· มียอดร้านค้าสมัครใช้งานเติบโตขึ้นถึง 7 เท่า และจำนวนร้านค้าใช้งานแอคทีฟเติบโตก้าวกระโดดกว่า 257%
· เผยมูลค่าเฉลี่ยในการซื้อสินค้า สูงถึง 1,000 – 2,000 บาท ต่อครั้ง
· ดัน LINE POINTS สนับสนุนร้านค้า ช่วยกระตุ้นยอดขายและสร้างฐานลูกค้าประจำ
กรุงเทพฯ – LINE ประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านแพลตฟอร์ม ดัน MyShop สู่อันดับ 1 เครื่องมือการขายและจัดการร้านค้าบน LINE SHOPPING แบบครบวงจร ชูกลยุทธ์เด่นมัดใจร้านค้าและลูกค้า ด้วยการสร้าง Social Commerce ควบคู่ Chat Commerce เปิดโอกาสทางธุรกิจได้ทุกที่ พร้อมมอบมูลค่าที่มากกว่าด้วย LINE POINTS ช่วยส่งเสริมการขายให้ร้านค้า
นายเลอทัด ศุภดิลก หัวหน้าฝ่ายธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ LINE ประเทศไทย กล่าวว่า “สถานการณ์วิกฤติโควิด-19 แม้จะทำให้สภาวะเศรษฐกิจหยุดนิ่งหรือเติบโตช้า ทำให้หลายคนหันมาใช้ช่องทางออนไลน์ในการทำธุรกิจมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นทางเลือกที่ดีแล้ว ยังสามารถสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อและผู้ขายที่ไม่ต้องเจอหน้ากัน หรือไม่ต้องสัมผัสใกล้ชิดกันแถมสามารถทำการซื้อขายได้ตามปกติ สะดวกและปลอดภัยต่อทั้งฝั่งผู้ซื้อและผู้ขาย ทำให้ที่ผ่านมาตลาด e-commerce ในประเทศไทยมีมูลค่าการซื้อขาย 270,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นตลาดโซเชียลคอมเมิร์ซที่สูงถึง 62% และ e-marketplace กว่า 38% เป็นเพราะพฤติกรรมของคนไทยนิยมแชทมากกว่า เพราะรู้สึกเข้าถึง ใกล้ชิด ทักไปมีคนตอบ ไม่ใช่การนั่งดูรีวิว แล้วกดซื้ออย่างเดียว สอดคล้องกับการเติบโตของ MyShop เครื่องมือจัดการระบบร้านค้าแบบครบวงจรของ LINE SHOPPING ที่มียอดร้านค้าสมัครใช้งานเติบโตขึ้นถึง 7 เท่า และจำนวนร้านค้าใช้งานแอคทีฟเติบโตก้าวกระโดดกว่า 257% (วัดผลจากการเปรียบเทียบช่วงเวลาเดือนเมษายน พ.ศ. 2563 – 2564 ที่ผ่านมา) โดยมีสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มสินค้าแฟชั่น อาหาร ผลิตภัณฑ์ด้านความงาม และ สินค้าแกดเจ็ต เป็นต้น และมูลค่าการจ่ายเพื่อซื้อสินค้าใน 1 ครั้ง เฉลี่ยสูงถึง 1,000 – 2,000 บาท”
กลไกส่งเสริมที่มาเพิ่มศักยภาพของ MyShop ให้สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายและสร้างมูลค่าการซื้อขายได้อย่างรวดเร็ว เพื่อโอกาสทางธุรกิจให้ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ คือ การผสมผสาน Social Commerce เข้ากับ Chat Commerce ที่ปัจจุบันและอนาคตรูปแบบของการทำธุรกิจบนออนไลน์ในธุรกิจต่างๆ สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนไทยได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วขึ้น ทั้งแชท ซื้อ ขาย ครบ จบในที่เดียว โดยไม่ต้องเปลี่ยนแอปฯ พร้อมทั้งเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ โดยสามารถให้ผู้ขายสามารถ เปิดร้านได้ตลอดทุกที่ทุกเวลา ด้วยระบบหลังบ้านที่จัดการได้ทั้งทาง desktop หรือ แอปพลิเคชั่น MyShop ที่ช่วยให้ร้านค้าสามารถดำเนินธุรกิจผ่านโทรศัพท์มือถือได้ตลอดเวลาที่ต้องการ และสุดท้าย คือ การมอบมูลค่าเพิ่ม ในรูปแบบโปรแกรมสะสมแต้ม LINE POINTS ที่มาช่วยร้านค้าทำกิจกรรมทางการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขายและสร้างฐานลูกค้าประจำได้ในระยะยาว โดย LINE POINTS ที่ลูกค้าสะสม 1 พอยท์มีมูลค่าเท่ากับ 1 บาทสามารถนำมาใช้เป็นส่วนลดกับร้านค้าพันธมิตร Rabbit LINE Pay ที่ครอบคลุมไลฟ์สไตล์ทุกด้าน อีกทั้งยังสามารถนำมาใช้เป็นส่วนลดบน LINE SHOPPING หรือแลกซื้อสินค้าจาก LINE STICKERS, THEME SHOP และ LINE MELODY เป็นต้น
