วันพุธที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ไมเนอร์ฯ ร่วมกับแอกซ่าและล็อคตั้น จัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพและ การออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพ

 


บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย บริษัท ล็อคตั้น วัฒนา อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมจัดกิจกรรม “Group Exercise @ Minor” เพื่อส่งเสริมให้พนักงานจากไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนลฯ มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ‍กิจกรรมนี้นำโดย “นนท์ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร” หรือ “เทรนเนอร์มิกกี้” ที่มาร่วมสอนเทคนิคการออกกำลังกายที่เหมาะสม และความสำคัญของการออกกำลังกายเพื่อร่างกายที่แข็งแรงอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้มีโอกาสพูดคุยแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องของสุขภาพ และการเรียนรู้ถึงแนวทางปฏิบัติที่ดี เพื่อรักษาสุขภาพของตนเองได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้น ณ อาคารเดอะปาร์ค กรุงเทพฯ


 

เกี่ยวกับบริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) 

บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นสมาชิกของกลุ่มแอกซ่า ก่อตั้งขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2541 มีผลิตภัณฑ์และบริการประกันภัยที่ครอบคลุมทั้งประกันภัยรายบุคคลและประกันภัยรายบริษัท แอกซ่าประเทศไทยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ และมีสาขา 13 แห่งกระจายอยู่ทุกภูมิภาคของประเทศไทย

 

เกี่ยวกับกลุ่มแอกซ่า

กลุ่มแอกซ่า ผู้นำระดับโลกในด้านการประกันภัยและการจัดการทรัพย์สิน โดยมีพนักงานกว่า 145,000 คน มุ่งมั่นที่จะให้บริการแก่ลูกค้ากว่า 93 ล้านรายทั่วโลก ใน 51 ประเทศ ในปี 2565 กลุ่มแอกซ่ามีรายได้รวมอยู่ที่ 102.3 พันล้านยูโร กำไรสุทธิ 7.3 พันล้าน  ยูโร และมีสินทรัพย์ทั้งหมด 933 พันล้านยูโร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565

 

สำหรับสื่อมวลชน สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 

บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน)

วรญา มณีวรรณ 

โทร. 02-118-8091

อีเมล: woraya.ma@axa.co.th

 

เจซีแอนด์โค คอมมิวนิเคชั่นส์ 

สิทธิกร ชิตเทพ/ +6694-331-6996/ sitdhikornc@jcco.co.th    

แวววรรณ บุญเนตร/ +6692-092-2494/ waewwanb@jcco.co.th

 

“Summer Night Out” ปาร์ตี้สุดเริงร่าของสาว Lyn around พร้อมอวดโฉมซัมเมอร์คอลเลกชั่นล่าสุด สะท้อนสไตล์ที่เป็นตัวเองได้ทุกที่ทุกเวลา

 


  Lyn around (ลิน อราวด์) แบรนด์แฟชั่นสไตล์เฟมินินที่เติมเต็มจินตนาการของสาวช่างฝัน จัดงาน Summer Night Out” โดยเนรมิตพื้นที่บนรูฟท็อปบาร์สีสันสดใสบนชั้นดาดฟ้าของโรงแรม Siam @ Siam Design Hotel Bangkok ให้กลายเป็นงานเอ็กซ์คลูซีฟปาร์ตี้สุดเก๋ของสาว ๆ Lyn around โดยมีนักแสดงคนดัง อาทิ เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา, มายด์-ณภศศิ สุรวรรณอร- พัศชนันท์ เจียจิรโชติฟรัง-นรีกุล เกตุประภากร และ ดรีม อภิชญา พานิชตระกูล รวมทั้งเหล่าแฟชั่นนิสต้าอีกกว่า 20 คนมาร่วมงาน พร้อมอวดโฉมความสดใสร่าเริงในสไตล์ของตนเองไปกับซัมเมอร์คอลเลกชั่นล่าสุด Timeless Summer Love” ของ Lyn around

 

สุวิตา สิงห์สัจจเทศ ผู้จัดการทั่วไป แบรนด์ Lyn around บริษัท ยัสปาล จำกัด กล่าวว่า “งาน Summer Night Out จัดขึ้นเพื่อสร้างคอมมูนิตี้ของสาว ๆ Lyn around ได้มารวมตัวกันสร้างสีสัน และสนุกสนานกับการแต่งตัวที่หลากหลายในสไตล์ที่เป็นตนเอง รวมทั้งแชร์ลุคเสื้อผ้าของ Lyn around ผ่านแคมเปญ #lynaroundeverywhere ที่สะท้อนว่าเสื้อผ้าและแอคเซสเซอรี่ของ Lyn around ช่วยเติมเต็มจินตนาการ สามารถสวมใส่ได้ในหลากหลายโอกาส และสถานที่ เพื่อแสดงความสดใสและเปล่งประกายความเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่”

 

ภายในงานสาว ๆ Lyn around ได้สวมใส่เสื้อผ้าและแอคเซสเซอรี่ในซัมเมอร์คอลเลกชั่นล่าสุด Timeless Summer Love” ซึ่งนำเสนอเรื่องราวการส่งผ่านความรักแบบไร้กาลเวลา สะท้อนความเป็นผู้หญิงอันอ่อนหวาน ร่าเริง สดใส แต่ยังเต็มไปด้วยกิมมิคสุดพิเศษจากลายพิมพ์ โมทีฟ และดีเทลที่หยิบเอาความมีชีวิตชีวาของธรรมชาติในฤดูร้อนมาถ่ายทอดได้อย่างไม่ซ้ำใคร ให้สาว ๆ ได้เพลิดเพลิดไปกับการแต่งตัว และแมทซ์กับแอคเซสเซอรี่ชิ้นโปรดที่จะมาคอมพลีทลุคในแต่ละวัน และเป็นคอลเลกชั่นที่ใส่ได้ทุกช่วงเวลา ไม่มีวันตกยุค

 

