กรุงเทพฯ 29 ตุลาคม 2564 – รศ. ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ชี้ให้เห็นถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงานสายอาชีพหรืออาชีวศึกษา ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการอย่างมาก คณะกรรมการปฏิรูปฯ ด้านการศึกษา จึงได้กำหนดแนวทางการพัฒนาระบบอาชีวศึกษา หรือ บิ๊กร็อคที่ 4 โดยแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ 1.ระดับต้นน้ำ 2.ระดับกลางน้ำ 3.ระดับปลายน้ำ โดยเฉพาะการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบเน้นฝึกปฏิบัติ เพื่อผลักดันการผลิตและพัฒนากำลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีมากขึ้นจากในอดีต แต่ยังพบข้อจำกัดอยู่มาก จึงควรเร่งผลักดันให้สถานศึกษาอาชีวศึกษาทุกแห่งสามารถจัดการเรียนการสอนระบบดังกล่าวได้อย่างเต็มรูปแบบ รวมทั้งหาเครื่องมือสร้างแรงจูงใจผู้เรียนให้สนใจศึกษาต่อในสายอาชีพมากขึ้น เนื่องจากตัวแปรที่ทำให้กลุ่มสายอาชีพมีสัดส่วนน้อยกว่าผู้ที่เรียนจบระดับอุดมศึกษา ส่วนหนึ่งมาจากทัศนคติและค่านิยมของสังคม
รศ. ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา เปิดเผยว่า ประชากรคือทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ประเทศไทยจำเป็นต้องเร่งผลิตแรงงานที่มีทักษะและสมรรถนะตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน เพื่อรองรับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และเพื่อสนับสนุนการผลิตกำลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการดังกล่าว คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ได้จัดทำแผนปฏิรูประบบการศึกษาไทยเชิงนโยบาย เรื่อง การจัดอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีและระบบอื่นๆ ที่เน้นการฝึกปฏิบัติอย่างเต็มรูปแบบ นำไปสู่การจ้างงานและการสร้างงาน (Big rock 4) ด้วยการกำหนดกรอบการพัฒนาระบบการอาชีวศึกษาใน 3 ระดับ ดังนี้
· ระดับต้นน้ำ ได้แก่ ความพร้อมของสถาบันการศึกษาในการพัฒนาหลักสูตรร่วมกับเจ้าของอาชีพ เพื่อกำหนดแนวทางการจัดการเรียนการสอน ทั้งภาคทฤษฎีและการฝึกปฏิบัติ ควบคู่กับการฝึกงานในสถานประกอบการ อีกทั้งความพร้อมของครูผู้สอนในการพัฒนาขีดความสามารถเพื่อถ่ายทอดวิชาความรู้ ทั้งด้านวิชาการและการฝึกทักษะ รวมถึงความพร้อมด้านปัจจัยหรือสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อสนับสนุนการเรียนการสอน
· ระดับกลางน้ำ ได้แก่ กลไกการมีส่วนร่วมระหว่างสถานศึกษาและสถานประกอบการ องค์กรวิชาชีพ องค์กรธุรกิจต่างๆ เช่น มาตรการทางภาษี การลดข้อจำกัดในด้านกฎหมาย เพื่อส่งเสริมการจัดอาชีวศึกษาทวิภาคีให้มีความคล่องตัว และสนับสนุนให้ผู้เรียนมีประสบการณ์การฝึกงานเพื่อสร้างความพร้อมในการทำงานจริง
· ระดับปลายน้ำ คือ การเพิ่มระดับคุณภาพของผู้สำเร็จอาชีวศึกษาทวิภาคี ที่นำไปสู่การสะท้อนผลต่อกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ได้แก่ ผู้เรียนอาชีวศึกษามีความพร้อมและความสามารถในการเข้าสู่อาชีพ นักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นมีแรงจูงใจในการเรียนอาชีวศึกษามากขึ้น จากปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าตอบแทนหรือรายได้ที่เพิ่มขึ้น โอกาสในการเลื่อนขั้นในสายงาน และการหมุนเวียนการทำงานในสถานประกอบการเพื่อเพิ่มประสบการณ์ เป็นต้น
ทั้งนี้ การจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาในรูปแบบอาชีวศึกษาทวิภาคี จะทำให้ผู้เรียนอาชีวศึกษามีสมรรถนะด้านอาชีพจากการฝึกงานหรือฝึกอาชีพในสถานประกอบการนอกเหนือจากการเรียนภาคทฤษฎีในห้องเรียน ช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาความสามารถในการสื่อสาร ฝึกปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ทักษะฝีมือ ฯลฯ และมีโอกาสได้งานทำสูงเมื่อจบการศึกษา นับเป็นรูปแบบที่สถานศึกษาอาชีวศึกษาให้ความสำคัญแต่ยังมีข้อจำกัดอยู่มาก สำหรับประเทศไทย พบว่ามีการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีแล้วร้อยละ 30 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากในอดีต จึงควรส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการฝึกปฏิบัติอย่างเข้มข้นให้มีคุณภาพและขยายวงกว้างในสถานศึกษาอาชีวศึกษาทุกแห่ง ให้สามารถจัดการเรียนการสอนระบบดังกล่าวได้อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการอาศัยความร่วมมือจากภาคต่างๆ รวมทั้งการสร้างแรงจูงใจต่อผู้เรียนเพื่อให้เห็นความสำคัญของกลุ่มสายอาชีพมากยิ่งขึ้นต่อไป
รศ. ดร.สมภพ กล่าวต่อว่า สาเหตุที่จำนวนผู้เรียนที่สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ทั่วประเทศ และเข้าศึกษาต่อในสายอาชีวศึกษา ยังคงมีน้อยกว่าผู้เรียนที่ศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสนใจของตัวผู้เรียนเพียงอย่างเดียว แต่ยังประกอบไปด้วยหลายตัวแปร ทั้งฐานะทางเศรษฐกิจของครอบครัว ลู่ทางการหางานในอนาคต รวมไปถึงทัศนคติต่อหลักสูตร และค่านิยมของสังคมที่มองว่าเด็กเก่งต้องจบการศึกษาระดับปริญญาตรี
แม้ข้อมูลจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จะชี้ให้เห็นว่าอัตราการว่างงานของไทยในไตรมาสที่สองของปีนี้คิดเป็นร้อยละ 1.89 หรือประมาณ 7.3 แสนคน ซึ่งลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 1.96 หรือประมาณ 7.6 แสนคนในไตรมาสแรก แต่ในขณะเดียวกันกลับพบว่า หลายอุตสาหกรรมยังคงขาดแคลนคนทำงาน โดยเฉพาะแรงงานที่มีทักษะฝีมือสอดคล้องกับความต้องการของนายจ้างและตอบโจทย์ในภาคธุรกิจนั้นๆ กลุ่มสายอาชีพหรืออาชีวศึกษาจึงเป็นที่ต้องการอย่างมากในปัจจุบัน และสำคัญไม่น้อยไปกว่าผู้ที่เรียนจบระดับอุดมศึกษา รศ. ดร.สมภพ กล่าวทิ้งท้าย
ติดตามความเคลื่อนไหวกิจกรรม ของ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ได้ใน 4 ช่องทาง ดังนี้ เว็บไซต์ https://www.thaiedreform2022.org เฟซบุ๊กแฟนเพจ https://web.facebook.com/Thaiedreform2022 ยูทูบช่อง ‘thaiedreform2022’ และทวิตเตอร์ https://twitter.com/Thaiedreform22
###
#คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา #สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ #NESDC #thaiedreform #กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา #EEF #JCCOTH
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น