มะเร็งปอด รู้ก่อนอันตราย รักษาได้ทัน
จากข้อมูลทางสถิติของ WHO พบว่า โรคมะเร็งปอดเป็นมะเร็งที่พบได้
บ่อยที่สุดเทียบเท่ากับมะเร็ งเต้านม และมีอัตราการเสียชีวิตเป็นอั นดับหนึ่งในโรคมะเร็งทั้งหมด เนื่องมาจากสาเหตุการตรวจพบที่ ช้า จึงทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่รู้ว่ าเป็นมะเร็งปอดในระยะที่ 4 หรือแพร่ไปยังอวัยวะอื่นแล้ว ถือเป็นอีกโรคที่มีความอั นตรายเป็นอย่างยิ่ง แต่หากได้รับการตรวจพบในระยะเริ่ มต้นจะทำให้มีโอกาสในการรั กษาหายขาดได้สูงขึ้น นายแพทย์ ผดุงเกียรติ ตั้งพิรุฬห์ธรรม ศัลยศาสตร์ทรวงอก ด้านผ่าตัดส่องกล้องปอด โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ กล่าวว่า การศึกษาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุ
บันเกี่ยวกับการคัดกรองมะเร็ งปอด ทำให้รู้ว่าการใช้เสมหะหาเซลล์ มะเร็ง (sputum cytology) และ เอ็กซเรย์ปอด (chest X-Ray) ไม่ได้ช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็ งปอดมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้นได้ เนื่องจากการเอกซเรย์ปอดนั้นไม่ สามารถค้นพบมะเร็งปอดในระยะเริ่ มต้นที่ยังไม่เป็นก้อนทึบ (subsolid nodule/ground glass nodule) ได้ เพราะความละเอียดไม่เพียงพอ ดังนั้น การตรวจเอกซเรย์ปอดแล้วไม่เจอจุ ดในปอด (lung nodule) แพทย์ก็ยังไม่สามารถยืนยันชั ดเจนได้ว่าผู้ป่วยไม่เป็นมะเร็ งปอด ในทางกลับกันอาจทำให้ผู้รั บการตรวจเข้าใจผิดไปว่าตนเองไม่ มีโรคร้ายนี้ ก่อให้เกิดผลเสียในภายหลังได้ ซึ่งต่างจากการเอกซเรย์คอมพิ วเตอร์ปอดโดยใช้รังสีต่ำ (Low-dose CT chest) ที่เป็นการตรวจเอกซเรย์คอมพิ วเตอร์บริเวณทรวงอกด้วยปริมาณรั งสีต่ำให้ภาพ 3 มิติที่ให้รายละเอียดได้ดีในบริ เวณปอด แม้ใช้ปริมาณรังสีไม่สู งมากและไม่ต้องฉีดสารทึบแสงก็ สามารถตรวจพบจุดเล็ก ๆ หรือก้อนในปอดได้ ทำให้ตรวจพบมะเร็งในระยะแรกได้ ชัดเจนกว่าการ Chest X-ray ตรวจง่าย ใช้เวลาไม่นาน มีผลข้างเคียงน้อย สามารถลดการเสียชีวิตของผู้ป่ วยได้มากถึง 20% ทำให้ปัจจุบันสมาคมแพทย์ทั่ วโลกเช่น NCCN (National Comprehensive Cancer Network) ASCO (American Society of Clinical Oncology) และ ACCP (American College of Chest Physicians) แนะนำให้ตรวจคัดกรองมะเร็ งปอดในประชากรที่มีความเสี่ยงสู ง ด้วยวิธีนี้ โดยกลุ่มประชากรที่มีความเสี่
ยงสูง (high risk group) จาก National Lung Screening Trial (NLST) ของประเทศสหรัฐอเมริกา มีอายุ 50 - 80 ปี มีการสูบบุหรี่เฉลี่ยวันละครึ่ งซองมานานกว่า 30 ปี หรือ 1 ซองมานานกว่า 20 ปี และปัจจุบันยังสูบอยู่ หรือเลิกสูบบุหรี่ไม่ถึง 15 ปี มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็ ง นอกเหนือจากการสูบบุหรี่แล้ วการวิเคราะห์ข้อมูลจากงานวิจั ยดังกล่าวพบว่ามีตัวแปรอื่น ๆ ร่วมด้วย ได้แก่ อายุ เพศ เชื้อชาติ ประวัติมะเร็งปอดของครอบครัว ประวัติมะเร็งอื่น ๆ ของผู้คัดกรอง รวมถึง ประวัติการเป็นถุงลมโป่งพอง ในประชากรที่มีความเสี่ ยงปานกลาง (moderate risk group) คือ กำลังสูบบุหรี่หรือเคยสูบบุหรี่ ระยะเวลาเฉลี่ยมากกว่า 20 ปีและมากกว่า 1 ซองต่อวัน (20 pack-year) หรือมีความเสี่ยงอื่น ๆ เช่น มีบุคคลอื่นในครอบครัวสูบ (second-hand smoker) อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นปัจจั ยเสี่ยง เช่น ธูป ฝุ่นละอองควัน เป็นต้น ในปัจจุบันยังไม่มีข้อแนะนำให้ คัดกรองด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ปอดโดยใช้รังสีต่ำ แต่กำลังมีการศึกษาในประชากรกลุ่ มนี้ ซึ่งทำให้ข้อแนะนำอาจเปลี่ ยนแปลงได้ในอนาคต นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ทางสภาพแวดล้อมที่ส่งผลให้มี
ความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปอด เช่น ธูป (Incense) ซึ่งควันจากธูปนั้นจะแตกต่างกั บบุหรี่ โดยควันธูปจะเป็นผลกระทบโดยอ้ อมคล้ายกับผู้ที่ได้รับบุหรี่มื อสอง (second-hand smoker) ทำให้การวัดปริมาณการได้รั บทำได้ค่อนข้างยาก อย่างไรก็ตามมีการศึกษาในสัตว์ ทดลองหรือการเก็บข้อมูลย้อนหลั งในมนุษย์พบว่าการได้รับควันธู ปเป็นระยะเวลานานมีผลกระทบกั บเนื้อเยื่อปอดและอาจจะส่ งผลกระทบต่อการเปลี่ยนเป็นมะเร็ งในอนาคตได้ ควรหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีควั นจากธูปหนาแน่นหรือใส่หน้ากากที่ กรองอนุภาคขนาดเล็กได้ ฝุ่นละอองควัน 2.5 (PM 2.5) ฝุ่นละอองควัน (Particulate Matter หรือ PM) 2.5 คือ สสารที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน เกิดจาก ควันรถ การเผาไหม้ การก่อสร้าง ฝุ่นข้ามแดน เป็นต้น สารเหล่านี้เมื่อเข้
าไปในหลอดลมของสิ่งมีชีวิตจะก่ อให้เกิดการระคายเคือง ตามด้วยการอักเสบของเนื้อเยื่ อปอด ส่งผลกระทบต่อคนที่มีโรคปอดอั กเสบ โรคหัวใจขาดเลือด รวมทั้งโรคมะเร็งปอดได้ ดังนั้นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสู งในช่วงเวลาที่มี PM 2.5 มากกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ควรหลีกเลี่ยงการออกนอกอาคาร ใช้เครื่องฟอกอากาศ หรือหากจำเป็นต้ องออกนอกอาคารควรใส่หน้ากากป้ องกันฝุ่นละอองควัน บุหรี่ไฟฟ้า (Electronic cigarettes, E-cigarettes) มีส่วนประกอบหลักคือ นิโคติน และผสมด้วยตัวทำละลาย (Propylene Glycol) กลิ่น และ รสต่าง ๆ มีจุดประสงค์คือลดการใช้บุหรี่
ที่มีส่วนผสมของสารพิษ คือ สารหนู (Arsenic) ตะกั่ว (lead) และอื่น ๆ การศึกษาพบว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้ าก่อให้เกิดการอักเสบกับทางเดิ นหายใจได้ ถึงแม้เมื่อเทียบกับบุหรี่แล้ วน้อยกว่ามาก อย่างไรก็ตามมีความกังวลสำหรั บการที่มีผลเสียน้อยกว่าบุหรี่ ของบุหรี่ไฟฟ้าจะทำให้ประชากรวั ยรุ่นตัดสินใจลองใช้ได้ง่ายขึ้ นและนำไปสู่การใช้สารเสพติดอื่ นในอนาคต
การตรวจพบมะเร็งปอดระยะเริ่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น