ใครๆก็อยากมีอนาคตที่มั่นคง...
มีอาชีพ มีงานทำ มีรายได้ดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างเป็นสุข แต่ด้วยวิกฤตของสังคมโควิด-19
มีหลากหลายปัญหา ส่งผลให้คนตกงานและอื่นๆอีกมากมาย แต่เมื่อหันกลับมามองเรื่องของมิติการศึกษาแล้ว
เส้นทางการศึกษาสายอาชีพ ที่ SIBA นั้นถือว่าเป็นโอกาสสำคัญยิ่ง
เพราะระหว่างเรียนได้เงิน จบแล้วมีงานทำ SIBA ได้สัมมนาครั้งสำคัญในหัวข้อ
”การแนะแนวเส้นทางการศึกษาสายอาชีพ ในยุคดิจิตอลหลังโควิด-19” โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิระดับแนวหน้าของเมืองไทย ร่วมชี้แนวทางการศึกษาอย่างไรไม่ตกงาน
ทำงานได้ ใช้ชีวิตเป็น พร้อมเปิดโผ 8 อาชีพมาแรง สู่ความมั่นคงในอาชีพในยุคดิจิทัลหลังโควิด-19
SIBA หรือวิทยาลัยอาชีวศึกษาสันติราษฎร์
ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ในฐานะสถาบันการศึกษาสายอาชีพระดับแถวหน้าของประเทศ
จัดงานสัมมนาในหัวข้อ
“การแนะแนวเส้นทางการศึกษาสายอาชีพ
ในยุคดิจิตอลหลังโควิด-19” มีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิชั้นนำของเมืองไทย ร่วมงานในครั้งนี้...
นายณรงค์ แผ้วพลสง ที่ปรึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า “หากมองในเส้นทางการศึกษาสายอาชีพ ยังมีความสนใจในด้านนี้น้อย ซึ่งเกิดจากองค์ประกอบ หรือสาเหตุหลายประการ อาทิ ผู้ปกครองหรือนักเรียน นักศึกษาอาจจะมุ่งไปในเรื่องการเรียนในมหาวิทยาลัยเลยมองข้ามในเรื่องของสายอาชีพไป แต่ปัจจุบันวันที่โลกได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้ปกครอง และเด็กได้สนใจการศึกษาสายอาชีพกันมากขึ้น เพราะอย่างน้อยการมีความรู้ทางด้านอาชีพผู้เรียนสามารถนำความรู้ไประกอบอาชีพได้จริง” ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้เกิดวิกฤตของสังคมหลายเรื่อง ทำให้เราเห็นภาวะของคนตกงาน คนเจ็บป่วย ทั้งแง่บวกและแง่ลบ แต่เมื่อหันกลับมามองเรื่องของมิติการศึกษาแล้วในด้านอาชีพนั้น ถือว่ามีความสำคัญต่อสังคม ประเทศชาติเป็นอย่างมาก จะเห็นภาพที่เกิดขึ้นว่ามีลูกหลานเราหลายคนที่จบการศึกษา แต่ก็ยังหางานทำไม่ได้ ขณะที่ลูกหลานเราที่มีงานทำอยู่แล้วก็กลายเป็นคนตกงาน แต่มีกลุ่มงานหนึ่งที่มีระดับทักษะฝีมือนั้นยังคงมีงานทำ แม้ว่าจะเจอวิกฤตอย่างไร ทั้งนี้การพัฒนาประเทศสู่ความเป็นสากล จำเป็นต้องอาศัยกำลังแรงงานในระดับทักษะฝีมือ หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า ”สายอาชีพ” ซึ่งยังขาดแรงงานประเภทนี้อยู่มาก
ด้าน นายมณฑล ภาคสุวรรณ์ รองเลขาธิการ
คณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า เด็กในทศวรรษที่
21 ต้องสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปได้
เพราะว่าคนที่อยู่รอดไม่ใช่คนฉลาดหรือคนเก่งแต่เป็นคนที่ปรับตัวได้ เป้าหมายของการศึกษาตามยุทธศาสตร์ของประเทศต้องการให้เด็กได้รับการศึกษาที่มีมาตรฐานสากลและถ้าเป็นอาชีวะก็จบมามีงานทำ