โดยบรรยากาศในงานคักคึกไปด้วยการประดับตกแต่งป้ายไฟนีออนสุดเก๋ แลนด์มาร์คสวย ๆ สำหรับถ่ายภาพ นอกจากนี้ สาว ๆ ยังได้เพลิดเพลินไปกับกิจกรรมการเต้น Salsa และการถ่ายภาพโพลาลอยด์สุดฮิตอีกด้วย

 

พบกับสินค้าคอลเลคชั่นต้อนรับซัมเมอร์ Timeless Summer Love ได้แล้ววันนี้ที่ร้าน Lyn around ทุกสาขา และออนไลน์ www.lynaround.com

 

อัปเดตเทรนด์แฟชั่นล่าสุดของ Lyn around  เพิ่มเติมได้ที่

Instagram: @lynaroundworld

Facebook: Lyn Around (@LynAroundThailand)

LINE Official Account: Lyn Around Official

 

#lynaroundeverywhere #lynaroundworld #lynaroundsummer2023

ยูนิโคล่ จัดเทศกาลขอบคุณ หรือ Arigato Festival แทนคำขอบคุณลูกค้าทุกท่าน ที่สนับสนุนยูนิโคล่มาโดยตลอดและให้ยูนิโคล่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผ่านไอเทมไลฟ์แวร์ พร้อมกิจกรรมและสินค้าราคาพิเศษ ตั้งแต่วันที่ 2 – 8 มิถุนายน 2566

 


กรุงเทพฯ(31 พฤษภาคม 2566)  ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) ตอบแทนการสนับสนุนเป็นอย่างดีของลูกค้าทั่วประเทศ ผ่านเทศกาลขอบคุณ หรือ Arigato Festival แทนคำขอบคุณแด่ลูกค้าทุกท่านที่สนับสนุนยูนิโคล่มาโดยตลอดและให้ยูนิโคล่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต พร้อมสนุกกับเสื้อผ้าหลากสไตล์ แมทช์ได้ในแบบของคุณ และทำให้คุณภาพชีวิตของทุกคนดีขึ้นผ่าน    ไอเทมไลฟแวร์ (LifeWear) จากยูนิโคล่ Arigato Festival จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 – 8 มิถุนายน 2566 ที่ร้านยูนิโคล่ทุกสาขา และออนไลน์สโตร์ ทั้งทางเว็บไซต์และแอปยูนิโคล่

 

Arigato เป็นภาษาญี่ปุ่น แปลว่า ขอบคุณ โดย Arigato Festival ยูนิโคล่อยากขอบคุณลูกค้าที่มอบความไว้วางใจเลือกยูนิโคล่เป็นไอเทมที่คุณอยากสวมใส่ในชีวิตประจำวัน และเปิดโอกาสให้ยูนิโคล่ได้ทำให้ชีวิตของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้นผ่านไอเทมที่แฝงด้วยดีไซน์และนวัตกรรมที่สร้างสรรค์ขึ้นอย่างประณีต โดยตลอดช่วง Arigato Festival ยูนิโคล่เตรียมความพิเศษไว้แทนคำขอบคุณแก่ลูกค้าคนพิเศษมากมาย ประกอบไปด้วย

 

ความพิเศษที่ 1: ของขวัญพิเศษสำหรับทุกคน

 

เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น ยูนิโคล่ขอมอบข้าว 4 ชนิดจากเกษตรกรไทย แทนคำขอบคุณสำหรับทุกการใช้จ่ายต่อหนึ่งใบเสร็จโดยไม่มีขั้นต่ำ 3 วันเท่านั้น ตั้งแต่ 2 มิถุนายน 2566 ถึง 4 มิถุนายน 2566

 

ทุกการใช้จ่ายต่อหนึ่งใบเสร็จโดยไม่มีขั้นต่ำ รับฟรี ข้าวจากเกษตรกรไทย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนชุมชมท้องถิ่น โดยข้าวสาร ชนิดจากเกษตรกรไทย จะแจกในแต่ละภาคที่แตกต่างกันตามที่ตั้งของร้านสาขายูนิโคล่ อาทิ ภาคกลาง/ภาคตะวันออก/ภาคตะวันตก/ยูนิโคล่ออนไลน์สโตร์ – ข้าวไรซ์เบอร์รี่ จากจังหวัดพิษณุโลกภาคเหนือ –    ข้าวเหนียวเขี้ยวงู จากจังหวัดเชียงรายภาคอีสาน – ข้าวหอมมะลิ ทุ่งกุลาร้องไห้ จากจังหวัดร้อยเอ็ด และภาคใต้ – ข้าวเบายอดม่วง จากจังหวัดตรัง ตั้งแต่ 2 – 4 มิถุนายน 2566 เพียง วันเท่านั้น!

 

ความพิเศษที่ 2: กระเป๋าอเนกประสงค์ Work & Study Bag

 

รับฟรี! กระเป๋าอเนกประสงค์ Work & Study bag มูลค่าใบละ 990 บาท จำนวนไม่เกิน 4 ใบต่อ 1 ใบเสร็จ เมื่อช้อปสินค้าครบทุกๆ 3000 บาท ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2566 - 8 มิถุนายน 2566

 

เมื่อช้อปครบทุก 3,000 บาท แลกรับฟรี กระเป๋าอเนกประสงค์ Work & Study Bag มูลค่า 990 บาท มีให้เลือก สีคือสีดำ และสีเทา ให้ใส่สัมภาระได้ทั้งแบบถือ หรือคล้องกับกระเป๋าเดินทางเพื่อความสะดวกสบายในทุกทริป

 

ความพิเศษที่ 3: New Collection - UTGP 2023                                                                                                         

ร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 100 ปีของ Disney กับคอลเลคชัน UT GRAND PRIX (UTGP) พบกับธีมการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Disney, Pixar, Star Wars™ และ Marvel ผ่านการรังสรรค์จากสุดยอดผลงานของดีไซเนอร์มากฝีมือจากทั่วโลก

 

May be an image of text that says "NEW 1ก NEW COLLECTION COMING SOON! WOMEN UTGP2023 MAGIC FOR ALL UT 590THB 590 2023 出 UTGP HAPP YourA PUPPY DISNEY/PIXAR VAT 1 TERE"May be an image of textMay be an image of text

