เอสซีจี เดินหน้ารุกธุรกิจ Automation หรือระบบอัตโนมัติ เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแห่
งอนาคตด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยได้ลงนามในสัญญาซื้อหุ้นบริ ษัทเอ.ไอ.เทคโนโลยี จำกัด ผู้นำด้านธุรกิจการบู รณาการระบบอัตโนมัติ (Automation System Integration) ในประเทศไทย ขานรับความต้องการใช้งาน Automation ของผู้ประกอบการในภาคอุ ตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าทางธุรกิ จและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่ งขัน พร้อมยกระดับอุตสาหกรรมไทยสู่ โรงงานอัจฉริยะ หรือ Smart Factory 4.0 ทั้งนี้ เอสซีจีได้นำระบบ Automation มาใช้ในกระบวนการผลิตเพื่อเพิ่ มประสิทธิภาพการดำเนินงาน เสริมสร้างศักยภาพด้ านการออกแบบและพัฒนาระบบอัตโนมั ติตามกลยุทธ์ด้านดิจิทัลมาอย่ างต่อเนื่อง และพร้อมต่อยอดสู่ธุรกิจเพื่ อให้บริการแก่ลูกค้าภายนอก สำหรับการลงนามในสัญญาซื้อหุ้
นในครั้งนี้ บริษัทซิเมนต์ไทยโฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นทั้ งหมดโดย SCC ได้ลงนามเข้าถือหุ้นในสัดส่วนร้ อยละ 51 ในบริษัทเอ.ไอ.เทคโนโลยี จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำด้านธุรกิจการบู รณาการระบบอัตโนมัติ (Automation System Integration) ในประเทศไทย ที่มีความเชี่ ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิ จมาอย่างยาวนาน เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 โดยคาดว่าธุรกรรมจะแล้วเสร็ จในไตรมาสที่ 4 ปี 2564 ทั้งนี้ผู้ถือหุ้นเดิมจะยังคงถื อหุ้นร้อยละ 49 และบริหารกิจการร่วมกับบริษัทซิ เมนต์ไทยโฮลดิ้ง จำกัด นายศักดิ์ชัย ปฏิภาณปรีชาวุฒิ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี เผยว่า “การลงนามในสัญญาซื้อหุ้นบริษั
ทเอ.ไอ.เทคโนโลยี เป็นอีกก้าวสำคัญของเอสซีจี ในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทย ซึ่งความร่วมมือระหว่างเอสซีจี และเอ.ไอ.เทคโนโลยี ในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสในการเข้าสู่ธุรกิจ Automation เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแห่ งอนาคตโดยนำระบบผลิตแบบอัตโนมั ติมาใช้ในโรงงานอุ ตสาหกรรมตลอดทั้ง value chain ซึ่งขณะนี้ภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ มีแนวโน้มความต้องการใช้ Automation เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่ องตามนโยบายขับเคลื่ อนประเทศไทยสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่ งขันของประเทศ และส่งเสริมให้ผู้ ประกอบการภาคอุตสาหกรรมสามารถพั ฒนาและเชื่อมโยงการผลิตสินค้ าและบริการผ่านการใช้นวั ตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย มุ่งสู่โรงงานอัจฉริยะ หรือ Smart Factory 4.0 การนำระบบ Automation มาใช้ภายในธุรกิจ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนิ
นงานให้สะดวก รวดเร็ว และช่วยลดต้นทุนการผลิต ลดอัตราการเกิดของเสีย (defect) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการลดใช้ ทรัพยากร นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงในงานอันตราย ลดขั้ นตอนและลดเวลาการทำงานของแรงงาน และเป็นการเตรียมพร้อมรับมื อภาวะขาดแคลนแรงงานในอนาคต ซึ่งการลงทุนในระบบ Automation เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสร้ างความยั่งยืนทางธุรกิจควบคู่กั บการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับแนวคิด ESG (Environmental, Social and Governance) อีกด้วย” นายกุลโชค โพธิ์พัฒนชัย กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้
าหน้าที่ฝ่ายบริหาร เอ.ไอ.เทคโนโลยี กล่าวว่า “เอ.ไอ.เทคโนโลยี และเอสซีจี ต่างมีเป้าหมายในการยกระดับอุ ตสากรรมไทยให้ก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 อย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะการใช้ระบบ Automation ซึ่งเราจะช่วยกันพัฒนาและต่ อยอดเทคโนโลยี Automation ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อตอบรับความต้องการระบบ Automation ในภาคอุตสาหกรรมที่มุ่งสู่ การเป็นโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) ที่จะช่วยทำให้ระบบผลิตของผู้ ประกอบการต่าง ๆ มีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ เอ.ไอ.เทคโนโลยี มีความพร้อมด้วยโซลูชัน องค์ความรู้และความเชี่ยวชาญด้ านการบูรณาการระบบอัตโนมัติ ทำให้สามารถพัฒนาระบบใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมต่าง ๆ และเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ จะได้ร่วมมือกับเอสซีจีเพื่ อยกระดับขีดความสามารถในการแข่ งขันของอุตสาหกรรมไทย” บริษัทเอ.ไอ.เทคโนโลยี เป็นผู้นำในด้านธุรกิจการบู
รณาการระบบอัตโนมัติ (Automation System Integration) ในประเทศไทย ที่มีความเชี่ ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิ จมายาวนานกว่า 28 ปี โดยมีความเชี่ยวชาญด้ านการออกแบบ พัฒนา และติดตั้งระบบและเครื่องจักรอั ตโนมัติ (Automation Machine) ให้กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต่ าง ๆ ในประเทศไทย ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารอื่
นๆ ของเอสซีจีได้ที่ https://scgnewschannel.com / Facebook: scgnewschannel / Twitter: @scgnewschannel หรือ Line@: @scgnewschannel
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น