ในช่วงการระบาดของเชื้อ COVID-19 ทำให้หลายคนเป็นกังวลว่
าตนเองจะติดเชื้อหรือไม่ หรือผู้ป่วยที่ติดเชื้อแล้ว ก็อาจจะกังวลใจว่ าอาการของตนเองนั้นอยู่ในระดั บใด จะแพร่เชื้อสู่คนรอบข้างหรือไม่ จนเกิดภาวะเครียดและส่งผลต่ ออาการป่วยได้ รวมถึงผู้ป่วยที่เข้าพักรักษาตั วอยู่ในโรงพยาบาลแล้ว อาจมีความเครียดเกิดขึ้ นจากความเป็นห่วงคนในครอบครัว เป็นห่วงงานที่ต้องรับผิ ดชอบจนลืมดูแลสุขภาพกายและสุ ขภาพจิตใจของตนเอง การสังเกตอาการทางกายและจิตใจจึ งเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสุขภาพจิตที่ดีจะส่งผลถึ งสุขภาพกายที่ดีด้วยเช่นเดียวกั น พญ. อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้อำนวยการศูนย์จิตรักษ์ โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า ในขณะนี้หลายคนมีความกังวลเรื่
องของการติดเชื้อและเริ่มตระหนั กเรื่องการดูแลสุขภาพจิตใจสำหรั บสถานการณ์ COVID-19 ที่การดำเนินชีวิตมีการเปลี่ ยนแปลงไป กลุ่มที่น่าเป็นห่วงที่สุดคื อกลุ่มผู้ติดเชื้อที่กำลังรั กษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล อยู่ระหว่างรอเตี ยงในโรงพยาบาลหรือโรงพยาบาลสนาม ที่จะเกิดความวิตกกังวลในส่ วนของอาการป่วยรวมถึงเป็นห่ วงครอบครัว งาน ว่าจะเป็นการผลักภาระให้กั บคนรอบข้าง จนเกิดอาการเครียดและรู้สึกไม่ สบายใจ ทำให้สุขภาพจิตใจแย่ลง รวมทั้งสุขภาพกายที่อาจทำให้ ปอดทำงานหนักขึ้นเพราะเมื่อมี ความกังวลเรื่องต่าง ๆ แล้ว ทำให้มีการพูดคุยที่มากขึ้ นขณะที่ป่วย อาทิการสอบถามเรื่องการรักษากั บหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบ่อย ๆ การติดต่อสื่อสารผ่านโทรศัพท์มื อถือเพื่อสั่งงาน จะทำให้ปอดทำงานหนักจนสุ ขภาพกายอาจจะทรุดลงได้ เพราะสุขภาพใจก็เหมือนกับสุ ขภาพกาย ที่ต้องการการดูแลและใส่ใจอย่ างเท่าเทียมกัน เพื่อต่อสู้กับโรคร้าย สิ่งที่ควรปฎิบัติข้อแรกคือ การพักปอด หากมีการติดเชื้อ COVID-19 ผลที่ตามมาคือ ปอดจะทำงานหนัก เพื่อแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนให้ เพียงพอ ผู้ป่วยจึงควรลดการพูดคุยหรื อการใช้โทรศัพท์มือถือเท่าที่ จำเป็น เพื่อเป็นการพักปอด เพื่อให้ปอดฟื้นตัวและหายป่ วยได้เร็วขึ้น ข้อที่สอง คือ การพักใจ ต้องมีสติรู้ตัว อย่าวิตกกังวลอยู่ในอาการของโรค จนทำให้เสียทั้งงานและเสียทั้ งสุขภาพ ให้เราตั้งสติ ปล่อยวางแล้วเริ่ มหาแนวทางการแก้ไขจะดีกว่าจมอยู่ ในเรื่องเดิมนาน ๆ
ทั้งนี้ คุณมุจิรารัศมิ์ ภัทรจริยากุล ครูสอนโยคะ ศูนย์จิตรักษ์ โรงพยาบาลกรุงเทพ แนะนำการบริหารปอดให้แข็
งแรงและฟื้นตัวกลับมาโดยเร็ว สามารถทำได้เป็นประจำสม่ำเสมอด้ วย 5 ท่าบริหารปอดที่สามารถทำเองได้ ทั้งผู้ที่ติดเชื้อและไม่ติดเชื้ อเพื่อเป็นการฟื้นฟูและบริ หารปอดให้แข็งแรงอยู่เสมอ 1.ท่าจับท้อง นั่งให้ลำตัวตรง นำมือจับที่ซี่โครงด้านข้าง ปลายนิ้วมือเลื่อนมาแตะบริ
เวณหน้าท้อง หายใจเข้าลึก ๆ ด้วยจมูก จะรู้สึกถึงการขยายของซี่ โครงและหน้าท้อง หายใจออกทางจมูกช้า ๆ ให้รู้สึกถึงท้องที่ยุบลงช้า ๆ ไม่ควรรีบ พยายามหายใจเข้าลึก ๆ ให้มีความยาวเท่ากั บลมหายใจออกอย่างสม่ำเสมอ ควบคุมลมหายใจและจังหวะให้คงที่ อย่างน้อย 10 -15 ครั้ง 2.ท่ายืดแขน นั่งลำตัวตรง ผสานนิ้วมือทั้ง 10 นิ้วเข้าด้วยกัน นำมาไว้ด้านหน้า หายใจเข้าให้ลึกเพื่อนำออกซิ