 

พร้อมกันนี้ยังมีสินค้าใหม่ๆ และสินค้าราคาพิเศษอีกมากมาย ให้ได้ช้อปสุดคุ้มอย่างจุใจสำหรับทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และเด็กๆ

 

คำขอบคุณที่ 4 : ชม Live กับ มิกซ์ สหภาพ พาช้อปโปรโมชันเทศกาล Arigato Festival

ชม Live สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ในวันที่ มิถุนายน เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป นำทีมช้อปสุดคุ้มโดย มิกซ์ สหภาพ ที่จะมาแนะนำความพิเศษทที่ห้ามพลาดของ Arigato Festival พิเศษสำหรับ 12 ท่านแรกที่ร่วมชมไลฟ์และร่วมตอบคำถามให้ถูกต้อง รับไปเลย กระเป๋าอเนกประสงค์ Work & Study Bag รอชม Live ผ่านช่องทางต่างๆ ของยูนิโคล่ได้ทั้งเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน Facebook Youtube และ LINE

 

live

 

ห้ามพลาดกับเทศกาลขอบคุณ Arigato Festival ตั้งแต่วันที่ 2 – 8 มิถุนายนนี้ ที่ร้านยูนิโคล่ทุกสาขาและยูนิโคล่ ออนไลน์สโตร์ที่ www.uniqlo.com/th 

 

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.uniqlo.com/th/th/spl/thank-you-festival และ Facebook และ Instagram @uniqlothailand #UNIQLOARIGATOFESTIVAL #ขอบคุณที่ให้ยูนิโคล่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคุณ

ไฮเออร์ นำทัพโดยคุณบอย ปกรณ์ลงพื้นที่ เปิดนโยบาย "คูลดี" พร้อมสัญญารับประกันแอร์ไฮเออร์ 10 ปี และ5 ปีแรก ฟรีทุกค่าใช้จ่าย!!

 


ไฮเออร์ (Haier) ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลก และแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอันดับ 1 ของโลกติดต่อกัน 14 ปีซ้อน ประกาศเปิดตัวแคมเปญการตลาดใหม่ เพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปีในอุตสาหกรรม ไฮเออร์ได้สร้างชื่อเสียงในด้านการผลิตผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง คงทน ประหยัดพลังงาน ซึ่งตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก


สำหรับแคมเปญใหม่นี้ถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นตลาดในประเทศไทยให้เกิดกระแสการถูกพูดถึงไม่ว่าจะเป็นช่องทางออนไลน์รวมไปถึงกิจกรรมในรูปแบบออฟไลน์ที่น่าสนใจ วัตถุประสงค์คือไม่เพียงแต่ การประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ ของไฮเออร์เท่านั้นแต่บริษัทต้องการแสดงถึงความเป็นผู้นำตลาดในอุตสาหกรรมไม่ว่าจะคุณภาพ นวัตกรรม ไปจนถึงการให้บริการหลังการขายที่สามารถทำได้จริง


image.png

ไม่นานมานี้ ได้มีแคมเปญการหาเสียงเลือกตั้งนำโดยคุณบอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ หัวหน้าพรรคไฮเออร์ (พรรคนี้อยากได้แอร์) และลูกพรรคที่มุ่งมั่นให้บริการลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์และบริการคุณภาพสูง จัดทีมลงพื้นที่ชูนโยบาย ณ ตลาดรวมทรัพย์ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายและมากขึ้น โดยมีการพูดแถลงของพรรค ชูนโยบาย "คูลดี ไม่มีเสื่อมคลาย" ซึ่งเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของไฮเออร์ ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และการบริการที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า โดยมีการมี การรับประกันผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศยาวนานกว่า 10 ปี  โดย 5 ปีแรกไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นค่าอะไหล่ ค่าช่าง และค่าเดินทาง ด้วยคำแถลงของนโยบายนี้ ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่า นอกจากการลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแต่มีคุณภาพสูงแล้ว แต่ยังได้รับประกันการบริการหลังการขายและดูแลจากทีมงานมือาชีพและได้มาตรฐานจากไฮเออร์ บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านชั้นนำอีกด้วย 


image.png     


ด้วยแคมเปญการตลาดใหม่นี้ ไฮเออร์ไม่เพียงแต่ส่งเสริมผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าด้วย การนำ เสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ยอดเยี่ยมอีกด้วยและยังส่งเสริมให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้งานผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศคุณภาพสูงของ Haier ตลอดระยะเวลาโปรโมชั่น

โคเวสโตรขยายฐานกลุ่มผลิตภัณฑ์โพลีคาร์บอเนต ที่ยั่งยืนมากขึ้น

 


ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับพลาสติกที่มุ่งเน้นความยั่งยืนโดยเฉพาะผลิตจากวัตถุดิบที่มีสัดส่วนของวัสดุรีไซเคิลหรือวัสดุชีวมวลสูง เพราะทิ้งร่องรอยมลพิษหรือคาร์บอนฟุตพริ้นท์น้อยลง ขณะเดียวกันนี้อุตสาหกรรมของเรากำลังเร่งเดินหน้าพัฒนาโซลูชั่นใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนและความเป็นกลางทางสภาพภุมิอากาศ โดยโคเวสโตรพร้อมนำเสนอโพลีคาร์บอเนตที่มีส่วนประกอบของ พลาสติกรีไซเคิลจากสิ่งเหลือทิ้หลังบริโภคถึง 90% (PCR หรือ Post–Consumer Recycled) 

โคเวสโตรต้องการที่จะขยายฐานกลุ่มผลิตภัณฑ์โพลีคาร์บอเนต ที่ยั่งยืนมากขึ้น อาทิเช่น
  • นำเสนอพลาสติกเกรดใหม่ที่ประกอบด้วยวัตถุดิบรีไซเคิลกว่า 90%
  • โพลีคาร์บอเนตที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ ด้วยส่วนประกอบที่ยั่งยืนสูงถึง 89%
  • การผนึกกำลังกับ Jabra ในชุดหูฟัง Evolve2

