24 กรกฎาคม 2564 – ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ยกย่อง 41 นักกีฬาไทยชุดสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์โตเกียว 2020 เป็นฮีโร่วงการกีฬาไทย ไม่ว่าจะได้เหรียญหรือไม่ก็ตาม ขอให้เอาชนะตัวเองด้วยการทำสถิติที่ดีขึ้นกว่าเดิม โดยไม่ต้องยึดติดเหรียญรางวัล
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ที่เปิดฉากชิงชัยกันแล้วในขณะนี้ แฟนกีฬาไทยจะได้ติดตามชมการแข่งขันทางช่องทีวีกีฬา “ทีสปอร์ต” ที่ได้ร่วมถ่ายทอดสดในครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ทั่วโลก ทำให้กีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ต้องแข่งขันแบบปิด ไม่มีคนดู เมื่อไม่สามารถไปดูที่สนามได้ การชมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ผ่านทางโทรทัศน์ ตลอดจนสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ จะทำให้ได้อรรถรสอีกรูปแบบหนึ่ง ทุกคนได้รับทราบประวัติความเป็นมาของกีฬาชนิดนั้น ๆ และนักกีฬาระดับโลก ตลอดจนข้อมูล สถิติต่าง ๆ ซึ่งในช่วงที่ทุกคนต้องอยู่กับบ้านจากภาวะการระบาดของโควิด 19 การชมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 จะสร้างความสุขให้คนไทยได้เป็นอย่างดี และคนที่ไม่สนใจกีฬา ก็อาจจะติดตามชมกีฬาโอลิมปิกมากขึ้น เป็นการสร้างฐานคนดูกีฬาให้มากขึ้นอีกด้วย
สำหรับความพร้อมของนักกีฬานั้น ดร.ก้องศักด กล่าวว่า นักกีฬาทั้ง 41 คน จาก 15 สมาคมกีฬา ทั้งหมด 16 ชนิดกีฬา ถือว่าเป็นสุดยอด ที่ฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ การต่อสู้กับโรคระบาด และความยากลำบากในการฝึกซ้อม รวมถึงการเดินทางไปแข่งขันรายการคัดเลือกจนได้โควตาไปแข่งขันที่ญี่ปุ่น ถือว่าทุกคนประสบความสำเร็จแล้ว การประเมินความหวังเหรียญรางวัลนั้นจึงทำได้ยากเนื่องจากนักกีฬาทั่วโลกก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน นักกีฬาชั้นนำอาจจะมีผลงานตกลงไป นักกีฬาที่ไม่อยู่ในข่ายตัวเต็งอาจจะทำผลงานดีขึ้นมา ตนอยากให้แฟนกีฬาส่งใจช่วยนักกีฬาทีมชาติไทย โดยไม่ยึดติดเหรียญรางวัล แต่ขอให้เอาชนะตัวเองด้วยการทำสถิติที่ดีขึ้นกว่าเดิม นักกีฬาที่ไม่ได้เหรียญอาจจะเป็นนักกีฬาดาวรุ่งอนาคตไกลเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติไทยต่อไป
“ครั้งนี้ ไทยอาจจะได้เหรียญไม่มาก ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวนักกีฬาไทยชุดโอลิมปิก เกมส์ โตเกียว 2020 ได้แสดงความสามารถในเวทีกีฬาระดับสูงสุดของโลก ทุกคนถือว่าเป็นฮีโร่ของวงการกีฬาไทยแล้ว” ดร.ก้องศักด กล่าวทิ้งท้าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น