สำหรับระบบการทำงานของ MyShop ไม่ยุ่งยากและเข้าใจง่าย เป็นเครื่องมือที่เปรียบเสมือนโซลูชั่นแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นระบบจัดการทั้งหน้าร้านและหลังร้าน การจัดการสต็อกสินค้า การออกใบสรุปออเดอร์ให้ลูกค้าผ่านแชทได้ทันที ระบบจดจำที่อยู่ของลูกค้า เป็นต้น ทำให้กระบวนการซื้อขาย พูดคุย และการชำระเงิน การตรวจสอบสถานะสินค้า สร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ที่แสนง่ายให้กับผู้ซื้อได้ครบจบในแอปฯ เดียว
น.ส. ชนากานต์ ดิลกสัมพันธ์ และ น.ส. ภาสิริ ติรณะประกิจ เจ้าของร้าน CALLED’ P (https://shop.line.me/@called_p) แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นคู่รัก ที่กำลังมาแรงในขณะนี้ แชร์ประสบการณ์การใช้ MyShop โดยยืนยันว่า “MyShop คือตัวช่วยสำคัญ ที่เหล่าผู้ประกอบการรายเล็กมองหา เพราะนอกจากจะมีระบบจัดการหลังบ้านใช้งานง่าย สะดวก และครบครันช่วยจัดการออเดอร์ให้ง่ายและเป็นระบบขึ้น สามารถจัดการสต็อกสินค้าได้แบบ real-time แล้ว ยังมีแคมเปญจาก LINE SHOPPING ที่มาสนับสนุนช่วยร้านค้าทำการตลาดด้วยคูปองส่วนลด และโปรแกรมสะสม LINE POINTS ช่วยให้ขายดียิ่งขึ้น”
น.ส. นววรรณ และ น.ส. อารยา ระจิตดำรงค์ สองพี่น้องเจ้าของร้าน Grumpy (https://shop.line.me/@ggrumpy) แบรนด์เครื่องประดับดีไซน์เก๋สุดฮิตในหมู่สาวๆ กล่าวว่า “ประทับใจ MyShop ตรงที่สามารถช่วยปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว เราสามารถสรุปออเดอร์ได้ในระยะเวลาไม่ถึง 5 นาที ช่วยประหยัดเวลา และยังมีระบบการเก็บบันทึกการขายที่ครบถ้วน ทำให้เราสามารถมีเวลาศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับการวางแผนการทำการตลาดได้ต่อไป อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับ LINE OA ทำให้ลูกค้าไม่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมมาก เพราะใช้แอปฯ LINE เป็นประจำอยู่แล้ว ก็สามารถทักแชทเพื่อซื้อของและชำระเงินได้เลยในที่เดียว ระบบหลังบ้านใช้งานง่ายมาก และ มีฟังก์ชั่นที่ครบครัน จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับใครที่กำลังอยากเปิดร้านขายของออนไลน์”
นายเลอทัด กล่าวต่อไปว่า “อีกหนึ่งข้อดีของ MyShop คือ โซเชียลคอมเมิร์ซสามารถช่วยให้ร้านค้าเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนมากเท่าอีคอมเมิร์ซ เพราะร้านค้าสามารถบรอดแคสต์โฆษณาไปยังกลุ่มคนที่เคยซื้อสินค้าของทางร้านได้โดยตรง ซึ่งสามารถ Personalized สินค้าไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดทั้งในเชิง Demographic หรือความสนใจ (Interest) ผ่านทางผู้ใช้งาน LINE ที่มีมากกว่า 49 ล้านคนในปัจจุบัน ประกอบกับการใช้งบประมาณการสื่อสารการตลาดที่น้อยกว่าการทำโฆษณาเพื่อเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ หรือการสร้าง Brand Loyalty ด้วยการดูแลลูกค้าอย่างดีผ่าน Chat Commerce ส่งผลให้เกิดการซื้อซ้ำได้บ่อยๆ ร้านก็จะเติบโตอย่างยั่งยืน และแข่งขันในตลาดได้ โดยที่ไม่ต้องแข่งขันด้านราคาหรือการใช้โฆษณาแบบเดิมๆ อีกต่อไป”
“LINE มองว่า MyShop จะเข้ามาช่วยจัดการร้านค้าออนไลน์และสามารถช่วยผู้ประกอบการ SMEs ในอนาคต ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวการพัฒนาครั้งสำคัญ ที่เป็นการผสานรวมและนำเอาความแข็งแกร่งของทุกเซอร์วิสและฟีเจอร์บน LINE Ecosystem มาสร้างความสะดวกสบาย สู่การเป็นอันดับหนึ่งแพลตฟอร์ม Social Commerce ตัวจริงในการสร้างความสัมพันธ์ของผู้ขายและผู้ซื้ออย่างแท้จริงและยั่งยืน” นายเลอทัดกล่าวสรุป
สนใจสมัคร MyShop : linemyshop.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น