ปัจจุบัน โคเวสโตรคือผู้ผลิตและจำหน่ายโพลีคาร์บอเนต Makrolon ® RE รายใหญ่ โดยพลาสติกตัวนี้มีส่วนผสมของวัตถุดิบหมุนเวียนที่มากถึง 89% นอกจากนี้ สินค้าบางประเภทของโคเวสโตรยังผลิตโดยใช้พลังงานไฟฟ้าแบบหมุนเวียน 100% หนึ่งในนั้นคือโพลีคาร์บอเนต ที่มีความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศ ด้วยระบบที่ได้รับการรับรองจาก TÜV นับตั้งแต่สิ้นปี 2564

ที่ผ่านมา บริษัทได้จำหน่ายโพลีคาร์บอเนตที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศครั้งแรกของโลกแก่ลูกค้าในภูมิภาคยุโรป โดยซีรีส์ RE เป็นอีกหนึ่งสินค้าขึ้นแท่นในรายการ CQ ตอกย้ำความเป็นโซลูชันหมุนเวียนของโคเวสโตร

สิ้นสุดการรอคอย COCKTAIL และ Tilly birds แถลงข่าวประกาศจัดสองคอนเสิร์ตใหญ่

 


ค่าย GeneLab ในเครือ GMM GRAMMY ร่วมกับทีมครึ่งเก้า จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว 2 คอนเสิร์ตใหญ่แห่งปีที่แฟนเพลงตั้งตารอ ณ SIAM PARAGON (พารากอน ซีนีเพล็กซ์ โรงที่ 8)  โดยคอนเสิร์ต ‘It's Gonna Be Tilly Birds’ จะจัดขึ้นในวันที่ 1 กรกฎาคม 2566 ณ SHOW DC HALL ศูนย์การค้า SHOW DC และ คอนเสิร์ต ‘COCKTAIL CLASSICS’ จัดในวันเสาร์ที่ 5 และวันอาทิตย์ที่ 6 สิงหาคม 2566 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

โดยบรรยากาศตั้งแต่ช่วงบ่ายเป็นไปอย่างคึกคัก มีพี่ๆ สื่อมวลชน เพจเพลงดนตรีให้ความสนใจเดินทางมาร่วมเก็บภาพบรรยากาศและรายงานข่าวเป็นจำนวนมาก โดยมี คุณ ณภัทร รับหน้าที่พิธีกรของงานแถลงข่าว ขึ้นกล่าวทักทายทุกๆท่านที่มาร่วมงาน พร้อมเชิญ 3 สมาชิก เติร์ด อนุโรจน์ เกตุเลขาบิลลี่ ณัฐดนัย ชูชาติ และ ไมโล ธุวานนท์ ตันติวัฒนวรกุล วง Tilly Birds เล่าถึงที่มาที่ไปในการจัดคอนเสิร์ต จากนั้นถึงคิวพี่ใหญ่ของค่าย COCKTAIL นำโดย โอม ปัณฑพล ประสารราชกิจ (ร้องนำ)เชา ชวรัตน์ หรรษคุณาฒัย (กีตาร์)ปาร์ค เกริกเกียรติ สว่างวงศ์ (กีตาร์เบส) และ ฟิลิปส์-ฟิลิปส์ เปรมสิริกรณ์ (กลอง) ออกมา Show COCKTAIL & Orchestra ถือเป็นออเดิร์ฟเรียกน้ำย่อยกันก่อนงานคอนเสิร์ตใหญ่ที่กำลังจะมาถึง ทั้งสองวงเล่าถึงที่มาของการจัดคอนเสิร์ตเรียกว่าแค่งานแถลงข่าวก็ทำเอาทุกๆ คนตื่นเต้นกับคอนเสิร์ตใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น วันจริงจะมันส์ขนาดไหน

สำหรับงานคอนเสิร์ตเดี่ยว ‘It's Gonna Be Tilly Birds’ จัดขึ้นในวันที่ 1 กรกฎาคม 2566 ณ SHOW DC HALL ศูนย์การค้า SHOW DC เริ่มจำหน่ายเวลาเที่ยงตรง! ในวันพฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายนนี้ ภายในงานมีเพียงบัตรยืนราคาเดียว 2,500 บาท ทาง www.theconcert.com หรือ Application : The Concert

และมาเฉลิมฉลอง 20 ปีไปกับ ‘COCKTAIL CLASSICS’ ในวันเสาร์ที่ 5 และวันอาทิตย์ที่ 6 สิงหาคม 2566 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เริ่มจำหน่ายบัตร 17 มิถุนายนนี้ ทาง www.theconcert.com หรือ Application The Concert ราคาบัตร 4,000 3,500 3,000 2,500 1,500 และ 1,000 บาทสามารถติดตามรายละเอียดและความเคลื่อนไหวผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของ COCKTAIL, Tilly Birds และ GeneLab

 

#TillyBirdsConcert #COCKTAILCLASSICS #ทีมครึ่งเก้า #GeneLab #GMMGrammy

หัวเว่ยจัดงานสัมนา Healthcare Summit ครั้งแรกในไทย ลุยโชว์ศักยภาพเทคโนโลยีระดับโลก เสริมศักยภาพวงการแพทย์ไทย

 


กรุงเทพฯ 30 พฤษภาคม พ.. 2566 – บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด จัดงาน Healthcare Summit Thailand ซึ่งถือเป็นมหกรรมงานอัพเดทเทรนด์และเทคโนโลยีเพื่อการแพทย์และสุขภาพครั้งสำคัญในไทย โดยได้เปิดเผยถึงเทรนด์ที่น่าสนใจล่าสุดและนวัตกรรมใหม่ ๆ ในภาคอุตสาหกรรมสาธารณสุข มุ่งหวังผลักดันให้บุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนผู้ป่วยให้สามารถเข้าถึงการรักษาและบริการที่ดีที่สุด รวมไปถึงเทคโนโลยีระดับโลก มุ่งผลักดันอุตสาหกรรมภาคสาธารณสุขไทยเข้าสู่ยุคดิจิทัล สามารถประยุกต์ใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีไปจนถึงพัฒนาโซลูชันและแอปพลิเคชันด้านการดูแลผู้ป่วย 

