื่องของความโปร่งใส ความมั่นคงปลอดภัย และอื่นๆ อีกมากมาย”
ดร.การดี เลียวไพโรจน์
● 3 กับดักของ Digital Transformation ในภาคธุรกิจ
นายธีรนันท์ ศรีหงส์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ร่วมเสนอมุมมองของภาคธุรกิจว่า เรื่อง Digital Transformation นั้นนับเป็นเรื่องที่ใหญ่มากในสังคมไทย เพราะจะเปลี่ยนแปลงเฉพาะผู้บริโภคไม่ได้ ภาคธุรกิจจะต้องเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยเพื่อก้าวให้ทัน ทั้งระหว่างภาคธุรกิจกับธุรกิจเอง หรือ ภาคธุรกิจกับภาครัฐ ที่ต้องมีการสร้างการเปลี่ยนแปลงไปพร้อมๆ กัน ทั้งนี้ในปัจจุบันปัญหาและอุปสรรคของ Digital Transformation สำหรับภาคธุรกิจนั้นประกอบไปด้วยหลายปัจจัย ประการแรก คือ ประเทศไทยยังขาดองค์ความรู้และความเข้าใจเรื่องเทคโนโลยีดิจิทัล จึงทำให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างยากลำบาก ประการที่สอง คือระบบนิเวศดิจิทัล หรือ Digital Ecosystem ของประเทศยังขาดความพร้อมในหลายภาคส่วน ส่งผลให้การเปลี่ยนแปลงจะต้องใช้ต้นทุนสูง เนื่องจากยังขาดมาตรฐานและการเชื่อมโยงระบบต่างๆ ระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจ ประการที่สาม สังคมดิจิทัลในประเทศไทย ยังขาดคนที่มีความรู้ ตั้งแต่ระดับปฏิบัติการ จนถึงระดับการบริหารจัดการ ซึ่งนับเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล เพราะฉะนั้นแล้ว ETDA ในฐานะองค์กร ที่มีส่วนสำคัญในการส่งเสริม สนับสนุน ให้ทุกภาคส่วนเกิดการเปลี่ยนแปลงนั้นจะต้องเร่งวางมาตรฐานให้เกิดมาตรฐานกลาง รวมถึงกฎระเบียบต่างๆ เพื่อสร้างให้เกิด Ecosystem ที่เหมาะสมต่อ Digital Transformation ได้จริง และมี Action plan ที่ชัดเจน เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการดำเนินงาน
“ETDA เป็นหน่วยงานภาครัฐ มีบทบาทในการพัฒนา Digital Capability ของตนเอง เพื่อให้กระบวนการภายในคล่องตัวมากขึ้น
และสามารถเชื่อมโยงระบบของภาครัฐเองเข้ากับภาคเอกชนได้ดีขึ้น”
นายธีรนันท์ ศรีหงส์
● รัฐต้องเร่งสร้างมาตรฐานให้เกิดความเชื่อมั่น
ด้าน นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกรรมการโดยตำแหน่งของคณะกรรมการกำกับ ETDA ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า ภาครัฐในฐานะเป็นผู้กำกับดูแล กำหนดกฏเกณฑ์ และระเบียบต่างๆ นั้นมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการเปลี่ยนแปลงไปสู่โลกของการทำธุรกรรมออนไลน์ หรือ Digital Transformation เนื่องจากความต้องการของประชาชนที่สอดรับกับเทรนด์ในสังคมโลก รวมถึงการปรับตัวของภาคเอกชน เพื่อที่จะเอื้อต่อการส่งเสริมให้เกิดธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการดังกล่าว ภาครัฐเองต้องทำหน้าที่ทำความเข้าใจบริบท และรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น และนำมากำหนดเป็นมาตรฐาน กฎระเบียบ ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงนั้น ในขณะเดียวกัน ภาครัฐยังคงต้องกำกับดูแลเรื่องของความถูกต้อง ด้วยการสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้น เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดในการใช้หรือการทำธุรกรรมทางออนไลน์ คือ เรื่องของความเชื่อมั่นซึ่งจะเกิดขึ้นได้จากผู้ให้บริการหรือผู้ประกอบการ มีมาตรฐานหรือมีความน่าเชื่อถือที่เพียงพอ ผู้ใช้บริการก็จะเกิดความเชื่อมั่น ไม่เกิดความขัดแย้ง ไม่เกิดการฉ้อฉล ดังนั้นจึงนับเป็นบทบาทสำคัญของภาครัฐที่ต้องเร่งทำให้เกิดความเชื่อมั่นทั้งการกำหนดมาตรฐาน และกำหนดเรื่องของการดูแลผู้ให้บริการว่ามีความรับผิดชอบที่เพียงพอ