100 % ในเบื้องต้นสำหรับสถานศึกษาจะต้องปรับตัวแล้วก็วางรากฐานที่มั่นคงให้กับเด็กของเรา
ขณะที่การเปลี่ยนแปลงความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัล หรือปัญหาของการะบาดโควิด-19
เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่สิ่งที่เราต้องทำคือ การปรับตัวการนำเทคโนโลยีดิจิทัล
หรือระบบ Online มาใช้ในการเรียนการสอน ไม่ว่าเป็น Online, On air, On Demand ต้องใช้ทุกรูปแบบเข้ามาในการบริหารจัดการ
ซึ่งจะมี Platform หลาย ๆ อย่าง เช่น Microsoft หรือ Zoom เข้ามาใช้เป็นเครื่องมือในการสอน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนการสอน
เป็นต้น
ส่วนทางด้านนายโอม
ศิวะดิตถ์ ผู้บริหาร บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า การทำ
Digital Transformation ถ้าก่อนเกิดเหตุการณ์โควิด-19
สิ่งที่เรามองมันคือ การวางแผนระยะยาว แต่หลังจากเราเจอ โควิด-19 คำว่า Digital
Transformation ที่เคยวางแผนกันเป็นปี ต้องปรับเปลี่ยนแผนให้
เกิดขึ้นภายในระยะเวลาแค่ 1-2 เดือน ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้พฤติกรรมของคนไทยเปลี่ยนไป
โดยทางไมโครซอฟท์ มองการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ประกอบด้วยระดับที่
1 เรียกว่า Digital literacy คือ ระดับพื้นฐานในการใช้ชีวิตในสังคมเริ่มไปสู่การเป็นดิจิทัล
ระดับที่ 2 เรียกว่า Foundation
เป็นระดับที่สูงขึ้นเพื่อเตรียมที่จะใช้งานได้คนที่เป็น Digital marketer ระดับที่ 3 เรียกว่า Job role เช่น Financial
analyst
ต้องใช้เครื่องมือเป็น แต่พอไปอยู่ในงานนั้นจริงๆ
ก็จะมี Soft skills ทักษะของการทำงาน ในสายงานนั้น Project
manager, IT , Software developer, IT Admin ระดับ 4 เป็นระดับที่สูงสุดที่เรียกว่า Job
ดิจิทัลเข้ามามีความสำคัญกับทุก ๆ คน โดยต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นตัวจัดการหมด
ถ้าคุณเป็น Digital marketer จะวิเคราะห์พื้นๆ ไม่ได้แล้ว เอา
Excel มาดูข้อมูลหรือมาทำ Dashboard ก็ไม่พอ
จะต้องไปทำในเรื่องของ Machinery ขณะที่คุณอยากจะไปเป็น Software
development ต้องทำโปรเจคที่เป็น
AI ที่เป็นทักษะใหม่ ต้องเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้น
และ ดร.เบญจมาภรณ์ คุณะรังษี ผู้อำนวยการ SIBA กล่าวว่า จากการสำรวจอาชีพในอนาคตอีก 5 ปี ข้างหน้ามีอาชีพเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน และเป็นอาชีพยอดนิยมหลังจากการแพร่ระบาดของโควิดซึ่ง 8 อาชีพมาแรงคือ 1.“Online Marketing นักการตลาดออนไลน์” ปัจจุบันเราใช้โทรศัพท์มือถือเช็คข้อมูลข่าวสารกันแทบทุกวินาที จะเห็นว่ามีโฆษณาที่ pop up ขึ้นมาตลอด นั้นคือ หน้าที่ของนักการตลาดออนไลน์เป็นผู้ออกแบบและผลิตโฆษณาเหล่านี้ 2. “Application Creator นักพัฒนา