 

นายเดวิด หลี่ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีความก้าวหน้าอย่างมากในด้านบริการและอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อตอกย้ำเป้าหมายในการมุ่งสู่เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ของภูมิภาคนี้ภายใต้วิสัยทัศน์ Thailand 4.0 ทำให้เรามุ่งให้ความสำคัญกับการเร่งยกระดับรากฐานโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเป็นอันดับแรก ๆ 

 

ภารกิจของหัวเว่ยคือการ "เติบโตในประเทศไทย ร่วมสนับสนุนประเทศไทยซึ่งหัวเว่ยจะเน้นไปใน 2 ทิศทางหลัก อันดับแรกคือการเน้นเพิ่มขีดความสามารถของพันธมิตร และระบบนิเวศของอุตสาหกรรมสาธารณสุขในประเทศไทย ผ่านโครงการและแผนงานต่าง ๆ พร้อมทั้งแนะนําแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดจากประสบการณ์ของภาคอุตสาหกรรมระดับโลกให้แก่ประเทศไทย อันดับที่สองคือหัวเว่ยจะยังคงมุ่งมั่นจัดหาโซลูชันที่เหมาะสมกับความต้องการและสถานการณ์ด้านสาธารณสุขในประเทศไทย เพื่อสนับสนุนลูกค้าและสนับสนุนเป้าหมายด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของอุตสาหกรรม

 

ในปัจจุบันหัวเว่ยมีผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่พัฒนาร่วมกับพันธมิตรและได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมจำนวนมาก เช่น พยาธิวิทยาดิจิทัล (Digital Pathology), หอพักผู้ป่วยอัจฉริยะ (Smart Ward) และระบบจัดการโรงพยาบาลเสมือน (Hospital Operation Center หรือ Digital Twin) ซึ่งทำงานบนพื้นฐานของโครงสร้างเทคโนโลยีที่โดดเด่นจากหัวเว่ย เช่น 5G, Wi-Fi และเทคโนโลยี all-flash Storage นอกจากนี้ หัวเว่ยยังมีพันธมิตรในอุตสาหกรรมมากกว่า 3,000 ราย รองรับการให้บริการแก่องค์กรด้านสาธารณสุขมากกว่า 5,000 แห่งในประเทศต่าง ๆ กว่า 90 ประเทศทั่วโลก

 

ด้าน ผศ. (พิเศษ) นพ. พลวรรธน์ วิทูรกลชิต ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมสาธารณสุขของประเทศไทย และปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารในบริษัท สบาย อินฟราสตรัคเจอร์ จำกัด ได้เปิดเผยว่า สาเหตุที่จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงด้านไอทีในการแพทย์ยุคใหม่ ก็เพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาด้านการรักษาคนไข้ ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการ เช่น ด้านการรอคิว การลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว การยกระดับประสบการณ์การใช้บริการของผู้ป่วย และการเข้าถึงบริการด้านการแพทย์ได้ดียิ่งขึ้น

 

ผศ. (พิเศษ) นพ. พลวรรธน์ ยังระบุว่า ระบบการเชื่อมโยงข้อมูลคนไข้อย่างราบรื่นไร้รอยต่อทั้งในและนอกโรงพยาบาล น่าจะเกิดขึ้นภายในเวลา 5 ปี รวมไปถึงการเชื่อมโยงฐานข้อมูลของสถานพยาบาลต่าง ๆ โดยไม่ละเมิดด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล

 

ผศ. (พิเศษ) นพ. พลวรรธน์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มเรื่องการนำเทคโนโลยี Internet of Medical Things (IOMT) ในประเทศไทยเริ่มมีมากขึ้น ตลอดจนเรื่องบิ๊กดาต้า การวิเคราะห์ข้อมูล และการบริโภคในตลาดการแพทย์ (Consumerism in the medical market) ที่จะมีทั้งในมุมที่ดีและไม่ดี ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงยาและเครื่องมือทางการแพทย์ได้ง่ายมากขึ้น และการแพทย์ทางไกลจะกลายเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะต้องพึ่งการมีระบบที่ดีเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและยังรักษาความเป็นส่วนตัวให้กับคนไข้ได้ด้วย

 

หัวเว่ยมั่นใจและพร้อมที่จะสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของภาคอุตสาหกรรมสาธารณสุขไทย เราจะเพิ่มการลงทุนด้านเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมสาธารณสุขและสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับลูกค้าและผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรม เพื่อสร้างรากฐานทางดิจิทัลบนพื้นฐานของเทคโนโลยีขั้นสูงด้วยการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล ทั้งนี้ เรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนอุตสาหกรรมสาธารณสุขของประเทศไทยให้แข็งแกร่งที่สุด” นายเดวิดกล่าวปิดท้าย

"น้ำ อรธารา" ปล่อยเพลงแนวลูกทุ่ง โชว์แซ่บ ใน "รักต้องมู" เอาใจสาว ๆ ที่อยากจีบหนุ่มในฝัน


 