เจนเข้าให้สุดแล้ว จึงเริ่มพลิกผ่ามือยกขึ้นเหนื อศีรษะ หายใจออกให้แขม่วท้องช้า ๆ ไล่ลมออกจากท้องจนหมด ลดแขนและผ่อนคลายไหล่ลงไปทางด้ านข้าง 3.ท่างู เริ่มจากค่อย ๆ นอนคว่ำตัวลงกับพื้น ขาเหยียดตรงไปทางด้านหลัง วางมือให้อยู่บริเวณเดียวกับหั
วไหล่หรือเอว เมื่อหายใจเข้าให้ใช้มือดันพื้ นขึ้นพร้อมยกศีรษะ หน้าอก และหน้าท้อง หายใจออกค่อย ๆ งอศอก วางหน้าท้อง หน้าอก และศีรษะลงไปกับพื้น เมื่อทำเสร็จแล้วก่อนจะลุกขึ้ นให้นำแขนมาซ้อนกันบริเวณข้ างหน้าลดศีรษะลง แล้วจึงลุกขึ้นช้า ๆ 4.ท่านั่งและบิดลำตัว นั่งลำตัวตรง ให้สะโพกก้นทั้ง 2 ข้างเต็มพื้น ชันเข่าขวาขึ้น ขาซ้ายให้อยู่บริเวณด้านล่
างงอเข่าแล้วนำเท้าขวาไปค่ อมขาซ้ายอีกทบนึง พยายามกดสะโพก 2 ข้างลงให้ชิดพื้นแล้วนั่งยื ดลำตัว นำมือขวาพาดไปทางด้านหลัง แขนและศอกด้านซ้ายจะนำมาขัดหั วเข่าของด้านขวาหรือจะนำมื อมาแตะเข่าหรือข้อเท้าอีกข้างก็ ได้ แล้วค่อย ๆ ยืดตัวขึ้น แขม่วท้องพร้อมบิดลำตัว มองไปทางด้านหลัง บิดเอว หน้าอก ช้า ๆ เปิดและหันศีรษะไปทางด้านหลัง หมุนหัวไหล่ขวาไปทางด้านหลั งและหันศรีษะตามไป อยู่ในท่านี้ประมาณ 5 ลมหายใจ จะรู้สึกถึงหน้าท้องที่โดนนวด จากนั้นค่อย ๆ หมุนลำตัวกลับมา ทำสลับข้างอีกครั้ง 5.ท่าปลา นอนหงายกับพื้น เหยียด 2 ขาตรง ใช้ 2 แขนสอดใต้ลำตัวทั้งขวาและซ้าย กดมือและข้อศอกลงไปกับพื้นให้
แน่น หายใจเข้า ยกหน้าอกขึ้นแล้วค่อย ๆ เงยคางขึ้นเล็กน้อย หายใจออก คางเงย แล้ววางศรีษะโดยจุดกลางกระหม่ อมวางบนพื้น กดข้อศอกแล้วพยายามยืดหน้าท้ องและหน้าอกไปทางด้านบน เงยคางให้เยอะที่สุดเท่าที่ ทำได้ เกร็งหน้าท้องด้านล่าง เหยียดขาทั้ง 2 ข้างให้ตรง และพ้อยท์เท้าให้อยู่ในท่านี้ 5 – 10 ลมหายใจ เมื่อครบแล้วจึงค่อย ๆ ยกศีรษะขึ้น วางศีรษะและหลังกลับลงไปที่พื้น นำแขนทั้ง 2 ข้างออกมาพักในท่านอนหงายสักครู่ นึง จากนั้นลุกขึ้นช้า ๆ จากการตะแคงข้าง งอเข่า ดันลำตัวลุกขึ้นนั่ง ถ้าทำแล้วรู้สึกปวดคอ หรือเจ็บหลังให้นำผ้าขนหนูหนา ๆ หรือว่าหมอนอิงมารองใต้ศีรษะ หรือหลังเพื่อป้องกันการบาดเจ็ บได้
นอกจากการฝึก 5 ท่าบริหารฟื้นฟูปอดนี้แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ต้องเช็กอาการตัวเองอยู่เสมอ ดูแลและหมั่นสังเกตอาการตั
วเองในผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อ มีการไอ หรือมีไข้หรือไม่ และตรวจเช็กความเสี่ยงในการติ ดเชื้อว่าไปพื้นที่เสี่ยงหรื ออยู่ใกล้บุคคลที่มีความเสี่ ยงหรือไม่ และตรวจเช็กสุขภาพจิตใจว่ามี อาการวิตกกังวล รู้สึกเครียด จิตตกหรือไม่ หากมีอาการวิตกกังวลมากไม่ สามารถพาตนเองออกจากความคิ ดความกังวลได้ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรั กษาทันที เพื่อสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ จะกลับมาแข็งแรงและดำเนินชีวิ ตได้อย่างปกติในแนวทาง นิวนอร์มัล สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์จิตรักษ์ รพ.กรุงเทพ โทร.02 310 3751-52 หรือ แอดไลน์ @bangkokhospital
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น