นางปนุท ณ เชียงใหม่ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เปิดเผยว่า “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” ขานรับนโยบายล่าสุดจากธนาคารแห่
งประเทศไทย (ธปท.) เดินหน้าช่วยประชาชนที่เป็นหนี้ เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มี หลักประกันของธนาคารพาณิชย์ และผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน (Non-Bank) จำนวน 35 แห่ง อย่างต่อเนื่อง โดยขยายเวลาการเป็นหนี้เสีย จากเดิมวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เป็นก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งคาดว่าจะช่วยผู้เป็นหนี้กลุ่ มดังกล่าวที่ค้างชำระและเป็นหนี้ NPL ได้อย่างครอบคลุมมากขึ้นและทั นท่วงที โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ พลาดโอกาสหรือยังไม่ได้สมัครเข้ าร่วมโครงการเนื่องจากคุณสมบัติ ไม่ครบถ้วนตามเกณฑ์ที่ “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” กำหนด รวมทั้งรองรับกลุ่มผู้ได้รั บผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 การปรับหลักเกณฑ์ครั้งนี้ นับเป็นโอกาสดีที่สุดสำหรับลู กค้าที่สมัครเข้าโครงการฯ เพราะนอกจากจะได้รับดอกเบี้ยต่ำ เพียง 4-7% ต่อปี และระยะเวลาการผ่อนนานสูงสุดถึง 10 ปีแล้ว ยังจะได้รับมาตรการพิเศษ “ยาแรง 2 สูตร” ที่ขยายระยะเวลาออกไปถึงเดือน มิถุนายน 2564 ได้แก่ ยาสูตร 1 การเลื่อนกำหนดชำระหนี้เงินต้ นและดอกเบี้ยแก่ผู้ที่ชำระไม่ ไหว โดยจะไม่ถือว่าผิดนัดชำระหนี้ และไม่เสียประวัติ และ ยาสูตร 2 ลดดอกเบี้ยลง 1-2% สำหรับผู้ที่สามารถผ่อนชำระต่ อเนื่องอีกด้วย
สำหรับผู้สนใจสมัครเข้าร่วม “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” ต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้นตามที่
กำหนด คือ เป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ มีอายุไม่เกิน 65 ปี มียอดหนี้รวมกันไม่เกิน 2 ล้านบาท และ เป็นหนี้เสียก่อน 1 กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อความรวดเร็วในการพิ จารณาผลการสมัคร ตามแนวคิด “เอกสารครบ-จบไว” ควรเตรียมเอกสารสำคั ญประกอบการสมัคร ดังนี้ 1. สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบี ยนบ้าน 2. สลิปเงินเดือนย้อนหลัง หรือเอกสารแสดงรายได้ย้อนหลัง 3 เดือน 3. รายการเดินบัญชี หรือ Statement ย้อนหลัง 6 เดือน 4. เอกสารรายงานเครดิตบูโร ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงในการเดิ นทางออกนอกบ้านของลูกค้าในช่ วงสถานการณ์โควิด-19 “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” พร้อมอำนวยความสะดวกให้ลูกค้ าสมัครเข้าร่วมโครงการหรื อสอบถามรายละเอียดผ่านช่ องทางออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์ www.คลินิกแก้หนี้.com แอดไลน์ @debtclinicbysam Facebook คลินิกแก้หนี้ หรือโทรสอบถามที่ Call Center 02-610-2266 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-17.00 น.
นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 14 กุมภาพันธ์ -14 เมษายน 2564 เป็นต้นไป ธนาคารแห่งประเทศไทยมีกำหนดจั
ดงาน “มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้บัตรเครดิ ตและสินเชื่อส่วนบุคคล” ในรูปแบบออนไลน์ (Online mediation) ผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานศาลยุติ ธรรม กรมบังคับคดี ธปท. และศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริ การทางการเงิน (ศคง.) เพื่อเป็นช่องทางช่วยประชาชนที่ มีหนี้บัตรและสินเชื่อส่วนบุ คคลแก้ไขปัญหาหนี้สินแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นหนี้ดีที่ยังผ่ อนชำระปกติแต่เริ่มขาดสภาพคล่ องชั่วคราว หรือเป็นหนี้เสียแล้ว แต่ยังไม่มีการฟ้องหรืออยู่ ระหว่างฟ้องดำเนินคดี หรือที่มีคำพิพากษาแล้ว โดยลูกค้าโครงการคลินิกแก้หนี้ สามารถใช้ช่องทางของงานมหกรรมดั งกล่าวสมัครเข้า “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” และเข้าร่วมการไกล่เกลี่ยปั ญหาที่มีกับเจ้าหนี้ได้อี กทางหนึ่ง
นางปนุท กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ที่ต่อเนื่องยาวนานมาตั้งแต่ต้
นปี 2563 ส่งผลให้จำนวนลูกหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสดและสินเชื่อส่วนบุ คคลที่ไม่มีหลักประกัน มีแนวโน้มกลายเป็นหนี้เสียสูงขึ้ น “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” ในฐานะที่เป็นหนึ่งในเครื่องมื อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของภาครั ฐได้มีส่วนช่วยหาทางออกร่วมกั นของเจ้าหนี้-ลูกหนี้ เพื่อตกลงปรับโครงสร้างหนี้ได้ รวดเร็ว และทำให้ลูกหนี้สามารถดำเนินชี วิตหรือธุรกิจต่อไปได้ อันเป็นการช่วยลดปัญหาหนี้ครั วเรือนและสร้างความมั่ นคงทางเศรษฐกิจและการเงิ นของประเทศ โดยในปี 2563 ที่ผ่านมา มีผู้สนใจยื่นใบสมัครเข้าร่ วมโครงการกว่า 62,000 ราย มีการปรับโครงสร้างหนี้ไปแล้ วรวมเป็นภาระหนี้เงินต้นสะสมกว่ า 3,200 ล้านบาท โดยมีภาระหนี้เฉลี่ย 300,000 บาทต่อคน นอกจากนี้ “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” ยังเดินสายจัดอบรมและให้ความรู้ ทางการเงินแก่หน่วยงานทั้งภาครั ฐและเอกชน ประชาชน กลุ่มนิสิตนักศึกษาและบุ คลากรของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ให้มีความรู้ด้ านการวางแผนการเงินส่วนบุ คคลและการออมเพื่อเป็นแนวทางหนึ่ งในการเสริมสร้างวินัยและภูมิคุ้ มกันทางการเงิน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น