หลังเป็นที่รู้จักจากตำแหน่งชิปเปอร์กับบทของ"เจ้จิ๋ม"เพื่อนสนิท "คุณสาม" (ฟรีน สโรชา) ใน "ทฤษฎีสีชมพู"  (GAP The series)  ซีรีส์แนว Girls’s Love (GL) เรื่องแรกของไทยจากบ้าน ไอดอลแฟคทอรี่ (IDOLFACTORY) "น้ำ อรธารา พูลศักดิ์"  ก็ได้โอกาสโชว์ความสามารถอีกด้านของตัวเอง ในบทบาทใหม่กับการเป็นนักร้องเต็มตัวพร้อมปล่อยซิงเกิ้ลแรกในชีวิตกับเพลงแนวลูกทุ่งทันสมัย"รักต้องมู"แต่งโดย "บอย เขมราฐ"  นักแต่งเนื้อเพลงมือหนึ่งของวงการเพลงลูกทุ่งตอนนี้ เพลงเนื้อหาแซ่บ กระตุกต่อมคนอยากมีความรัก ถ้าจะมีความรักทั้งทีมันยาก ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ไม่ได้ด้วยกล มันก็ต้องใช้มนต์คาถาแบบมูเตลู  งานนี้"น้ำ อรธารา" เปิดใจถึงซิงเกิ้ลแรกว่า น้ำ เปิดใจว่า" เพลง รักต้องมู  เป็นเพลงแนวลูกทุ่งสมัยใหม่ ฟังได้ทุกเพศทุกวัยค่ะ ที่เลือกแนวนี้เพราะน้ำเป็นเด็กที่โตมากับเพลงลูกทุ่ง ตั้งแต่เด็กก็เป็นนักร้องแนวลูกทุ่งสายประกวดเลย มันคือตัวเราจริง ๆ ออกมาจากคาแรคเตอร์ จากอินเนอร์ข้างในก็ว่าได้ค่ะ  เพลงนี้มาจากที่น้ำรู้สึกว่าคนไทยส่วนใหญ่มีความเชื่อเรื่องการมูเตลู

แล้วตัวน้ำเองก็เป็นสายมูคนนึงเหมือนกันค่ะ เพลงนี้ตั้งใจทำออกให้ดูสนุกสนาน เล่าเกี่ยวกับความพยายามของผู้หญิง ที่ไปแอบชอบผู้ชายคนนึงแบบมาก ๆ แต่ไม่รู้ว่าจะจีบเขายังไงก็เลยเพิ่งการมูเตลู ทั้งไหว้ของดำ  ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ให้มาช่วยเรา อยากให้ผู้ชายมารักมาหลงเราค่ะ  ขอฝากเพลงซิงเกิ้ลแรกในชีวิตของน้ำไว้ด้วยนะคะ " 


สามารถติดตามรับชม MV เพลง "รักต้องมู" ได้ทาง  ช่องยูทูป IDOLFACTORY OFFICIAL   เร็ว ๆ นี้ 

Link Teaser:  https://www.youtube.com/watch?v=txU6mbtYFD0


#รักต้องมู  #namorntaraaa #idolfactoryTH #รักต้องมูTeaser 

“คุยไร” ความสัมพันธ์แบบไม่มีสถานะจาก วง “MEAN” กลับมาคึกคัก ได้ “TIMETHAI” ร่วม Collab

 


กลับมาคึกคักอีกครั้ง สำหรับ หนุ่ม วง MEAN จากค่าย  LOVEiS ENTERTAINMENT หลังจากหายหน้าหายตาไปไม่นาน ล่าสุดซุ่มทำเพลงใหม่จนได้กลับมาส่งผลงานคุณภาพมาฝากแฟนเพลงเช่นเคย ครั้งนี้พวกเขากลับมาพร้อมชวนแร็พเปอร์สุดเท่ อย่าง “TIMETHAI” มาร่วม Collab กับซิงเกิลใหม่ที่มีชื่อว่า “คุยไร”      (KUY RAI)

 

คุยไร” (KUY RAI) เพลงใหม่ล่าสุดของ วง MEAN เล่าถึงเรื่องราวที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่มีสถานะแค่ “คนคุย” และไม่มีทางได้เลื่อนขั้นไปมากกว่านี้ โดยเพลงนี้ ได้หนุ่มไฟแรงอย่าง HYE มาช่วยสร้างสีสันและกลิ่นใหม่ ๆ ให้กับวง MEAN และพิเศษไปกว่านั้นคือยังได้แร็พเปอร์มากฝีมืออย่าง “TIMETHAI” มาร่วมแต่งเนื้อร้องและร่วมถ่ายทอดทำให้เพลงมีความสนุกและมีความเท่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ในส่วนของ MV เพลงนี้ หนุ่มวง MEAN และ TIMETHAI ก็ได้ร่วมแสดงโดยมาในลุคของ ทีมปราบผี และพิเศษสุดๆ เพราะพระเอก MV นี้ รับบทโดย “น้องวิคเตอร์” จากวง PROXIE มาร่วมเล่าเรื่องราวผ่านตัวละครนี้อีกด้วย จากเป็นคนอยู่ดีๆ เกิดอยากจะรับบทผีขึ้นมาซะงั้น ก็จะไม่ให้เรียกว่าผีได้ยังไง ในเมื่อติดต่อไม่ได้เหมือนคนหายสาบสูญ แต่   วันดีคืนดีเกิดนึกจะมาก็มา ซึ่งบอกเลยว่าเพลงนี้โดนใจสำหรับใครที่กำลังเจอความสัมพันธ์แบบนี้แน่นอน

 

ถ้าอยากรู้ว่าเรื่องราวของเหล่าทีมปราบผีจะเป็นอย่างไร ติดตามฟังเพลงและชมมิวสิควิดีโอ “คุยไร” (KUY RAI) - MEAN x TIMETHAI ได้ตั้งแต่วันนี้ที่ Youtube/LOVEiS และติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ได้ทาง Facebook/ Twitter : MEAN Band / Instagram : @meanband, Facebook : LOVEiS /Twitter/Instagram : @LOVEiS_ent /TikTok : @meanband

ลิงค์ MV:https://www.youtube.com/watch?v=Ju5gkkGF4PU


15 ปี บทพิสูจน์เส้นทางความสำเร็จของ “เรดดี้” กับภารกิจปลุกพลังผู้หญิงยุคใหม่ “พร้อมไปสุด ทุกความเป็นคุณ”

 