“หลักการของ Digital Economy คือ Share Economy สิ่งนี้ทำให้เห็นว่าการ share ข้อมูลกันระหว่างหน่วยงานจะเป็นการแสดงถึงความชัดเจน ความโปร่งใส (Governance) และความรวดเร็วในการทำงานของรัฐ ที่หมายรวมถึงการให้บริการของภาครัฐด้วย” นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย
● สร้าง Ecosystem สู่การผลักดันธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ให้ก้าวไกล
นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ประธานคณะกรรมการกำกับ ETDA เปิดเผยว่า โลกดิจิทัลในปัจจุบันนั้นเติบโตอย่างรวดเร็วและไร้ขีดจำกัด การจะเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้เท่าทันและอยู่บนโลกที่ต้องใช้ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างเชื่อมั่นได้อย่างไรนั้น ETDA ในฐานะหน่วยงานภาครัฐจึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งที่จะผลักดันและส่งเสริม ระบบนิเวศดิจิทัล หรือ Digital Ecosystem ที่ดีให้เกิดขึ้น เนื่องจาก ETDA มีบทบาทตามกฎหมายในการกำกับดูแล เสนอแนะกฎระเบียบ และแนวทางต่างๆ เพื่อให้ทุกภาคส่วนเกิดความเชื่อมั่นในการใช้ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ ETDA ยังมุ่งเน้นในการบูรณาการและเชื่อมโยงร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ (Co-Creation) ที่เป็นผู้กำกับดูแลเช่นเดียวกัน เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยการทำงานเชื่อมโยงลักษณะเช่นนี้จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้งานและก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ดี เพราะฉะนั้น ETDA ในฐานะ Regulator จะต้องเสนอแนะมาตรฐาน และเชื่อมโยงกรอบมาตรฐานนี้กับหน่วยงานอื่นๆ เพื่อทำให้เกิดความเชื่อมั่นของคนที่จะทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างระบบนิเวศที่ดีต่อไปในอนาคต
“การที่ ETDA ทำงานร่วมกับหน่วยงาน Regulator อื่นๆ เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ ร่วมกำหนดมาตรฐานที่ดี
จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนได้รับประโยชน์
ในการก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัลได้อย่างเชื่อมั่นและมีประสิทธิภาพ”
นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ
อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อนการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ของประเทศไทยนั้นจะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาคประชาสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสอดรับกับกระแสโลกยุคดิจิทัล ภาคเอกชนที่ต้องเร่งพัฒนาบริการมาให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มีความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนภาครัฐที่มีทั้งในบทบาทการส่งเสริม สนับสนุน การกำกับดูแล ตลอดจนการเสนอแนะมาตรฐานต่างๆ รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ใช้บริการ เพื่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อ Digital Transformation นำไปสู่การยกระดับสังคมไทยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างยั่งยืน
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.etda.or.th เฟซบุ๊กแฟนเพจ https://www.facebook.com/ETDA.Thailand รวมทั้งโซเชียลมีเดีย ETDA Thailand ทุกช่องทาง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น