แอพพลิเคชั่น” เนื่องจากผู้คนในยุคข้อมูลข่าวสารต้องการเสพข้อมูลที่ดูง่าย
เป็นระเบียบ สบายตา ช่วยอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ 3. “Social Admin ผู้ดูแลโซเชียลมีเดีย” ไว้เป็นสื่อกลางระหว่างผู้บริโภคกับหน่วยงานหรือเจ้าของผลิตภัณฑ์หรือบริการและคอยดูแลให้พื้นที่โซเชียลมีเดียให้อยู่ในความเรียบร้อยและเหมาะสมกับผู้บริโภค
4. “นักกูรูออนไลน์
หรือ Youtuber” ผู้ที่คอยแยกย่อย จัดระเบียบข้อมูล
ให้คำวิเคราะห์ ให้คำแนะนำ ชี้ทางให้กับมือใหม่ ในเรื่องต่างๆ 5. “ผู้ดูแลเครือข่ายระบบคอมพิวเตอร์ หรือ Programmer” เป็นอาชีพที่คอยสนับสนุนทุกอาชีพที่เกี่ยวข้องกับระบบออนไลน์
ทุกรูปแบบบริษัทใหญ่ๆ ที่มีการบริหารข้อมูลในลักษณะของ Big Data ที่ต้องใช้การวิเคราะห์ความเป็นไปของกิจการ 6. “เจ้าของธุรกิจ
Start Up” วัยรุ่นหลายคนมีฝันอยากประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย
เป็นอายุน้อยร้อยล้าน ต่างก็ตบเท้าเข้ามาลองเชิงทำธุรกิจ Start Up ใครมีไอเดียดี ๆ อย่าเก็บเอาไว้ ลองเอามันออกมาสร้างฝันให้เป็นจริงได้ 7. “นักบัญชีที่เชี่ยวชาญเรื่องภาษีอากร” มีหน้าที่ให้คำปรึกษากับองค์กรด้านบัญชีและด้านภาษีอากรต่างๆ
ลดความเสี่ยงทางภาษี 8.“เชฟ” อาชีพนี้มีรายได้สูง
ไม่ว่าจะเป็นการเปิดร้านอาหารออนไลน์ไม่ต้องมีหน้าร้านร่วมกับ applications
อย่าง Food Panda /Lineman / Grab เป็นธุรกิจที่ทำเงินในขณะนี้
พร้อมกันนี้ “ก็ขอฝากถึงทุกๆ คนให้เห็นความสำคัญในการเรียนหลักสูตรที่มีทักษะเฉพาะทางที่เรียนเกี่ยวกับสายอาชีพซึ่งมีหลากหลายประเภททั้ง ด้านเทคโนโลยี ด้านบัญชี ด้านการตลาด ด้านอาหารส่วนใหญ่จะสอดคล้องกับอาชีพที่เป็นที่ต้องการของภาคธุรกิจและตลาดแรงงาน ผู้เรียนจะได้รับความรู้ ได้ ประสบการณ์ ได้รายได้ระหว่างเรียน ได้ทักษะวิชาชีพติดตัว ได้เลือกเรียนอย่างหลากหลาย ได้มีโอกาสเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาได้รับการสนับสนุนทั้งภาครัฐภาคเอกชน และได้ทำอะไรตอบแทนสังคม”
“SIBA” ต้องการยกระดับอาชีวะให้สูงขึ้น
พร้อมสร้างความอยากเรียนรู้ให้กับนักเรียนอาชีวะมาจากข้างในของตนเอง โดยมีหลักสูตรอยู่ในอาชีพนี่คือความได้เปรียบของการเรียนสายอาชีพที่สามารถตอบโจทย์ทุกอาชีพในอนาคต นักเรียนของ SIBA มีรายได้ระหว่างเรียน จบแล้วมีงานทำ
และที่สำคัญสามารถกู้เงินเรียนได้ หรือจะขอทุนเรียนฟรีก็ได้ สำหรับปีการศึกษา 2564
นี้ SIBA ได้เปิดรับสมัครนักเรียนทั้ง ม.3, ม.6 และปวช. แล้วตั้งแต่วันนี้จนถึงเมษายน 2564
มีหลักสูตรวิชาชีพที่ทันสมัยให้เลือกหลากหลาย ทั้งระดับชั้น ปวช. (3 ปี) และ ระดับ
ปวส. (2 ปี) สามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.siba.ac.th หรือโทร.02-9393000
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น