กรุงเทพฯ (29 พฤษภาคม 2566) - ภาพลักษณ์ของเครื่องดื่มให้พลังงาน มักถูกถ่ายทอดและสื่อถึงคุณประโยชน์เพื่อผู้ชาย ทำให้สินค้าประเภทนี้เหมือนถูกตีกรอบเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นชายเท่านั้นมาโดยตลอด แต่วันที่แบรนด์ “เรดดี้” (Ready) เปิดตัวและประกาศชัดเจนว่า นี่คือเครื่องดื่มให้พลังงานสำหรับผู้หญิง ก็สามารถสร้างสีสันและปรากฎการณ์ทางการตลาดขึ้นมาในชั่วพริบตา ทำให้เครื่องดื่มที่มาในขวดเพรียว ไซส์กะทัดรัดเหมาะมือสุภาพสตรี อย่าง “เรดดี้” ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ทั้งยังชี้ให้เห็นว่า “ผู้หญิง” จะขึ้นแท่น กลายเป็นกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายที่น่าสนใจ
 
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ “เรดดี้” สามารถยืนหยัดเพื่อผู้บริโภคผู้หญิงมาตลอดระยะเวลากว่า 15 ปี และปัจจัยที่ทำให้แบรนด์ยังคงแข็งแกร่งครองความเป็นผู้นำเครื่องดื่มให้พลังงานสำหรับผู้หญิงคืออะไร ต้องมาร่วมพิสูจน์กัน…

สำรวจจุดแข็งแบรนด์ “เรดดี้” ก่อนจะมี Image for Women ที่ชัดเจน
จากจุดเริ่มต้นที่แข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจ TCP กับการบุกเบิกและเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มให้พลังงานอย่าง “กระทิงแดง” แบรนด์ไทยที่เติบโตและเป็นที่นิยมทั่วโลก ต่อมาจึงได้รุกตลาดเครื่องดื่มให้กว้างขึ้นด้วยการเปิดตลาดเครื่องดื่มให้พลังงานกลุ่มพรีเมียมสำหรับผู้หญิง ภายใต้แบรนด์ “เรดดี้” (Ready) หลากหลายสูตร

  • เรดดี้ โกจิเบอร์รี่ อุดมด้วยโกจิเบอร์รี่ แหล่งรวมสารต้านอนุมูลอิสระสูง
  • เรดดี้ บู้ท มีแอล-อาร์จินีน ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และซิงค์ ตอบโจทย์ผู้หญิงสายเอ็กซ์ตรีม
  • เรดดี้ พิงค์ น้ำลิ้นจี่ เลมอน มีคอลลาเจน และวิตามินซี สำหรับกลุ่มวัยรุ่นที่ใส่ใจผิวสวย
  • เรดดี้ โกจิเบอร์รี่ 0% น้ำตาล เอาใจกลุ่มสาวๆ ที่ใส่ใจสุขภาพขั้นสุด

หากวิเคราะห์ความโดดเด่นที่สามารถตีตลาด และเปิดใจให้ผู้บริโภคผู้หญิง “กล้า” และ “เปลี่ยนทัศนคติ” มาทดลองเครื่องดื่มให้พลังงานกลุ่มพรีเมียมได้ เพราะ “เรดดี้” สร้างความแตกต่างให้กับตลาดได้ถูกที่ถูกเวลา ตีโจทย์ความต้องการของตลาดได้ตรงจุด และตอบเทรนด์การตลาดเพื่อสุขภาพและความงามที่กำลังขยายตัวได้อย่างทันท่วงที


  • ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ “พร้อมไปสุด” สร้างความสดชื่น ให้ร่างกายพร้อมสู้ทุกกิจกรรมในทุกๆ วันของผู้หญิง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และตรงใจผู้หญิงทำงานยุคใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์คล่องแคล่ว และต้องการพลังในการทำงานไม่ต่างจากผู้ชาย
  • มากกว่าความเป็น Energy Drink ด้วยการเพิ่มคุณค่าและคุณประโยชน์มากขึ้นด้วยสรรพคุณและส่วนผสมที่ให้ผลลัพธ์ด้านสุขภาพและความงาม ไม่ว่าจะเป็น โกจิเบอร์รี่, แอล-อาร์จินีน, ซิงค์, คอลลาเจน และวิตามินซี และพร้อมตอบเทรนด์ลดบริโภคน้ำตาลด้วยสูตรไม่มีน้ำตาล (0% Sugar)
  • รูปลักษณ์ของบรรจุภัณฑ์สร้างความแปลกใหม่ และสร้างภาพลักษณ์อินเทรนด์ให้กับผู้ดื่มได้ เป็นแบรนด์แรกที่ออกขวดใสเห็นสีน้ำภายในชัดเจน ผสมน้ำผลไม้ให้รสชาติที่สดใหม่ มาในขวดทรงใหม่ เพรียว ถือได้ง่าย แตกต่างจากที่เคยเห็นทั่วไป
  • ยกระดับตลาดเครื่องดื่มให้พลังงานกลุ่มพรีเมียม ด้วยการเพิ่มคุณประโยชน์มีส่วนช่วยการบำรุงสุขภาพและความงาม
  • ระบบการจัดจำหน่ายสินค้าที่เหนือกว่าจาก “เดอเบล” ผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าภายใต้กลุ่มธุรกิจ TCP ทำให้ร้านค้าและลูกค้าทั่วประเทศสามารถเข้าถึง “เรดดี้” ได้อย่างรวดเร็ว มีครบทุกช่องทาง และยังยึดแผงค้าร้านค้าในชุมชน ด้วยโปรโมชั่นจูงใจให้ทดลองขาย

นางประไพภักตร์ ไวเกิล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโกลบอล (F&B) กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า “เรดดี้ ได้รับการยอมรับว่าเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งในตลาดเครื่องดื่ม วัดได้จากสินค้าตัวแรกของแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงมากตั้งแต่ปี 2552 อย่าง “เรดดี้ โกจิเบอร์รี่” เป็นเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคผู้หญิงที่ต้องการพลังงานพร้อมกับดูแลตัวเองเป็นอย่างดี “เรดดี้” ยังคงออกผลิตภัณฑ์ใหม่พร้อมทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง จึงสามารถสร้างฐานลูกค้าผู้หญิงได้อย่างมั่นคงต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน”

ก้าวต่อไปของ “เรดดี้” เพื่อยกระดับ Women’s Empowerment ในสังคม

ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา “เรดดี้” ทำหน้าที่มากกว่า Energy Drink ด้วยการตอบโจทย์ความต้องการของผู้หญิงรุ่นใหม่ที่มีบทบาทสำคัญมากยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อน หรือ Empower ผู้หญิงในสังคม โดยรุกหนักกิจกรรมการตลาดและแคมเปญต่างๆ ที่สะท้อนแนวคิดปลุกพลังความพร้อมของผู้หญิงกับสโลแกน “พร้อมไปสุด ทุกความเป็นคุณ” และส่งต่อแรงบันดาลใจและสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น นำเสนอความเชื่อในเรื่องความดีและความสดชื่นผ่านพรีเซนเตอร์ผู้หญิงคนเก่ง อย่าง พอลล่า เทเลอร์, ชมพู่-อารยา, พลอย-เฌอมาลย์, มาร์กี้-ราศรี, ใหม่-ดาวิกา, ใบเตย-สุวพิชญ์ และล่าสุด ต้าเหนิง-กัญญาวีร์

จากผลการสำรวจล่าสุดโดยกันตาร์ (Kantar) พบว่าเครื่องดื่มให้พลังงานกลุ่มพรีเมียมเพิ่มสัดส่วนผู้บริโภคที่เป็นผู้หญิงมากขึ้น จากเดิม 48% เป็น 55% และผลการสำรวจพฤติกรรมและความคิดเห็นของผู้บริโภคที่ดื่มเครื่องดื่มให้พลังงาน พบว่า “เรดดี้” ได้รับการตอบรับเป็นอย่างสูงโดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงอายุ 18-35 ปี ที่มีการทดลองดื่มเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้แบรนด์เตรียมเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นและสร้างแรงดึงดูดใจให้ผู้หญิงรุ่นใหม่ มาทดลองเครื่องดื่มให้พลังงานมากขึ้น เพื่อขยายฐานผู้บริโภคหน้าใหม่

นอกจากนี้ ผลการสำรวจตลาดโดยนีลเส็น (Nielsen) พบว่า “เรดดี้” ยังคงเป็นแบรนด์เครื่องดื่มให้พลังงานกลุ่มพรีเมียมเพียงรายเดียวที่ยังคงมียอดขายเป็นอันดับหนึ่งต่อเนื่อง โดยในปี 2565 มียอดขายเติบโตขึ้น 15% จากปีก่อนหน้า และมีส่วนแบ่งการตลาด 70% จากมูลค่าตลาดรวมของเครื่องดื่มให้พลังงานกลุ่มพรีเมียมประมาณ 1,495 ล้านบาท


“เรดดี้” พร้อมนำบทเรียนความสำเร็จตลอด 15 ปี มาปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำเทรนด์ใส่ใจตัวเอง เดินหน้าปลุกพลังใจให้ผู้หญิงยุคใหม่ “พร้อมไปสุด ทุกความเป็นคุณ” ด้วยการปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญ ตั้งเป้าครองใจผู้บริโภค และส่งสารความเป็นแบรนด์ที่ส่งเสริมพลังของผู้หญิงให้ชัดเจนขึ้น

  • ปรับโฉมแพคเกจจิ้งใหม่ครั้งแรกในรอบ 15 ปีให้มีสีสันโดดเด่นกว่าเดิม ด้วยภาพผลไม้ที่เป็นส่วนผสมในแต่ละสูตรที่เด่นชัด ให้ความรู้สึกสดชื่น แต่ยังคงมีสัญลักษณ์รูป Power on ที่เป็น Icon ของ “เรดดี้” อยู่เช่นเดิม เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นของแบรนด์ที่สื่อถึงการสตาร์ทพลังความพร้อมของผู้หญิงตลอดไป
  • สานต่อจุดขาย “พรีเซนเตอร์แม่เหล็ก” ดึงดูดให้เชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเอง ด้วยการเปิดตัวพรีเซนเตอร์คนใหม่ “ต้าเหนิง - กัญญาวีร์ สองเมือง” นักแสดงและนางแบบที่มีความเป็นตัวของตัวเอง และยังสวมบทบาทใหม่ในฐานะ CEO ของ QOW Entertainment ทำให้เธอถูกยกให้เป็นผู้บริหารคนรุ่นใหม่ที่มีครบเครื่อง ทั้งความสวย คล่องแคล่ว มีบุคลิก และความมุ่งมั่นไปสู่ความสำเร็จ ถ่ายทอดความเป็น The Self Achiever ผู้หญิงรุ่นใหม่ที่พร้อมไปสุดทุกทางเช่นเดียวกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ “เรดดี้"
  • จัดกิจกรรมการตลาดครบทุกช่องทาง ทั้งการใช้สื่อออฟไลน์และออนไลน์ รวมถึงภาพยนตร์โฆษณา โดยมุ่งเน้นไปที่การตอกย้ำภาพลักษณ์ความพรีเมียม ความสำเร็จของผู้หญิงและกระตุ้นให้เกิดการดื่ม “เรดดี้” ด้วยแพคเกจจิ้งและพรีเซนเตอร์คนใหม่

“เรามั่นใจว่าการปรับโฉมแพคเกจจิ้งใหม่และเปิดตัวพรีเซนเตอร์คนใหม่ จะถูกใจผู้บริโภคและสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รักษาฐานลูกค้าเก่าและดึงดูดลูกค้าใหม่ พร้อมอยู่เคียงข้าง ขับเคลื่อนพลังผู้หญิง ตามเป้าหมายปลุกพลัง เพื่อวันที่ดีกว่า ของกลุ่มธุรกิจ TCP” นางประไพภักตร์ กล่าวทิ้งท้าย


ที ลีสซิ่ง จับมือ ศรีประจันต์วัฒนยนต์ จัดอบรม "ขับขี่ปลอดภัย ร่วมใจลดมลพิษ" โรงเรียนสงวนหญิง จ.สุพรรณบุรี

  บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด  ผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้ อรถจักรยานยนต์  ในเครือ เอ็ม บี เค  เล็งเห็นความสำคัญของการขับขี่ รถบนท้องถนนอย่างปลอ...